วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

"พานทองแท้" FB คุณยายสุดเจ๋ง ปาหมวกใส่ปาก"ทยา"นกหวีดประเด็น

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 go6TV –  เมื่อเวลา 19.30 น. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra(https://www.facebook.com/oakpanthongtae)  โดยมีเนื้อหาดังนี้



Unseen แก๊งค์ป่วนเมืองครับ

เมีย สส.ประชาธิปัตย์ เป่านกหวีดใส่คุณแม่ผม แล้วทำเป็นมาพูดว่าคุณแม่ผมวิ่งหนี..!!
ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นการเดินไปขึ้นรถ โดยมีการ์ดคอยกัน2คนผัวเมียจอมป่วนเมืองให้ไปห่างๆ

เรื่องจริงปรากฏว่า เมื่อคุณแม่ผมขึ้นรถกลับไปแล้ว เมียสส.คนนี้กลับโดน "คุณยายใจเด็ด" อายุกว่า 80ปี ปาของใส่หน้า จนนกหวีดที่เป่าแบบไม่ลืมหูลืมตากระเด็นหลุดปากครับ 55555..โสน้าน่าจิงจิง..55555 ดูบรรยากาศของเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจริง ได้ตามนี้เลยครับ....

http://youtu.be/vcoJpZyDQbQ

ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวครับ ตัวเองเป็นเจ้าของคลิป อายสลิ่มด้วยกันที่เจอคุณยายใจเด็ดหักเหลี่ยม พอนำมาขยายผลลงยูทูปกลับกลัวเสียฟอร์ม ไม่กล้าเผชิญหน้าความจริง จึงแอบลบช่วงท้ายที่ถูกเขวี้ยงนกหวีดกระเด็น แต่ก็ยังมีสลิ่มด้วยกันเองงัดออกมาประจานจนได้ 55555

พฤติกรรมก้าวร้าวของเมียสส.คนนี้ เดือดร้อนถึงผู้เป็นแม่ครับ ซึ่งหลังจากลูกสาวถูกปาของใส่หน้า จนนกหวีดหลุดจากปากได้ไม่ถึงชั่วโมง คุณแม่คือคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ ทราบเรื่อง จึงได้โทรมาขอโทษคุณแม่ผม ที่ลูกสาวตัวเองมีพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งคุณแม่ผมก็ให้อภัย ไม่ได้ว่าอะไร

นี่เป็นแค่ตัวอย่างเดียว ซึ่งเมียสส.ถูกเขวี้ยงนกหวีดกระเด็น โดยไม่ต้องมีการจัดฉากรีทัชตัดต่อครับ ครั้งหน้าถ้าญาติสนิทมิตรสหายของพรรคประชาธิปัตย์ ยังนำพฤติกรรมเสื่อม-ถอย-ถ่อย-เถื่อน ที่พรรคประชาธิปัตย์กระทำในสภาฯ ออกมาใช้กับบุคคลภายนอกอีก ผมเชื่อว่าจะต้องโดนพี่น้องประชาชนรอบข้างที่เหลืออด ตอบโต้กลับไปเช่นเดียวกัน

อยากเป่าคนโกงตัวจริงก็นู่นเลยครับ แม่ของพรรคพวกตัวเองตั้ง2คน ไปเป่ากันเองให้หนำใจ คนหนึ่งแม่สร้างหนี้เป็นร้อยล้าน ลูกชายอาศัยใกล้ชิดสนิทสนมกับนายกฯ รีดไถการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ จนปลดหนี้แม่ตัวเองได้ สร้างความบาดหมางใจกับพี่น้องตำรวจมาจนทุกวันนี้ และอีกคนคุณแม่ฉ้อโกงหนีคดีไปจนกระทั่งหมดอายุความ ตัวลูกยังลอยนวลว่าคนโน้นคนนี้ทุจริตอยู่บนเวที แม่ตัวเองขี้โกงกลับมองไม่เห็น

พรรคฯพวกเดียวกันไม่เป่า มาเป่าใส่คนอื่น ก็หงายเงิบแบบนี้แหละ 55555
เข็ดไหมจ้ะ "ทยา (ศรีวิกรณ์)ทีปสุวรรณ"


"น้องไบรท์-เรื่องเล่าเช้านี้" สวน "กปปส." วิจารณ์ได้ แต่อย่าข่มขู่บิดเบือนกล่าวหาโดยไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง


น้องไบรท์ ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 แห่งเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์ข้อความชี้แจงการรายงานข่าวหลังถูกวิจารณ์การรายงานข่าว

น้องไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ผู้ประกาศข่าวชื่อดังแห่งรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3  ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตราแกรมชี้แจงการรายงานข่าวหลังถูกวิจารณ์จากเฟซบุ๊ค เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อ พ่อ โดยข้อความของ น้องไบรท์ มีดังนี้

การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานสามารถทำได้ แต่อย่าบิดเบือน และข่มขู่ ข้อเท็จจริงของข่าวที่รายงานเมื่อเช้าคือ

1. เหตุการณ์ที่จ.ตราดมีเด็กเสียชีวิต 2 คน คนที่รายงานเมื่อเช้าคือ "ด.ญ.ณัฐชยา รอสูงเนิน หรือน้องขิม" ซึ่ง "เป็นคนละคน" กับ "ด.ญ.ฬิฬาวัลย์ พรหมช่วย" (ไม่ทราบชื่อเล่น) ที่วิ่งเล่นอยู่ในวันเกิดเหตุขณะแม่กำลังล้างจานแล้วถูกยิงเสียชีวิต

2.นางละมัย รอสูงเนิน ย่าของน้องขิมเล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า ตนพร้อมนายมานะ รอสูงเนิน ผู้เป็นปู่ ได้พาน้องขิมพร้อมหลานๆ ไปฟังการปราศรัยของกลุ่มกปปส.ที่ตลาดยิ่งเจริญ ก่อนกลับพาหลานไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านเกิดเหตุ / เช่นเดียวกับนายวัชระ พูนทอง ลุงของน้องขิมที่เล่าว่า น้องขิมติดตามปู่และย่า ไปฟังการปราศัยของกลุ่มกปปส.ที่ต.แสนตุ้ง เนื่องจากนายมานะและนางละมัยชอบกปปส. จนมาเกิดเหตุน้องขิมถูกยิงแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา

การโพสต์ข้อความลงใน FB ของ"เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ" จึงเป็นการบิดเบือนและกล่าวหา โดยไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลอย่างถูกต้อง / การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานสามารถทำได้ และยินดีเปิดรับฟังทุกฝ่ายนะคะ แต่ต้องไม่มีอคติ หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อข่มขู่ และสร้างความเกลียดชัง


หลายคนเข้ามาให้กำลังใจน้องไบรท์เป็นจำนวนมาก

จับพม่า 3 คนรับจ้างขนอาวุธสงคราม พบโยงม็อบ กปปส.


เลขา สมช. เผย กอ.รมน. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุม 3 หนุ่ม ขนอาวุธสงคราม พร้อมยึดระเบิด ปืน หลายกระบอก คุมตัวสอบ 

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 3 คน ขนอาวุธสงคราม โดยพบของกลางจำนวนมาก อาทิ ระเบิด G5 G7 พร้อมเครื่องยิงและปืนพกบาเร็ตต้าจำนวนหลายกระบอก รายละเอียดคืบหน้าจะนำมาแจ้งให้ทราบต่อไป

แม่ขึ้นมาชุมนุมกับม็อบสุเทพ หายตัวไม่ไปกลับบ้าน ลูกชายเป็นห่วงประกาศตามหาตัวด่วน


แม่ขึ้นมาชุมนุมกับม็อบสุเทพ หายตัวไม่กลับบ้าน ลูกชายเป็นห่วงประกาศตามหาตัวด่วน

ที่ไอดีเฟสบุ้ค Canac Natanan ได้เผยแพร่ภาพหญิงคนหนึ่ง โดยแจ้งว่าเป็นแม่ของเพื่อน ได้หายตัวไปจากม็อบกปปส และไม่ติดต่อทางบ้าน ลูกชายเป็นห่วงมาก ที่เวทีประกาศหาให้เพียงรอบเดียวก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ  โดยมีข้อความว่า

“มีเพื่อนขอความช่วยเหลือครับ แม่ขึ้นมาร่วมชุมนุมกับ กปปส. แล้วหายไปร่วมสัปดาห์
 ในภาพตามวงกลมสีเหลือง ชื่อป้าภัค สุภัค ทองชั้น อายุประมาณ 55-60 ปี ใครเคยพบเห็น ติดต่อกลับ ปอนด์ (ลูกชาย) 085-477-3494

ป้าภัคขึ้นมาจากภูเก็ต แล้วหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ล่าสุดโทรศัพท์คุยกับลูกชาย ป้าภัคอยู่หัวลำโพง จากนั้นสายหลุดไป จนถึงวันนี้ยังติดต่อไม่ได้และไม่มีการติดต่อกลับอีกเลย ตอนนี้ลูกชายกำลังเดินทางขึ้นมา กทม. เพื่อมาตามหาแม่ครับ

 รบกวนด้วยครับคนทางบ้านร้อนใจมาก


(ได้สอบถาม รพ. กับศูนย์เอราวัณแล้ว ไม่มีในชื่อคนบาดเจ็บ - เสียชีวิต ครับ)” 

An upsetting run in Lumpini as Bangkok public space is slowly allowing itself to be taken over by lawless thugs.

An upsetting run in Lumpini as Bangkok public space is slowly allowing itself to be taken over by lawless thugs.


I run in Lumpini park everyday. Today I entered the park at 1pm and on my right was a group of mob guards surrounding one Thai guy. They were intimidating him and put his head between his legs and were hitting him on the head. Maybe the guy did something wrong maybe not, but physical abuse is not okay.

I saw this and asked them what they were doing and took a picture. The picture upset them and then I told them they were not police, which upset them a bit more... the one guy got quite aggressive in his speech and approached me and said he was a police officer, I once again, told him he wasn't.

They didn't touch me but it left me quite shaken. There were no park security in that area so I went up to the gate near the police station side of wireless and found REAL, security guards and asked them why they were not patrolling and being a big baby, subsequently burst into tears....they said they were not allowed over there by the mob guards.

Which leads me to point...Thai citizens, are you not worried about what is going on? Protesters wear cute tshirts and throw around jargon whilst people with no authority are seizing it and creating an unsafe and hostile city.


I am sad.

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ภาพชุด รถพ่วงพุ่งชนรถบัส บางนาตราด กม.40 เมื่อตอนหัวค่ำ







ภาพชุด รถพ่วงพุ่งชนรถบัสที่จอดกินเลนอยู่ เบรกไปทันชนอย่างจัง ย่านบางปะกง บริเวณ บางนาตราด กม.40 บาดเจ็บหลายคน

ศาลอาญาไม่อนุมัติหมายจับ! "มือปืนป็อบคอร์น" เหตุปะทะแยกหลักสี่ อ้างให้หาพยานหลักฐานมาเพิ่ม



รายงานความคืบหน้าล่าสุดจากตำรวจ ในคดีเหตุปะทะที่หลักสี่ในวันนี้  คดีนี้ทางฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุซึ่งเบื้องต้นสามารถกำหนดกลุ่มที่ใช้อาวุธปืนได้ อีกทั้งทาง พล.ต.อ.จรัมพรฯ ได้ทำภาพจำลองตำแหน่งผู้กระทำผิดต่างๆเพื่อประกอบสำนวนการ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย
ปรากฏว่า 1 ใน 4 รายนั้น ทางศาลได้ยกคำร้องโดยให้หาพยานหลักฐานมาประกอบเพิ่มเติม
ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 รายนั้น ทางศาลอาญา ได้นัดฟังคำขออนุมัติออกหมายจับ ในวันที่ 11 มีนาคม 2557

“ชูวิทย์” FB แฉ กปปส. โฆษณาชวนเชื่อ ล้างสมองมวลชน

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 go6TV – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 (วานนี้) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชูวิทย์ I'm No.5 (https://www.facebook.com/ChuvitOnlineโดยมีเนื้อหาดังนี้



โฆษณาชวนเชื่อ Propaganda


รัฐบาลต่อสู้กับกบฏ ต้องมีการแย่งชิงมวลชนมาเป็นพวก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ โฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้อำนาจของแต่ละฝ่ายดูน่าเชื่อถือ สมัยก่อนใช้ใบปลิว วิทยุกระจายเสียง จนปัจจุบันใช้โฆษณาชวนเชื่อผ่านสังคมออนไลน์ ทั้งรัฐ ทั้งกบฏ ตอบโต้กัน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

การโฆษณาชวนเชื่อเป็นการกระจายข่าวสาร เป่าหู โจมตีตัวบุคคล ตั้งสมญานาม พูดจาซ้ำๆ จำกัดข้อมูลเพียงด้านเดียว แบ่งแยกฝ่ายชัดเจน มักอ้างอิงถึงคุณธรรมของแต่ละฝ่าย ผลักไสผู้ที่ไม่ใช่พวกของตนออกไปเป็นฝ่ายชั่วร้าย เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Propaganda

การใช้โฆษณาชวนเชื่อเพื่อล้างสมองมวลชนที่มีจิตใจใสซื่อบริสุทธิ์ ปรารถนาเห็นประเทศชาติบ้านเมืองก้าวหน้ามั่นคง มักใช้ผ่านตัวแทนไม่ว่าเด็ก วีรบุรุษ พระสงฆ์องค์เจ้า หรือคนกลางที่ดูน่าเชื่อถือของสังคม แม้แต่นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัคราชฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ล้วนตกเป็นเครื่องมือในการสร้างและทำลายของกระบวนการนี้

ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรับผลัดกันรุก เคยเป็นรัฐบาลกันมาแล้วทั้งคู่ เชี่ยวชาญเกมส์การเมือง รู้จักกระบวนการโฆษณาชวนเชื่อเป็นอย่างดี สร้างความแตกแยกร้าวฉานไม่รู้จุดจบให้กับประชาชน ที่ต้องถูกล้างสมองโดยไม่รู้ตัว ถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคม

มีการใช้โฆษณาชวนเชื่อผ่านสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการโพสต์ คอมเมนท์ เฟสบุ๊คที่ไม่มีตัวตน IGดารานักแสดง บางคำพูดถูกตัดมาใช้เป็นประโยชน์ ประชาชนต้องระวังอย่างยิ่ง อย่าตกเป็นเหยื่อ

หลักการสำคัญของการโฆษณาชวนเชื่อคือ อย่าให้ถูกจับได้แม้แต่ครั้งเดียว จะถือว่าล้มเหลว ไม่สามารถโฆษณาชวนเชื่อได้อีก ต่างฝ่ายจึงไม่ยอมรับว่ากำลังโฆษณาชวนเชื่ออยู่ เป็นที่มาของคำว่า "แถ" ในอินเตอร์เน็ต

ประชาชนคนไทย "โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม" เหมือนดูหนังผี ควรมีเรตติ้งกำกับ โดยเฉพาะช่วงนี้ออกฉายตอน 2 ทุ่มทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ถึงขนาดมีช่องของตัวเองเปิดให้ดูทั้งวันทั้งคืน ประชาชนตั้งแต่เด็กยันแก่ติดกันงอมแงม

เข้าทำนองสำนวนไทยที่ว่า ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด เดี๋ยวนี้เลย สะเออะ มีแต่คน กระแดะ

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ภาพชุด ฆ่ามัดกระสอบหนุ่มนกหวีด โยนลงเจ้าพระยา









เขต สน.บางพลัด รับแจ้งพบกระสอบป่านลอยน้ำมา ใกล้เคียง รร.ริเวอร์ไซค์ เปิดกระสอบมาเจอผู้เสียชีวิตชาย1รายในกระสอบดังกล่าว ให้เข้าซ.ราชวิถี


พบผู้เสียชีวิตเป็นชายถูกมัดมือมัดเท้าไขว้หลัง ใส่ในกระสอบป่านทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ตำรวจคาดถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิตและนำศพไปทิ้ง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สามารถบอกอะไรได้ เนื่องจากผู้ตายไม่มีหลักฐานใดๆติดตัว แต่คาดว่าน่าจะถูกรุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนจะถูกมัดมือมัดเท้า นำศพใส่กระสอบไปโยงทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่ออำพรางคดี

"จ่าเอกหน่วยซีล" รับสารภาพ! เป็นทหารเรือในราชการจริง ถูกจ้างให้มาคุ้มกันแกนนำม็อบสวนลุมพินี



เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 26 ก.พ. พ.ต.ท.ณัฎฐพัชร์ ผดุงจันทน์ รอง ผกก.จร.สน.บุคคโล นำกำลังตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรอยู่บนถนนตากสิน ช่วงสี่แยกมไหสวรรย์ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม.พบรถกระบะขนาดเล็กแต่งซิ่ง ยี่ห้อดัทสัน สีเขียว ทะเบียน บน 482 ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้า มีเพียงป้ายทะเบียนด้านหลัง ขับผ่านมาในลักษณะมีพิรุธจึงเรียกให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจสอบ




พบผู้ขับขี่ชื่อ จ.อ.สมพงศ์ แท่นนาค อายุ 34 ปี สังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ เดินทางมาพร้อมคนนั่งข้างๆ ชื่อ จ.อ.ปรีชา มูลพวก อายุ 34 ปี ทหารสังกัดเดียวกัน เมื่อขอให้ทั้งคู่ลงจากรถเพื่อทำการตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อกล็อค รุ่น 17 อยู่ที่ตัวคนละ 1 กระบอก โดย จ.อ.สมพงศ์ พกไว้ที่เอว ส่วน จ.อ.ปรีชา แยกชิ้นส่วนนำปืนใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย นอกจากนี้ยังตรวจพบบัตรการ์ด กปปส. 2 ใบ แมกกาซีนปืน 5 อัน เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. 37 นัด และเครื่องกระสุนปืนเอ็ม 16 อีก 1 นัด อยู่ภายในรถคันดังกล่าว สอบสวนเบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การวกวนไปมาอ้างว่าเป็นทหารปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.นราธิวาส เข้ามาเที่ยวในพื้นที่ชุมนุมกรุงเทพมหานคร และกำลังจะไปราชการต่อที่ฐานทัพเรือสัตหีบ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวทั้ง 2 ราย ไปสอบปากคำต่อที่ สน.บุคคโล

หลังได้รับรายงานเหตุจับกุมคดีน่าสนใจดังกล่าว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า รอง ผบก.น.8 เดินทางไปที่โรงพักเพื่อควบคุมการสอบสวน จากการสอบเค้นทหารทั้ง 2 นาย นานกว่า 3 ชั่วโมง พล.ต.ต.ฐิติราช จึงออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการสอบปากคำทั้ง 2 ราย ยอมรับเป็นทหารเรือในราชการจริง ถูกว่าจ้างให้มาคุ้มครองแกนนำในพื้นที่การชุมนุมสวนลุมพินี แต่รายละเอียดตนไม่ขอเปิดเผยลึกไปกว่านี้ พูดได้เพียงว่า น่าสงสารน้องๆ ทั้ง 2 คน คนหนึ่งมีลูกอายุเพิ่ง 4 เดือน อีกคนมีลูกวัย 9 ขวบ ทั้งคู่เป็นทหารชั้นดีมีฝีมือแต่ถูกว่าจ้างให้เอาตัวมาเชื่อมโยงกับการชุมนุม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วจะดำเนินคดีกับทหารทั้ง 2 นาย อย่างไร พล.ต.ต.ฐิติราช ตอบว่า เท่าที่ให้การในเบื้องต้นทราบว่าอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกเป็นของราชการทหารเรือ แต่เนื่องจากขณะนี้ในกรุงเทพมหานครมีการประกาศเป็นพื้นที่ พรก.จึงต้องแจ้งข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ กับทหารทั้ง 2 นายไว้ก่อนจากนั้นจะติดต่อให้ผู้บังคับบัญชาและนายทหารพระธรรมนูญมารับตัวไปดำเนินการต่อไป


ถามว่าเมื่อมีการจับกุมคนในกองทัพทำผิดลักษณะเท่ากับมีสัญญาณไม่ดีเกิดขึ้นในบ้านเมืองหรือไม่ รอง ผบช.น.ตอบว่า ขณะนี้มีแนวโน้มตามข้อเท็จจริงคือมีข้าราชการทหารเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยแกนนำ กปปส.จริง เนื่องจากเมื่อคราวที่ สน.นางเลิ้ง จับกุมก็เป็นทหารจากหน่วยเดียวกัน อย่างไรก็ตามบรรดาแกนนำคงเกิดความหวาดกลัวเลยต้องประสานจ้างวานให้กำลังพลดีๆ มีฝีมือเหล่านี้เข้าไปให้ความคุ้มครอง ซึ่งตนบอกได้คำเดียวว่าเห็นใจน้องๆ เหล่านี้เสียเหลือเกิน

มือมืดเหิม! โยนระเบิดใส่ ศรส. TPBS ตำรวจเผ่นกระเจิง








19.00 น. Live !!! เสียงระเบิด 2 ลูก ที่ข้างสโมสรตำรวจ น่าจะเป็น M 79 ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทางสถานี พบว่า ระเบิด ลงที่ไทยพีบีเอส ตรงบริเวรลานจอดรถตู้ส่วนกลาง และบริเวณที่ทิ้งขยะด้านหลังสตูดิโอ 3 ติดกับสนามตระกร้อ ส่วนอีกหนึ่งลูก ตกเข้าไปในสโมสรตำรวจ ตำรวจตกใจเผ่นกระเจิง  ส่วนทิศทางการยิงยังไม่ทราบแน่ชัด รายละเอียดคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

"พานทองแท้" ซัด "ประชาธิปัตย์-สุเทพ" พาคนไปตาย !

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 go6TV –  เมื่อเวลา 12.00 น. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra(https://www.facebook.com/oakpanthongtae)  โดยมีเนื้อหาดังนี้


แปลกแต่จริง..!!
ผู้บัญชาการใหญ่จากพรรคประชาธิปัตย์ในการปราบม็อบปี 53 จนมีคนตายไปร่วมร้อยศพ กับ
ผู้นำม็อบจากพรรคประชาธิปัตย์ ในการประท้วงรัฐบาลปี 57 จนมีคนตายไปแล้วร่วม20 ศพ
เป็นคนๆเดียวกัน ที่ชื่อ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ครับ..!!

มันคือ กรรมของประเทศไทย หรือเป็นความชั่วร้ายเฉพาะตัวบุคคล สุดแท้แต่จะเป็นมุมมองจากฝ่ายไหนครับ แต่ที่แน่ๆคือ การนำม็อบของคนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของพรรคการเมือง ไม่ควรที่จะมีประชาชนเสียชีวิตมากขนาดนี้..!!

ถ้านักการเมืองเข้าสู่สภาฯ นายกฯเข้าสู่ทำเนียบ ด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ผ่านหีบเลือกตั้งที่ประชาชนทั้งประเทศ ร่วมใจกันไปหย่อนบัตร แต่ละคนมี 1สิทธิ์ 1เสียง ทัดเทียมกัน เลือกเสร็จต่างคนก็กลับไปทำงานตามหน้าที่ของตน ปล่อยให้กลไกของประชาธิปไตยเดินไปตามครรลอง ประเทศก็จะสงบสุข 

นักการเมือง ควรให้ทำงานอยู่ในสภาฯครับ ปล่อยให้มีการตรวจสอบถ่วงดุลกันเอง ด้วยกลไกของสภาฯ และกลไกขององค์กรอิสระ ซึ่งพร้อมที่จะเอาผิดนักการเมืองทุกฝีก้าวอยู่แล้ว รัฐธรรมนูญแบ่งเอาไว้ชัดเจน ว่ามีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล นักการเมืองก็จะมี2ขั้ว ก็ปล่อยให้ทะเลาะกันอยู่ในสภาฯ จะขว้างปาสิ่งของ-โยนเก้าอี้-แย่งที่ประธาน-ค้านด้วยการบีบคอ จะถ่อยจะเถื่อนกันยังไง ก็เสื่อมถอยในหมู่นักการเมืองด้วยกันเอง ไม่ต้องมีประชาชนมาบาดเจ็บล้มตายไปด้วย 

ม็อบประชาธิปัตย์อ้างว่าชุมนุมอย่างสงบ-อหิงสา พอมีคนใช้อาวุธสงครามปะปนอยู่ในม็อบ ก็เฉไฉด้วยการบอกว่าไม่มีใครรู้จักมือปืน และมือระเบิดนิรนาม ที่ปิดหน้าปิดตาเหล่านั้น แถมด้วยการสรรเสริญ เยินยอ นักรบนิรนามที่ออกมาทำร้ายตำรวจ ว่าเป็นบุคคลลึกลับที่ออกมาช่วย และแกนนำก็จะออกมาเรียกขวัญผู้ชุมนุม ว่าต้องขอขอบคุณนักรบนิรนามเหล่านี้ ซึ่งถึงแม้ไม่มีใครรู้จัก แต่เขาก็จะออกมาช่วยม็อบประชาธิปัตย์ในยามคับขันเสมอ

ตามปกติการ์ดของม็อบจะตรวจตรา คนที่เข้ามาร่วมม็อบอย่างเข้มงวดครับ การ์ดจะไม่ยอมให้บุคคลลึกลับซึ่งไม่ทราบฝ่าย เข้ามาปะปนอยู่ในม็อบอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะคนปิดที่ปิดหน้าปิดตาถืออาวุธ ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน ไม่มีสิทธิ์เข้าไปอยู่ในม็อบได้เลย ดังนั้นถ้าเราลองคิดอย่างคนที่เป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะเป็นไปได้หรือที่มือปืนป๊อปคอร์น จะไม่ใช่คนที่อยู่ในฝั่งฮาร์ดคอร์ของม็อบนี้ และแบบนี้หรือ ที่เรียกว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

นักการเมืองออกมาทะเลาะกันนอกสภาทีไร ประชาชนบาดเจ็บล้มตายเสมอครับ เมื่อปี53 นายสุเทพฯ เป็นผู้กำกับดูแลการปราบปรามกระชับพื้นที่ มีคนตายไปร่วม100 ปีนี้นายสุเทพฯคนเดิม แปลงโฉมมาเป็นผู้นำม็อบเอง ปรากฏว่านำม็อบไม่ทันไร มีคนเสียชีวิตไปหลาย10คนแล้ว ก็ต้องขออโหสิกรรมสำหรับทุกๆท่านด้วยครับ

ทุกวันนี้ ได้ยินคนพูดหนาหูขึ้นเรื่อยๆว่า 
"ถ้าวันนั้นประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้ง ถึงแม้ประชาธิปัตย์จะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ไม่ต้องมีประชาชนบาดเจ็บล้มตาย มากขนาดนี้" แสดงว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นคราวนี้ เราสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการเลือกตั้ง แต่พรรคประชาธิปัตย์เลือกที่จะไม่ทำ แถมด้วยการขัดขวางคนที่เขาจะไปเลือกตั้งเสียอีกด้วย

อ้าว..!! งั้นแบบนี้เขาเรียกกันว่า "พรรคประชาธิปัตย์ พาคนไปตาย" หรือเปล่าครับ..??

 

สตรีทั่วอิสานสุดทน! ประณามกปปส.ใช้เด็กเป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมมอบดอกไม้ตำรวจขอบคุณที่เสียสละ


ชมรมเสียงสตรีอิสาน 20 จังหวัด เผาพริก เผาเกลือ สาปแช่ง แถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในการชุมนุมของ กปปส.วอนหยุด!ใช้เด็กเป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมมอบดอกไม้ขอบคุณและให้กำลังใจตำรวจเมืองช้างที่เสียสละ ปกป้อง คุ้มครองประชาชน

วานนี้(25 ก.พ.57) ที่อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้มีสมาชิกชมรมเสียงสตรีอีสาน 20 จังหวัดกว่า 30 คน นำโดย นางศิริกานต์ สายแก้วรัศมี ประธานชมรมเสียงสตรีจังหวัดสุรินทร์ นางปัทมกานต์ ธรรมศิริ ประธานชมรมเสียงสตรีจังหวัดศรีสะเกษ เป็นแกนนำ ถือป้ายที่มีข้อความ “ชมรมเสียงสตรี ต้องการให้การเลือกตั้ง  เป็นทางออก ของประเทศไทย ไม่เอาเทือกตั้ง”  และร่วมกันทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และผู้ให้การสนับสนุน เพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ทางการเมือง ให้ กปปส.หยุดใช้เด็กเป็นเครื่องมือทางการเมือง

พร้อม เดินเท้าไปที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร เพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และอ่านแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยมีนางศิริกานต์ สายแก้วรัศมี ประธานชมรมเสียงสตรีจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้อ่านแถลงการณ์

ความ ว่า จากเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงในการชุมนุมของ กปปส.จังหวัดตราด ทำให้มีเด็กเสียชีวิตนั้น เป็นเรื่องที่น่าเศร้า และสะเทือนใจ คนที่เป็นพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่างยิ่ง ชมรมเสียงสตรีขอแสดงความเสียงใจต่อผู้ที่บาดเจ็บ และญาติของผู้เสียชีวิต ชมรมสียงสตรี ขอประณามการใช้ความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งที่จังหวัดตราดและโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณราชประสงค์ เพราะทำให้เด็กเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าและสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศและคนทั่วโลก เป็นการก่อการร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อหวังประโยชน์ทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงชีวิตคน ขอวิงวอนให้รัฐบาลอย่าได้ยินยอมและโปรดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่ เกี่ยวข้องดำเนินการหาผู้กระทำผิดโดยเร็วและไม่มีข้อยกเว้น

ขอวิงวอน ต่อทุกฝ่ายในทางการเมือง อาจคิดต่างได้ และแสดงออกเพื่อให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วยสามารถทำได้หลายวิธี แต่อย่าใช้ความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตไม่ใช่วิถีของอารยชน ไม่ใช่วิถีของคนไทยที่มีความเอื้ออาทรและเมตตาต่อเพื่อนร่วมชาติ มากกว่าการคิดเข่นฆ่าประหัตประหาร ขอให้ทุกฝ่ายหันมาใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้งตามครรลองของ ประชาธิปไตยจะเป็นการดีที่สุด หยุด!ใช้เด็กเป็นเครืองมือทางการเมือง

