วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

"นายกฯยิ่งลักษณ์" ร่วมประชุมผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน ที่กัมพูชา




















นายกรัฐมนตรี และผู้นำอาเซียนอีก 9 ประเทศร่วมประชุมหารือกับผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน เพื่อส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้นำอาเซียนกับฝ่ายนิติบัญญัติของอาเซียน นำโดย นายมาซูกี อัลลี ประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน ณ ห้อง Champei, Peace Palace

วันนี้ (3 เม.ย.2555) เวลา 14.00 น. ณ ห้อง Champei, Peace Palace นายกรัฐมนตรี และผู้นำอาเซียนอีก 9 ประเทศร่วมประชุมหารือกับผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน นำโดย นายมาซูกี อัลลี ประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน สำหรับ ผู้แทนจากรัฐสภาไทย คือ วุฒิสมาชิก นายต่วนอับดุลเล๊าะ ดาโอ๊ะมารียอ ซึ่งการหารือครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้นำอาเซียนกับฝ่ายนิติบัญญัติของอาเซียน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของ AIPA ว่าเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในการสร้างประชาคมอาเซียนในปี 2015 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านที่เกี่ยวกับกฎหมาย ซึ่งถือเป็นหลักสำคัญสำหรับอาเซียนในการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาคมระหว่างประเทศและนักลงทุนชาวต่างชาติ ถึงแม้ว่าภูมิภาคอาเซียนจะมีการพัฒนาไปอย่างมากภายใต้กฎบัตรอาเซียนและแผนงานสำหรับประชาคมอาเซียนแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่ต้องดำเนินการอีกมาก ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง แต่ยังต้องการความช่วยเหลือจากทาง AIPA ด้วย โดย AIPA สามารถช่วยอาเซียนสร้างประชาคมที่ยึดกฎกติกา ได้โดยการสนับสนุนการออกกฎหมายภายในประเทศ เพื่อให้ข้อตกลงอาเซียนสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภาหรือหน่วยงานนิติบัญญัติจากประเทศอาเซียน ซึ่ง AIPA สามารถกระตุ้นให้สมาชิกรัฐสภาของประเทศในกลุ่มอาเซียนผ่านกฎหมายภายในที่จำเป็นเพื่อให้ความตกลงอาเซียนสามารถใช้บังคับได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้สมาชิกรัฐสภายังสามารถช่วยให้อาเซียนปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎบัตรอาเซียนและสามเสาหลัก ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าอาเซียนเป็นองค์กรตั้งอยู่บนพื้นฐานกฎเกณฑ์อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังควรมีการหารือระหว่างอาเซียนกับ AIPA เพื่อทราบถึงความคืบหน้าของข้อตกลงอาเซียน เพื่อดูว่า AIPA สามารถช่วยในการดำเนินงานในด้านใดได้

นอกจากนี้ AIPA สามารถช่วยให้อาเซียนกลายเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยการเชื่อมโยงอาเซียนกับประชาชน ในฐานะที่สมาชิกรัฐสภาเป็นตัวแทนของประชาชน สามารถเข้าหาประชาชนและรับฟังปัญหาหรือข้อกังวลที่อาจส่งผลกระทบต่ออาเซียนได้โดยตรง ซึ่งการทำเช่นนี้จะเป็นประโยชน์แก่รัฐบาลในการกำหนดนโยบายต่ออาเซียนโดย AIPA ยังสามารถส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมโดยตรงในการสร้างประชาคมอาเซียน อีกทั้งเครือข่ายนิติบัญญัติของ AIPA ยังสามารถช่วยเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียนและส่งเสริมการรับรู้ในหมู่ประชาชนให้มากขึ้นได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประชาคมอาเซียนยังได้มีการพิจารณาเชิญ AIPA เข้ามามีส่วนร่วมในอาเซียน อาทิ การสัมมนาของอาเซียนในอนาคตอีกด้วย โดยนายกรัฐมนตรีหวังว่าในอนาคต อาเซียนและ AIPA




ไม่มีความคิดเห็น: