แพ้มาตลอด แล้วหาว่าคนอื่นโกง เลยพาลไม่ลงแข่ง เขาเรียกว่า "แพ้แล้วพาล"
แพ้มาตลอด แล้วไม่ลงแข่ง แถมด้วยการก่อกวนความสงบ ขัดขวางผู้อื่นไม่ให้ลงแข่ง เขาเรียกว่า "ขี้แพ้ชวนตี" ครับ..!!
ม็อบประชาธิปัตย์ประกาศ "ปิดกรุงเทพ"
ถ้าทำด้วยความหวังดีกับประเทศชาติจริงๆ คนที่เดือดร้อนยังพอจะฝืนเข้าใจได้บ้างครับ
แต่เหตุผลที่บอกว่า แพ้เพราะ"เพื่อไทย"โกง จึงไม่ยอมลงเลือกตั้งนี่ ขอให้ดูสถิติสักนิดว่า 20 ปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยยังเป็นวุ้นอยู่เลย แล้วพรรคประชาธิปัตย์ เคยชนะใครบ้างหรือเปล่า
อาสุเทพฯและอภิสิทธิ์ฯ จำคำโอ๊คเอาไว้ให้ดีๆครับ
ยุทธการป่วนเมืองปิดกรุงเทพฯ และขัดขวางการเลือกตั้งในครั้งนี้
พรรคประชาธิปัตย์ จะทำได้ดีที่สุดก็แค่ "ชนะศึก แต่ แพ้สงคราม" เท่านั้น
แปลง่ายๆคือหากอาชนะศึก โดยสามารถทำให้ ไม่มีการเลือกตั้งในเร็ววันนี้ได้ ครั้งหน้าประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งอีกเมื่อไหร่ จะโดนพี่น้องประชาชน สั่งสอนแบบสาสมครับ..!!
อาทั้ง 2 คิดผิดมหันต์ ที่ไม่เชื่อผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคฯ ที่ให้สู้ทางการเมืองกันแบบตรงไปตรงมา รู้แพ้-รู้ชนะ-รู้อภัย แต่อาทั้ง 2 กลับเลือกใช้ยุทธศาสตร์ รวมกันเดิน-แยกกันตี บอกตรงๆว่าหยาบและไม่เนียนเลยครับ อาอย่าไปคิดว่าคนไทยจะโง่ และรู้ไม่เท่าทันความเจ้าเล่ห์ของนักการเมือง ม็อบป่วนเมืองสร้างความเดือดร้อนเท่าไหร่ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องรับผิดชอบมากเท่านั้น อย่าไปคิดว่าออกมาพูดปาวๆว่าม็อบกับพรรคฯไม่เกี่ยวกัน แล้วชาวบ้านเค้าจะหลงคารม เดี๋ยวประชาชนจะยิ่งโมโหใหญ่ ว่าอาทั้ง 2 กล้าทำชาวบ้านเดือดร้อน แล้วยังไม่กล้ารับผิดอีก จะยิ่งเสียหายไปกันใหญ่ครับ
อาทั้ง 2 เอาสมองส่วนไหนคิดที่ว่า ม็อบยิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนเท่าไหร่ คนจะยิ่งออกมากดดันให้นายกฯลาออกมากขึ้นเท่านั้น ไม่จริงเลยครับเป็นความคิดที่โง่มาก คนเค้าจะยิ่งเกลียดประชาธิปัตย์และยิ่งเห็นใจนายกฯปูมากขึ้นเสียอีก ที่ผ่านมาถ้าไม่ใช่นายกฯปูที่กล้าตัดสินใจ และดำเนินการได้อย่างเด็ดเดี่ยว แก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงทีแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะเสียเลือดเสียเนื้อไปอีกเท่าไหร่ นายกฯปูเป็นผู้หญิงยอมถอยเสียจนแทบจะไม่มีที่ยืนแล้ว อาทั้ง 2 เป็นผู้ชายอกสามศอกแท้ๆ ยังจะมากระทำนิสัยแย่ๆแบบนี้อีก อย่าลืมว่าคนไทยเป็นคนขี้สงสาร และเห็นอกเห็นใจคนที่โดนรังแกเป็นนิสัยอยู่แล้ว กระแสตีกลับ แรงและเร็วแน่นอนครับ
อาทั้ง 2 สัมผัสแต่บุคคลชั้นสูงเป็นส่วนใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยลงมาติดดิน แบบที่พรรคเพื่อไทยทำอยู่เป็นประจำ คนรากหญ้าที่อาสัมผัสพูดคุยด้วย ก็มีแต่คนที่หัวคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ จ้างมาเติมเต็มให้เวที เขาย่อมไม่เดือดร้อนจากการปิดกรุงเทพฯของอา ส่วนบรรดาอำมาตย์+ชนชั้นสูง+ชนชั้นกลาง ยิ่งไม่เดือดร้อนเลยครับ ท่านเหล่านั้นมีลูกน้องบริวาร คอยลำบากทำงานแทนอยู่แล้ว แต่ประชาชนคนรากหญ้า เดินดินกินข้าวแกง ที่ต้องปากกัดตีนถีบ หาเช้ากินค่ำนี่สิครับ จะต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จากการกระทำของอาทั้ง 2 เขาเอาคืนแน่ครับ ไม่ช้าก็เร็ว
อาทั้ง 2 อย่าไปคิดเลยครับว่า พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถลอยตัว ไม่ต้องรับผิดชอบจากการกระทำในครั้งนี้ได้ ที่โอ๊คบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะทำได้ดีที่สุดก็แค่ "ชนะศึก แต่ แพ้สงคราม"ก็เพราะว่า ต่อให้อาทั้ง 2 ขัดขวางการเลือกตั้งได้สำเร็จ แต่เมื่อใดก็ตามที่ประเทศกลับเข้าสู่การเลือกตั้ง และประชาธิปัตย์กลับมาลงสนามเมื่อไหร่ เมื่อนั้นประชาชนชาวไทย จะออกไปเลือกตั้งกันอย่างมืดฟ้ามัวดิน แต่บอกไว้เลยว่าอาทั้ง 2 อย่าเพิ่งดีใจ เพราะว่า....
เขาจะไปเพื่อสั่งสอนพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นพรรคการเมือง แต่กลับหาเสียงด้วยวิธีป่วนเมือง สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน อย่างสาสมและแสนสาหัสที่สุด..!!
โตแล้วทำตัวเป็น ลูกแหง่ขี้แพ้ชวนตี ต้องได้รับบทเรียน ครับ..!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น