วันที่ 8 พฤศจิกายน 2555 (go6TV)
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงผลการพิจารณาถอดยศนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า
ได้ลงนามเห็นชอบในมติคณะกรรมการรวบรวมข้อมูล
เพื่อดำเนินการถอดยศและเรียกเบี้ยหวัดคืนจากนายอภิสิทธิ์ และจะดำเนินการถอดยศ
ส่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นขั้นตอนต่อไป
ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งธงเรื่องนี้อย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา
เรามีข้อมูลหลักฐานถึงความไม่ชอบมาพากล และพบว่าผิดจริง
เมื่อผิดจริงต้องทำตามขั้นตอน ส่วนที่ผู้นำฝ่ายค้านจะส่งหนังสือ
เพื่อขอความเป็นธรรมนั้น ถ้าอยากส่งก็ส่งมา ตนพร้อมให้ความเป็นธรรมเสมอ
ก่อนหน้านี้เราให้เวลาเขาไปแล้ว และทำหนังสือตอบโต้กันไปมา
แต่ไม่เห็นส่งหลักฐานมาเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า การถอดยศนายอภิสิทธิ์
จะทำให้ฝ่ายค้านยื่นถอดถอนท่านออกจากตำแหน่งหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า
ไม่ทราบว่าฝ่ายค้านคิดอย่างไร เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างทำตามขั้นตอน
และตั้งคณะกรรมการฯอย่างถูกต้อง มีหลักฐานทุกอย่าง ถ้าเขาทำตนได้
ตนก็ทำเขาได้เช่นกัน หากวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภา
ฝ่ายค้านหยิบประเด็นการทำหน้าที่ถอดยศ ตนพร้อมชี้แจงตรงไปตรงมา
และจะแจกแจงให้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ทำผิดขั้นตอนอย่างไรให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับทราบไม่ได้กลั่นแกล้ง
และไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราทำเอง
แต่มีคนไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วก็ส่งมา
ส่วนที่ฝ่ายค้านได้ยื่นถอดถอนในประเด็นการทุจริตเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็น
รมว.คมนาคมนั้น ตนยังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องไหนและอย่างไร
ขณะนี้ยังไม่ได้เตรียมข้อมูล แต่คิดว่าไม่มีปัญหา
มั่นใจว่าตอนดำรงตำแหน่งเป็นรมว.คมนาคม ไม่ได้ทำอะไรผิด และก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พล.อ.มล.ประสบชัย เกษมสันต์
รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการถอดยศ
และเรียกเบี้ยหวัดคืนจากนายอภิสิทธิ์ ได้ส่งผลการพิจารณาให้พล.อ.อ.สุกำพล
ลงนามเซ็นคำสั่งรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการชุดดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
คณะกรรมการมีข้อเสนอ 3 เรื่องหลัก คือ 1.การลงโทษกรณีนายอภิสิทธิ์ ใช้เอกสารเท็จขึ้นทะเบียนเป็นทหาร 2.การบรรจุเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ ไม่ถูกต้อง และ 3.เรื่องการแต่งตั้งยศที่ไม่ถูกต้อง
หลังจากรมว.กลาโหมลงนามรับทราบเสร็จจะส่งเรื่องกลับไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
เพื่อยกเลิกเพิกถอนคำสั่งการบรรจุเป็นนายทหารยศร้อยตรี
จากนั้นจะส่งเรื่องไปยังกรมเสมียนตรา เพื่อพิจารณาทำเรื่องไปยังสำนักราชเลขา
ขอพระราชทานพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ถอดยศของนายอภิสิทธิ์ต่อไป
ขั้นตอนในการถอดยศยังต้องใช้เวลาอีกนาน
“การถอดยศไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะที่ผ่านมาเคยมีการถอดยศมาโดยตลอด ทั้งนี้ยืนยันว่าคณะกรรมการตรวจสอบอย่างเป็นธรรม
ไม่ได้กลั่นแกล้ง ตรวจสอบตามข้อเท็จจริงโดยมีคณะกรรมการทั้งหมด 9
คนล้วนแต่เป็นหัวหน้าส่วนราชการทั้งนั้นไม่ใช่เรื่องคนที่เป็นพวกเดียวกันขึ้นมาเป็นคณะกรรมการ
ทั้ง 9 คนมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าเอกสารดังกล่าวของนายอภิสิทธิ์
เป็นเอกสารเท็จ
แม้ว่าในเรื่องของคดีอาญาจะหมดอายุความไปแล้ว
แต่ในเรื่องของวินัยทหารไม่มีอายุความสามารถลงโทษนายอภิสิทธิ์ด้านวินัยทหารได้
เพราะถือว่านายอภิสิทธิ์ใช้เอกสารเท็จในการยื่นเรื่องขึ้นทะเบียนเป็นทหารโดยมีความผิดตั้งแต่แรก
คาดว่าภายในวันที่ 12 พ.ย.นี้จะรู้ผลว่าจะลงโทษ นายอภิสิทธิ์ อย่างไร
ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางคณะกรรมการฯได้ให้เวลานายอภิสิทธิ์
มาชี้แจงในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่นายอภิสิทธิ์
อ้างมาตลอดว่าขอเวลาในการที่จะรวบรวมเอกสารและข้อมูล คณะกรรมการฯได้ให้เวลานายอภิสิทธิ์
ชี้แจงมาพอสมควรแล้ว แต่นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ได้ยื่นเอกสารชี้แจงแต่อย่างใด
ทางคณะกรรมการฯจึงได้สรุปผลให้กับรมว.กลาโหม” แหล่งข่าวระบุ
มีรายงานข่าวด้วยว่า
สำหรับกระบวนการขั้นตอนลงโทษทางวินัยแก่นายอภิสิทธิ์ มีโทษทางวินัยตั้งแต่
ภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กัก ขัง และ จำขัง รวมถึงการให้ออกจากราชการ และไล่ออก
ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ยังครองยศร้อยตรีอยู่ เพียงแต่นายอภิสิทธิ์
เลือกจะไม่ใช้ยศร้อยตรีนำหน้าชื่อ และนายอภิสิทธิ์
หมดสิทธิ์นำข้อมูลหรือเอกสารมาชี้แจงกับทางกระทรวงกลาโหมแล้ว
เนื่องจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงกลาโหมแล้ว ต่อไปนายอภิสิทธิ์จะยื่นฟ้องศาลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวนายอภิสิทธิ์เอง
ส่วนนายทหารที่เอื้อประโยชน์ให้นายอภิสิทธิ์ ที่ทำเอกสารเท็จขึ้นมานั้น
เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงกลาโหมกำลังพิจารณาต่อไปว่าจะเอาผิดได้หรือไม่
เนื่องจากบางคนเกษียณไปแล้ว และบางคนก็ได้ลาออก เรื่องนี้นานกว่า 20 ปีแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น