วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

"นพดล ปัทมะ" เรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์เคลื่อนไหวในกรอบรัฐธรรมนูญ วอนทุกฝ่ายขับเคลื่อนประเทศเดินหน้า

2 พฤศจิกายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00น.ที่ผ่านมา นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว https://www.facebook.com/noppadonpat เรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์เคลื่อนไหวในกรอบรัฐธรรมนูญ โดยมีเนื้อหาดังนี้


"พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลมุ่งมั่นจะนำประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งไปให้ได้ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากนักการเมืองทุกกลุ่ม เพราะในขณะนี้นักการเมืองทะเลาะกันมานานหลายปีแล้ว และคนที่เสียประโยชน์คือประชาชนและชาวบ้านทั่วไป ยอมรับว่าการรัฐประหารปี 49 เป็นบ่อน้ำพุแห่งความขัดแย้ง คนก่อรัฐประหารนิรโทษกรรมตนเองตามมาตรา 309 ประชาชนส่วนใหญ่เห็นควรล้างผลของการรัฐประหารที่ละเมิดหลักนิติธรรมตั้งแต่ต้น 7 ปีที่ผ่านมา ประชาชนอยากหาทางออกจากความขัดแย้ง อยากเห็นประเทศเดินหน้า โลกเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว และความสามารถของประเทศก็ลดลง ทำให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าช้ากว่าเพื่อนบ้านหลายประเทศ แม้กระทั่งเครื่องถ่ายเอกสารตอนนี้ยังพัฒนาสามารถถ่ายเป็น 3 มิติได้แล้ว แต่น่าเสียดายที่การเมืองไทยยังมีมิติเดียว คือมิติแห่งความขัดแย้ง"

"พรรคเพื่อไทยยังคิดว่าการเมตตาปราถนาดีต่อกัน การนิรโทษกรรมเพื่อให้ทุกคนหาจุดเริ่มต้นใหม่ให้กับประเทศ เพื่อให้นักการเมืองเล่นตามกติกา ให้รัฐบาลบริหารประเทศจนครบเทอม ส่วนที่เป็นฝ่ายค้านก็ตรวจสอบและแข่งกันผลิตนโยบายให้ประชาชนเลือก ระบอบประชาธิปไตยยังต้องการฝ่ายค้าน แต่ไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายโค่น เพราะถ้าฝ่ายใดมีคุณภาพ ประชาชนก็จะไว้วางใจเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศเอง"

“พรรคเพื่อไทยเคารพการเคลื่อนไหวของทุกกลุ่มขณะนี้ที่ไม่เห็นด้วยกับนิรโทษกรรม แต่ขอให้อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญและอย่านำประเด็นนี้ไปเพื่อโค่นรัฐบาล เพราะการพิจารณากฎหมายเป็นไปตามขั้นตอนของสภา และทุกคนว่ากันด้วยเหตุด้วยผล และตนเชื่อว่า ส.ส. และ ส.ว. ส่วนใหญ่ก็คงมีวิจารณญาณและมีมุมมองให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าแตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ เสียงข้างน้อยควรต้องเคารพเสียงข้างมาก พรรคฝ่ายค้านมีเสียงน้อยก็ต้องพยายามทำงานให้หนัก เพื่อหาโอกาสมีเสียงข้างมากในอนาคต ” นายนพดล กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าผู้ใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างโพสต์ข้อความสนับสนุน และแสดงความเห็นด้วยกับคำแถลงนายนพดล ปัทมะ เป็นจำนวนมาก

ไม่มีความคิดเห็น: