วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 (go6TV) – เมื่อเวลา 10.30 น.
ที่บ้านพระอาทิตย์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)
ได้ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่รับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศและพร้อมเคลื่อนไหวทันที
พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไม่รับคำตัดสินของศาลโลกในคดีเขาพระวิหาร
เนื่องจากจะทำให้สูญเสียดินแดนที่เป็นของประเทศไทย
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับนายสนธิ
แล้วว่าต้องออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน เพื่อให้บ้านเมืองได้รับรู้สถานการณ์ในปัจจุบัน
ดังนี้
1.ตนและนายสนธิ
ต้องการให้กำลังใจประชาชนทุกหมู่เหล่าที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง
ทั้งการคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม การคัดค้านการแก้ไขมาตรา 190
การคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซ LPG ที่ถึงแม้จะมียุทธวิธีที่แตกต่างกัน
แต่ทุกคนเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองเหมือนกัน
2.
ตนและแกนนำกลุ่มพธม.
คาดหวังว่าเมื่อยุติบทบาทจะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางการเมือง
เพื่อให้ประชาชนออกมารับผิดชอบประเทศ ไม่ใช่กลุ่มพธม. ซึ่งทำให้รัฐบาลประมาท
ลุแก่อำนาจ จึงเป็นที่มาของการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
จนทำให้ประชาชนออกมาต่อต้านเป็นจำนวนมาก
และนี่ถือว่ายุทธวิถีที่ทำให้เกิดมวลชนกลุ่มใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล
3.เงื่อนไขที่แกนนำพธม.จะกลับมาคือ
เมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย หรือพี่น้องประชาชนต้องการให้กลับมาเป็นแกนนำ
และขอเรียกร้องให้ประชาชนที่ยังคัดค้านเพียงแค่พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ปรับเปลี่ยนกลยุทธวิถี เนื่องจากยังมีอีกหลายประเด็นที่รัฐบาลยังลุแก่อำนาจได้
ซึ่งการยุบสภาฯ หรือลาออก ยังไม่ใช้หนทางการแก้ปัญหา
แต่ต้องใช้การปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อไปว่า
ตนขอเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดทำตามคำสั่งของทรราช
และมาร่วมกับมวลชนจึงจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้
วันนี้เป็นวันสำคัญที่ศาลโลกจะตัดสินคดีเขาพระวิหาร
ซึ่งถ้าหากประเทศไทยสูญเสียดินแดนรัฐบาล นักการเมืองที่รู้เห็นเป็นใจ
จะต้องรับผิดชอบกับการกระทำทั้งหมด และขอให้รัฐบาลไม่รับคำตัดสินของศาลโลก
เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีประเทศใดรับอำนาจศาลโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย เป็นต้น
นอกจากประเทศไทย ตนจึงไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้
และจำเป็นต้องออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมประกาศว่าไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็จะไม่รับคำตัดสินจากศาลโลก
และขอเชิญชวนให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
ก่อนหน้านี้นายสนธิ
เคยรับปากกับตนไว้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ตนออกมาเคลื่อนไหว นายสนธิ
ก็พร้อมออกมาเคลื่อนไหวด้วย แต่ตนได้ห้ามนายสนธิไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวในตอนนี้
เนื่องจากหากตนทำไม่สำเร็จจะได้มีนายสนธิ เป็นตัวสำรอง
ด้านนายสนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า
ตนมองว่ากระบวนการของศาลโลกซึ่งเป็นประเทศของมหาอำนาจ
ไม่มีเหตุผลใดที่จะมาพิจารณาคดีเขาพระวิหาร
แต่เนื่องจากมีประเทศบางประเทศมีส่วนได้เสียจากพลังงาน
ซึ่งถ้าหากเราย่อมแพ้ก็จะเสียพื้นที่ในอ่าวไทย
และเป็นที่น่าผิดหวังที่รัฐบาลไทยจะยอมรับอำนาจของศาลโลก
ทั้งยังสมรู้ร่วมคิดกับศาลโลก ด้วยการเร่งแก้ไขมาตรา 190
เนื่องจากมาตราดังกล่าวระบุ
ให้สามารถไปคุยตกลงกันได้โดยไม่ต้องบอกให้ประชาชนรับรู้
นายสนธิ ได้ตั้งข้อสังเกตกรณีที่นายหลี่
เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ได้มาพูดในรัฐสภาไทย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้นายบารัค
โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังไม่มีโอกาสได้พูด
ดังนั้นจีนอาจมีส่วนได้ส่วนเสียกับการตัดสินในคดีเขาพระวิหาร
เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับกัมพูชา ส่วนกรณีการที่รัฐบาลเปิดฟรีวีซ่ากับประเทศจีน
คนที่เดือดร้อนไม่ใช่คนจีนแต่เป็นคนไทย ที่ต้องตกงานเพราะคนจีนจะเข้ามาทำงานแทนที่
นี่คือผลงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีตามหมายศาล ซึ่งได้โอ้อวดเอาไว้
นายสนธิ กล่าวต่อไปว่า พธม.ชุมนุมมาร่วม 7 ปี
มีทั้งคนรักและคนเกลียด ดังนั้นเราจึงยุติบทบาทเนื่องจากความรับผิดชอบของบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องของพธม.
แต่เป็นเรื่องของประชาชน ดังนั้นการยุติบทบาทนั้นครั้งนั้นถือการรุกฆาต
และให้ประชาชนที่แท้จริงออกมา
และตอนนี้ก็มีหลากลายเวทีได้ถูกจัดตั้งขึ้นซึ่งล้วนแล้วแต่มีแกนนำเป็นของตนเอง
ฉะนั้นการที่ตนตนจะออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่นั้นก็ไม่มีความหมาย
แต่ทั้งนี้พล.ต.จำลอง ได้ขอร้องผมเอาไว้ อยากให้เป็นตัวสำรอง
แต่ตนหวังอยากให้ทุกเวทีเกิดการตกผนึกทางความคิด และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ คงเห็นแล้วว่ามวลชนมักจะนำหน้าแกนนำเสมอ
วันนี้การต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างเดียวคงไม่พอ เราไม่ได้ต้องการโค่นล้มรัฐบาล
หรือโค่นล้มตระกูลทักษิณ แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ
"ตนมองว่าประเทศไทยต้องยุติอำนาจของนักการเมือง
2-3 ปี
แล้วถวายอำนาจคืนในหลวง และให้พระองค์ท่านแต่งตั้งใครก็ได้มาบริหารประเทศชั่วคราว
เพื่อให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติ หากล้มรัฐบาลชุดนี้ได้แล้ว ควรถวายอำนาจคืน"
นายสนธิกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น