ชมรม เสียงสตรี ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้แก่นายตำรวจทุกนายที่ทุ่มแทเสียสละ ปกป้องคุ้มครอง ความปลอดภัยให้แก่ประชาชนโดยไม่เห็นแก่ความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว

พล.ต.ต. ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ต้องขอขอบคุณสามชิกเสียงสตรีภาคอีสาน 20 จังหวัด ที่มีความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ดดยเฉพาะตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้ส่งชุดควบคุมฝูงชนไปช่วยปฏิบัติหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 2 กองร้อย ในขณะนี้ และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปอีก 1 กองร้อย ตำรวจมีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปเข่นฆ่าประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองสงบ เรียบร้อย ที่สำคัญไม่ต้องการเห็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเกิดการสูญเสีย ถือเป็นเป้าหมายในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน







วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บ้านป่าเมืองเถื่อน! "หมวดเจี๊ยบ" ถูกการ์ด กปปส. จับตัว







ผู้สื่อข่าวรายงานจากเวทีปราศรัย กปปส. แยกปทุมวันว่า เวลาประมาณ 19.30 น. บรรยากาศการชุมนุมเกิดความวุ่นวายขึ่น เมื่อผู้ชุมนุมที่นั่งอยู่หน้าเวทีพากันลุกฮือพร้อมเป่านกหวีด จนทำให้น.ส.อัญชลี ไพรีรักษ์ แกนนำกปปส. ต้องขึ้นเวทีและขอร้องให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ ทั้งนี้จากการตรวจสอบเห็นกลุ่มการ์ดหลายคนได้เดินเข้าไปบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่าสาเหตุที่ผู้ชุมุนมเป่านกหวีดเพราะพบร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต หรือ "หมวดเจี๊ยบ" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  การ์ดจึงเข้าล็อกแขนและรวบตัวพร้อมฉุดกระชากให้ออกมาจากพื้นที่การชุมนุม จากนั้นการ์ดก็นำตัวร.ท. หญิง สุนิสา เดินฝ่าผู้ชุมนุมไปยังด้านหลังหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน โดยระหว่างการเดิน สื่อมวลชนให้ความสนใจอย่างมาก และรีบลุกขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ผู้สื่อข่าว แต่ปรากฎว่าช่างภาพและผู้สื่อข่าวกลับถูกการ์ดสั่งห้ามไม่ให้ถ่ายภาพและรายงานข่าวนี้ อีกทั้งยังมีการมาขอดูและปัดกล้องถ่ายภาพของช่างภาพบางคน พร้อมสั่งให้ช่างภาพลบภาพที่บันทึกไว้ทิ้งด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่อยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลเพื่อขึ้นปราศรัยประจำวัน ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว ซึ่งได้กำชับการ์ดว่าอย่าทำอะไร ร.ท.หญิง สุนิศา และแสดงอารมณ์หงุดหงิดที่การ์ดกระทำเกินกว่าเหตุ 

ชาวนาน้ำตาเล็ด กกต.อนุมัติ 712 ล้านบาท จ่ายคืนจำนำข้าว


25 กุมภาพันธ์ 2557 go6TV - นายสมชัย ศรีสุริยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ได้โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว สมชัย ศรีสุริยากร มีเนื้อหาดังนี้

มติ กกต. 25 .. เรื่อง ของบกลางเพื่อชำระหนี้ชาวนา 

กกต.มีมติอนุมัติเงิน 712 ล้านบาท ตามที่ ครม. มีมติขอมา เพื่อชำระหนี้ชาวนา จำนวน 3,971 ราย ใน 5 จังหวัด คือ

ฉะเชิงเทรา เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี อุทัยธานี และพระนครศรีอยุธยา


สำหรับปีการผลิต 55/56 โดยใช้งบกลางปี 2556 ที่มีการกันเงินเหลื่อมปีไว้แล้ว ดังนั้น ชาวนาในกลุ่มดังกล่าว น่าจะได้รับเงินเหลื่อมปีไว้แล้ว ดังนั้น ชาวนาในกลุ่มดังกล่าว น่าจะได้รับเงินโดยไม่ช้า (หากช้าให้ไปทวงที่รัฐบาล) การอนุมัติดังกล่าว ไม่ผูกพันต่อการใช้งบกลางเพื่อชำระหนี้ชาวนาที่ ครม. อาจจะขอมาที่ กกต.ในอนาคต ที่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป