วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"พานทองแท้" ขอบคุณทุกคนอวยพรวันเกิด เห็นใจน้องสาวถูกรังแก วอนผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเตือนสติสังคม


2 ธันวาคม 2555 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ขอบคุณทุกคนที่ร่วมอวยพรในโอกาสครบรอบวันเกิด (2 ธันวาคม) พร้อมทั้งแสดงความเห็นใจน้องสาว นางสาว แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ที่ถูกจ้องรังแก วอนผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเตือนสติสังคมที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเกลียดชัง โดยมีข้อความดังนี้ 

หลายท่านคงได้ทราบข่าว ที่น้องอิ๊งค์ได้เดินทางไปเยี่ยมคุณพ่อที่ฮ่องกง โดยสายการบิน Cathay Pacific แล้วมีแอร์โฮสเตจคนหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊คว่า อยากจะแกล้งน้องอิ๊งค์บนเครื่องบิน ด้วยการเสริฟกาแฟผ่านทางศีรษะ เนื่องจากแค้นใจที่ม๊อบ "พิทักษ์สยาม" ของเสอ้ายยอมแพ้และเลิกชุมนุมไป นั้น

ตอนแรกผมเห็นว่าเรื่องนี้ เป็นเพียงการระบายความคับข้องใจ ของคนๆหนึ่งผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค จึงไม่ได้คิดที่จะแสดงความคิดเห็นอะไรครับ ยังรู้สึกว่าน้องอิ๊งค์โชคดีด้วยซ้ำ ที่เหตุการณ์นี้มิได้เกิดขึ้นจริง และก็เป็นความรู้สึกให้อภัยกับแอร์ผู้นั้น เนื่องจากเห็นที่เขาโพสต์ตอนหลังว่า ในที่สุดเขาก็ระงับสติอารมณ์ได้ ไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล

แต่เมื่อคุยกับน้องผมแล้ว ผมว่าเรื่องนี้น่าที่จะนำมาแชร์กันครับ เพราะสิ่งที่ถูกปลูกฝังเข้าไปในหัวสมองของแอร์คนนี้ เป็นสิ่งที่ผิดเช่นเดียวกับที่ปลูกฝังไปในหัวคนไทยอีกหลายคน ซึ่งหากเราไม่ร่วมมือกันในการแก้ไข มันจะสร้างปัญหาให้กับสังคมไทยในระยะยาว จะเปลี่ยนความน่ารักของคนไทย ที่เคยอ่อนโยนโอบอ้อมอารีต่อกัน จาก "สยามเมืองยิ้ม" กลายเป็นเมืองแห่งความเคียดแค้นชิงชัง และการเผชิญหน้า

การปลูกฝังค่านิยมที่ผิดๆนี้ สืบเนื่องมาจากการที่พี่น้องคนไทยเคยชินกับการบริโภคสื่อที่เป็นกลาง และเคยชินกับพรรคการเมืองที่ใช้กลไกของสภาเป็นที่แก้ปัญหามาโดยตลอด เมื่อมาเจอกับสื่อเทียมที่เลือกข้าง และพรรคการเมืองที่เล่นเกมนอกสภาฯ โดยเดินสายปลุกระดมคนให้เกลียดชังคุณพ่อผม เมื่อมาบวกกับกลุ่มบุคคลที่สนับสนุนฝ่ายตรงข้าม พูดจาเป่าหูทุกวันว่า ทักษิณฯล้มเจ้าบ้าง อยากเป็นประธานาธิปดีบ้าง เดี๋ยวก็ทักษิณฯซื้อทั้งประเทศ เดี๋ยวก็ขายทั้งประเทศ เป็นอย่างนี้ทุกวันเป็นระยะเวลา6-7ปี

เมื่อค่านิยมผิดๆนี้ ถูกยืนยันโดยผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองซึ่งควรจะวางตัวเป็นกลาง ปล่อยให้รุ่นลูกรุ่นหลานเขาได้มีโอกาสบริหารและพัฒนาบ้านเมืองอย่างเต็มที่ กลับออกมาเทคไซด์เชียร์พรรคการเมืองในดวงใจเข้าอีก พี่น้องคนไทยกลุ่มนี้จึงเข้าใจผิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหาจริงๆ

ปัญหาดังกล่าวนี้ ยุ่งเหยิงยาวนานหนักเข้าไปอีก เมื่อคนกลุ่มที่ว่านี้มักจะคิดว่าตัวเองฉลาดล้ำ, ตาสว่าง, รู้ทันคนมากกว่าคนอื่น ใครที่คิดเหมือนตนเป็นคนฉลาด คิดต่างจากตนเป็นคนโง่ ทั้งๆที่ตนเองเสพสื่อเลือกข้าง ฟังความข้างเดียว ใครอยู่ฝั่งตรงข้ามพ่อผมเป็นคนดีหมด ใครชอบใครสนับสนุนคุณพ่อผมเป็นคนเลวหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งครอบครัวและลูกหลาน และคนที่ต้องเจอกับคนประเภทนี้เยอะที่สุดคือน้องอิ๊งค์ครับ
          
ตั้งแต่ช่วงหลังจากการปฏิวัติ ครอบครัวผมไปอยู่ต่างประเทศกับคุณพ่อ เหลือแต่น้องอิ๊งค์ซึ่งยังเรียนอยู่จุฬาต้องไปๆมาๆ ในขณะที่คณะปฏิวัติกุมอำนาจเด็จขาด ข่าวของสื่อหลักวันๆก็มีแต่แก้วหน้าม้า, คุณป้ามหาภัย, หน้ากร้อคอสั้น คอยออกสื่อกล่าวหาคุณพ่อผมทั้งวันทั้งคืน คนที่เสพสื่อแบบนี้เข้าไปก็เหมือนคนที่กินผลไม้พิษเข้าไป เจอน้องอิ๊งค์เข้าอาการจึงกำเริบ คล้ายๆกับแอร์คนนี้แหละ น้องอิ๊งค์เจอมาเยอะสุด แต่ไม่ต้องห่วงครับถึงแม้จะเป็นน้องสุดท้อง แต่อิ๊งค์กลับมีความอดทนและระงับสติอารมณ์ได้ดีกว่าผู้ใหญ่หลายๆคนเสียอีก
          
ห่วงแต่ว่าถ้ายังปล่อยให้เล่นการเมืองกันอย่างไม่มี กฎ กติกา มารยาท กันอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จัดให้คนโน้นคนนี้ออกมา "พิทักษ์สยาม" กันบ่อยๆเข้า "สยามเมืองยิ้ม" จะกลายเป็น "สยามเมืองเคียดแค้นอมทุกข์" กันไปเปล่าๆครับ
        
ปล. ขอบคุณในทุกคำอวยพรเนื่องในวันเกิดผมวันนี้นะครับ ถ้าขอได้ผมอยากขอให้คนไทยกลับมารักกันเหมือนเดิม ขอคำว่า Land of Smile กลับคืนมาให้เมืองไทยครับ

ไม่มีความคิดเห็น: