วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"สมเกียรติ อ่อนวิมล" เข้ากุมบังเหียน "สปริงนิวส์" เรียบร้อยแล้ว!


วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 (go6TV) ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ประกาศเข้าบริหารสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา โดย ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ได้เปิดใจผ่านสำนักข่าวสปริงนิวส์ดังต่อไปนี้
 "ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้ทำงานที่เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์สังคม"

"และไม่มีอะไรจะทำให้แปลกประหลาดใจไปยิ่งกว่าการได้ทำงานในวัยอันไม่น่าจะได้งานทำ"

วันนี้ผมอายุ 65 ปี. ผมเริ่มทำงานข่าวโทรทัศน์เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ทำที่ช่อง 9, ต่อไปช่อง 7, ช่อง 11, ช่อง 5 แล้วกลับไปช่อง11 อีกครั้ง ตามลำดับ แล้วก็หยุดไประหว่างปี 2540-2550 เมื่อตอนที่ไปทำงานการเมืองระหว่างที่เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สุพรรณบุรี), สมาชิกวุฒิสภา (สุพรรณบุรี), และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กลับมาทำรายการข่าวต่างประเทศอยู่พักหนึ่งช่วงปลายสมัยเป็นสมาชิกวุฒิสภา เพราะคำเชิญชวนของผู้บริหารไทยทีวีสีช่อง 3. มาในปีที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน (2551-2552) ผมได้ทำสารคดีชุดพิเศษให้กับกระทรวงการต่างประเทศยาวกว่า 30 ชั่วโมง อีกทั้งทำรายการโทรทัศน์เรื่องเกี่ยวกับอาเซียนออกอากาศทางช่อง 3, ช่อง 9, และ True Visions  เสร็จงานอาเซียนแล้วก็กลับมาติดใจงานโทรทัศน์อีกครั้งแม้จะไม่ใช่งานใหญ่งานยากอะไรผมก็ยังเก็บรายการ​สัปดาห์อาเซียนไว้ที่ช่อง 3 มาอีกสามปีคิดว่าจะเลิกทำรายการโทรทัศน์อย่างเบ็ดเสร็จสิ้นปี 2555 ซึ่งตรงกับเวลาที่โลกแตกสลายพอดีตามปฏิทินมายา (ตรงกับวันที่ 22 ธันวาคม 2012) ชีวิตผม...หากยังมีอยู่หลังปี 2012...จะขอใช้อย่างสงบโดยการอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ และสังเกตทุกข์-สุข ของสังคมผ่าน facebook และ Twitter ไปจนปลายทางชีวิตจริงๆ ผมมีห้องสมุดส่วนตัวไว้ที่บ้านปากช่องนครราชสีมา มีหนังสือทุกสาขาวิชาความรู้กว่า 7,000 เรื่อง ผมน่าจะใช้ชีวิตวิชาการได้อย่างสบายๆหลายปีกว่าปฏิทินส่วนตัวของผมจะจบ

แต่แล้วคณะกรรมการ Spring News Corporation ก็มาชวนผมให้เข้ามาร่วมงานอย่างที่ผมไม่เคยคาดฝันมาก่อน ผมไม่รู้จักใครเลยที่ Spring News รับรู้แต่ชื่อเสียงและผลงานข่าวสารที่ปรากฏในช่วงวิกฤติการเมืองไทยในสองปีที่ผ่านมา ผมเคยเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทที่ผลิตข่าว เป็นนักข่าว เป็นผู้ประกาศข่าว เป็นผู้จัดการฝ่ายข่าวของสถานีโทรทัศน์ และเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ แต่ก็มิได้ทำงานยืดยาวเพราะมักจะลาออกเมื่อมองไม่เห็นโอกาสการพัฒนางานให้ได้ตามอุดมตคิและอคติของตนเอง ผมจึงบอกผู้ใหญ่ของ Spring News ไปว่าผมล้มเหลวมาตลอดเพราะไม่ได้อำนาจการบริหารงานอย่างแท้จริงและเต็มที่ เมื่อไม่ได้อำนาจบริการเต็มรูปแบบโอกาสที่จะใช้วิชาความรู้ในวิชาชีพสื่อสารมวลชนให้เกิดผลต่อสังคมก็ทำได้ยากยิ่ง หลังจากหารือกันพักใหญ่ เว้นว่างการติดต่อไปหลายวัน ในที่สุดกรรมการ Springs News ก็ยืนยันกับผมว่าจะให้บทบาทอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบกับผมอย่างเต็มที่ตามที่ผมต้องการ เพื่อผมจะได้กำหนดทิศทางให้Spring News ได้ตามฝันอันยาวนานของผมที่ผมคิดว่าเป็นฝันเดียวกันกับสังคมไทย

ดังนั้นผมจึงผลักอนาคตการอ่านหนังสือและเขียนหนังสือของผมออกไปอีกสักสองสามปี

มาอยู่ Spring News เต็มตัวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 และจะอยู่ไปจนสังคมไทยต้อนรับ Spring News ให้เป็นสื่อร่วมสร้างสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป ผมไม่ได้ต้องการอำนาจ หรือความยิ่งใหญ่ หรือชื่อเสียงอันใดเป็นการส่วนตัว แต่ผมต้องการให้สังคมไทยมีสื่อสารมวลชนที่เป็นที่พึงพิงหลักในเรื่องข่าวสารข้อมูลความรู้และจิตสำนึกในการสร้างสังคมประชาธิปไตย โดยเฉพาะในยามที่กระแสโลกาภิวัฒน์, เทคโนโลยี, และทุนการเมือง กำลังทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อสารมวลชนไทยลงไปอย่างเกือบสิ้นหวัง ผมมองเห็นอนาคตของ Spring News ชัดเจนแล้วว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ข่าว 24ชั่วโมงที่ทำงานเพื่อข่าวสารความจริงอย่างอิสระและเป็นธรรมกับทุกส่วนของสังคม เป็นศูนย์รวมของนักข่าวและนักวิชาชีพวิทยุโทรทัศน์ผู้มีจรรยาบรรณวิชาชีพ มีวิสัยทัศน์แห่งการเป็นสื่อสร้างสังคมประชาธิปไตย มีความเป็นนักผลิตงานข่าวสารทางโทรทัศน์ที่มีศิลปะ มีความคิดสร้างสรรค์ ห่วงใยและเอื้ออาทรต่อทุกส่วนของสังคม โดยเฉพาะสังคมที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและความรู้อันเป็นประโยชน์ต่อชีวิต สังคม และประเทศชาติ

“Old soldiers never die. They just fade away”, ฝรั่งพูดไว้อย่างนี้.
“Old Newsmen never die. They never fade away either”, ผมเองพูดเอง.

ไม่มีความคิดเห็น: