วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

ลูกบอลยังปรองดอง! "ครม.+111" เสมอ "สื่อฯ" 2:2




ที่สนามเทพหัสดิน ในการแข่งฟุตบอลนัดพิเศษกระชับมิตร 4 เส้า จัดโดยพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย ทีมที่ 1 ฝ่ายส.ส.และส.ว. ที่นำโดยส.ส.พรรคเพื่อไทย เช่นนายวัฒนา เมืองสุข นายการุณ โหสกุล ใส่เสื้อสีแดง ทีมที่ 2 ทีมครม. ชุดปัจจุบันและอดีต สมาชิกบ้านเลขที่ 111 - 109 นำโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใส่เสื้อสีขาว มีสัญลักษณ์ประจำทำเนียบรัฐบาล บนหน้าอกซ้าย และโลโก้พรรคเพื่อไทย กับพรรคพลังประชาชน ด้านหน้า ทีมที่ 3 สื่อมวลชน ใส่เสื้อสีเทา และทีมที่ 4 ดาราศิลปิน ใส่เสื้อสีเขียว  สำหรับการแข่งขัน คู่แรกเป็นการเจอกันระหว่างทีมส.ส.และส.ว.กับทีมดาราศิลปิน คู่ที่สอง ระหว่างทีมครม. บ้านเลขที่ 111 - 109 กับทีมสื่อมวลชน และคู่ที่สามนำสมาชิก 4 ทีมมาแบ่งครึ่ง โดยการแข่งขันแต่ละคู่ จะแบ่งออกเป็น 2 ครึ่งๆ ละ 35 นาที

สำหรับผลของการแข่งขันในครั้งนี้ ทีมดารานักแสดง ชนะทีมรัฐสภาไปด้วยผลการแข่งขัน 4-3 ส่วนทีมคณะรัฐมนตรีและทีมของบ้านเลขที่ 111 เสมอกับ ทีมของสื่อมวลชน 2-2 

เพื่อไทยส่ง "เกษม นิมมลรัตน์" ลงชิงเขต3 เชียงใหม่

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวเปิดตัวนายเกษม นิมมลรัตน์ ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ แทน น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ 


นายยงยุทธกล่าวว่า กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมและมีมติเอกฉันท์ที่จะส่งนายเกษมลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ แทน น.ส.ชินณิชา แม้นายเกษมจะหน้าใหม่สำหรับคนกรุงเทพฯ แต่ที่ จ.เชียงใหม่นายเกษมไม่ใช่คนหน้าใหม่ เพราะเคยร่วมงานการเมืองกับพรรคไทยรักไทยตั้งแต่ปี 2544 ต่อเนื่องมาจนถึงพรรคพลังประชาชน ทั้งยังเป็นประธานสาขาพรรคเพื่อไทยที่ จ.เชียงใหม่ และผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยที่ จ.เชียงใหม่ด้วย จากคุณสมบัติของนายเกษมที่มั่นคงต่อพรรคมาอย่างยาวนาน พรรคเพื่อไทยจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้นายเกษมลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว

ทางด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า โดยส่วนตัวรู้จักนายเกษมมานาน นายเกษมเป็นคนทำงานและยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเชียงใหม่มานาน รวมทั้งทำงานร่วมกับพรรคมาอย่างยาวนาน ดังนั้นเจตนารมณ์ของนายเกษมที่ยืนเคียงข้างประชาชนมานาน ก็หวังว่าประชาชนจะให้โอกาสนายเกษมได้ทำงานรับใช้ชาวเชียงใหม่ด้วย หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าวด้านนายยงยุทธกล่าวแสดงความมั่นใจว่าจะไม่เกิดความขัดแย้งกับกลุ่มคนเสื้อแดงใน จ.เชียงใหม่ มั่นใจว่าจะมีเหตุผล เข้าใจ และไม่มีจิตใจคับแคบ โดยกลุ่มเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวคัดค้านนายเกษมมีน้อยมาก โดยพรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่เพื่อหาเสียงอย่างเป็นทางการวันที่ 12 พฤษภาคม

"วสันต์-เบนซ์ทองหล่อ" เทคะแนน "รัฐบาลปู" เกรด A


 
เมื่อวันที่ 28 เมษายน เวลา16.00-17.00 รายการวิทยุชื่อดังคลื่น 97.0 FM  “CEO TALK”
ผู้ดำเนินรายการได้พูดคุยกับแขกประจำรายการเจ้าของเบนซ์ทองหล่อ “วสันต์ โพธิพิมพานนท์” ถึงเหตุการณ์บ้านเมือง เศรษฐกิจ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยนายวสัตน์ได้แสดงความเห็นไว้ดังนี้

“ถามคุณวสันต์เรื่องเลือกตั้งซ่อมที่ปทุม เพื่อไทยแพ้ แสดงว่าชาวบ้านสั่งสอนหรือไม่”
นายวสันต์:   “ไม่ใช่ชาวบ้านสั่งสอน แต่รัฐบาลเขาไม่เอาจริง อำนาจเขามีเต็มมือจะจัดเต็มลงมาก็ได้ แต่เขาก็ไม่ทำ ปล่อยให้ ปชป. เหลิงไป หมดไปเท่าไหร่ละ เห็นใส่ไปเยอะ ให้หลงดีใจกันไป จะได้เบี่ยงประเด็นเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ลดอุณหภูมิร้อนๆลงไปบ้าง

“กรณีเรื่องน้ำท่วม ที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่ารัฐบาลไม่ผิดเรื่องแจกของ”
นายวสันต์:  ส่วนเรื่องน้ำท่วมก็มีส่วนบ้าง อีกฝ่ายแจกของไม่ได้ รัฐธรรมนูญเขาห้ามสส.แจกของ เห็นไหมละวันอภิปรายจับผิดกันไปมา ใครจะไปกล้าแจก แต่อีกฝ่ายไม่ได้เป็นสส. เลยแจกของได้ช่วยชาวบ้านได้เต็มที่ แต่ไม่ใช่ว่าเพื่อไทยเขาไม่ช่วย ดูท่านประชา พรหมนอกสิ ทำงานจนไม่มีเวลาพัก หน้าดำคล่ำเครียด

“นายกปู ไปพบป๋า ทำให้ทหารไม่พอใจ”
นายวสันต์: บอกว่าก็มีบ้าง แต่ทหารคุมได้ถ้าป๋าเปรมออกมาพูดนิดหน่อย ก็สั่งได้หมด ส่วนเสื้อแดงก็มีขัดแย้งบ้างนิดหน่อย ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ก็แถลงแล้ว ไม่มีอะไร เสื้อแดง เสื้อเหลือง ป๋าออกปากหน่อย ก็จบแล้ว ขัดแย้งกันมาเยอะแล้ว เหลือป๋าคนเดียวที่ไม่ขัดแย้ง ส่วนฝ่ายอื่นแตกแยกกันหมด ส่วนท่านประยุทธ์ ก็วางตัวดี ช่วยเหลือรัฐบาลดีทุกอย่าง ตอนแรกเหมือนขัดแย้ง แต่ท่านก็เป็นผู้นำ วางตัวดี ตอนช่วยน้ำท่วมก็ได้คะแนนไปเต็มๆ

“เรื่องเศรษฐกิจ นายกปูไปจีน-ญี่ปุ่น”
นายวสันต์:  ดีมากเลย ไปที่ไหนก็เด่น ดูสิเป็นนายกที่สวยที่สุดในโลกไปแล้ว ไม่มีใครสวยเท่า แต่งตัวก็เด่น เรียบร้อย ไปญี่ปุ่นก็ใส่ชุดญี่ปุ่น ไปจีนก็ใส่ชุดจีน มีหน้าเป็นเทรนเอเชีย ใส่ชุดชาติอะไรก็ขึ้น เป็นนายกที่วางตัวดี ไม่ค่อยตอบโต้เรื่องการเมือง เห็นไหม ท่านด่าใครบ้าง การเมืองถึงสงบ ตอนนี้เศรษฐกิจไทยดีมาก ยอดสั่งรถเกินคาด ปีก่อนขนาดมีน้ำท่วมก็ปาไป 8แสนคันแล้ว ถ้าน้ำไม่ท่วมช่วงกลางปี ยอดล้านคันไปแล้ว ปีนี้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว ดูสิ โรงงานโตโยต้าที่ฉะเชิงเทรา ออเดอร์ล้นไปแล้ว ต้องขยายงานออกไป โตโยต้าเขาใจปล้ำ ถ้าค่ายอื่นไม่กล้ารับหรอก กลัวทำออกมาแล้วขายไม่ได้ เป็นฝรั่งยิ่งไม่กล้ารับ แต่นี่โตโยต้า ไม่กลัว ทำรถไม่อั้นเลย ส่วนกังวลกันเรื่องเงินเฟ้อไม่ต้องไปกลัว เป็นเงินเฟ้อที่คนมีเงินซื้อ ของแพงก็มีเงินซื้อ ถ้าไม่มีเงินเฟ้อของถูก แต่คนไม่มีตังซื้อจะไปมีประโยชน์อะไร

“ถ้าให้คะแนนเรื่องเศรษฐกิจแก่รัฐบาลยิ่งลักษณ์”
นายวสันต์: ถ้าเต็ม10 ให้เท่าไหร่ ผมบอกได้  เอา  A ไปเลย คงให้เต็มไปเลย ถ้าเป็นเปอเซ็นก็ประมาณ 80% ขึ้นไป

เพื่อไทยส่ง "เกษม นิมมลรัตน์" ชิงสส.เชียงใหม่แทนชินณิชา


เกษม นิมมลรัตน์
พรรคเพื่อไทยได้ตัดสินใจส่ง นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีตที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่ ลงสมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 แทน น.ส.ชินณิชา ชินวัตร โดยจะมีการแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเวลา 17.00 น. วันที่ 1 พ.ค.นี้ ที่พรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปช่วยหาเสียงในวันที่ 12-13 พ.ค. ที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย

พระจักรพรรดิ์ญี่ปุ่นแสดงพระราชประสงค์ "ให้ถวายเพลิงพระศพอย่างเรียบง่ายที่สุด"




สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีของญี่ปุ่น มีพระราชประสงค์ให้เผาพระบรมศพของพระองค์แทนการฝังที่มีค่าใช้จ่ายมาก หลังจากที่ทั้งคู่เสด็จสวรรคต

พระราชพิธีพระบรมศพของพระจักรพรรดิที่ต้องจัดให้ยิ่งใหญ่เหมาะสมกับพระเกียรติยศ แน่นอนว่ามาพร้อมกับรายจ่ายจำนวนมหาศาล ในปี 2532 พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ จัดขึ้นด้วยการฝังพระบรมศพที่สุสานหลวงมุซาชิโนะ ในกรุงโตเกียว ซึ่งเพียงแค่ราคาของสุสานอย่างเดียว ก็มีมูลค่าถึง 2 พัน 6 ร้อยล้านเยน หรือประมาณ 1 พันล้านบาท

ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ ที่ในปีที่แล้วมีปริมาณหนี้สาธารณะสูงถึงร้อยละ 299.77 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก เนื่องจากต้องใช้เงินเพื่อการฟื้นฟูประเทศหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งรุนแรง

สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระจักรพรรดิลำดับที่ 125 และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะของญี่ปุ่น จึงได้มีพระราชประสงค์ต่อกรมพระราชวัง ให้จัดพระราชพิธีพระบรมศพของทั้งสองพระองค์ ด้วยการถวายเพลิงเผาพระบรมศพแบบที่เรียบง่ายที่สุด

เรื่องนี้ได้รับการยืนยันโดยหัวหน้าสำนักพระราชวัง ที่ออกมาแถลงข่าวว่า การแสดงพระราชประสงค์เช่นนี้ไม่ได้สิ่งที่เกิดบ่อยครั้งในรัชสมัยก่อนๆ แต่ในรัชสมัยนี้ สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีทรงมีพระราชดำรัสย้ำในเรื่องนี้บ่อยๆ โดยปกติพระราชพิธีพระบรมศพจะนิยมดำเนินการด้วยการฝัง แต่สมเด็จพระจักรพรรดิองค์ปัจจุบันมีพระราชประสงค์ให้เผา เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

Thai PM, army chief visit restive South



BANGKOK - Accompanied by the Army Chief Gen Prayuth Chan-ocha, Prime Minister Yingluck Shinawatra on Sunday headed to the far southern province of Pattani to follow up on southern violence.

The prime minister is scheduled to meet with the public as well as local religious and community leaders. In addition, she will hear a briefing on southern violence security operations and the progress of implementation of provincial development policies.

The government then could adjust its policies and strategies in response to the region's problems, she added.

Over 11,000 violent incidents have happened in the southernmost provinces of Yala, Pattani and Narathiwat since the insurgency resurgence in January 2004. Altogether over 5,000 people, mostly villagers, have been killed in violent incidents instigated by suspected secessionists in these Muslim-dominant provinces which were once independent sultanate of Pattani before being annexed by predominantly Buddhist state in 1909.

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

"ทักษิณ" บินลงจอดสนามบินกรุงลอนดอน เพื่อร่วมชมฟุตบอลนัดสำคัญ




(THE NATION/ASIA NEWS NETWORK) - Former Thai prime minister Thaksin Shinawatra is scheduled to return to England for the first time since 2008 to watch Monday's crucial soccer game between Manchester United and Manchester City, his legal aide Noppadon Pattama confirmed on Thursday.

British authorities shut Thaksin out in late 2008 after he was found guilty in the Ratchadaphisek land case. Before that, Thaksin had a luxurious residence in London and bought Manchester City Football Club, which he later sold to its current owners.

The United Kingdom (UK) Embassy here has kept a tight lip on the policy change towards Thaksin.

The decision to allow him back, however, coincided with him getting permission to enter countries such as Germany, France, Russia and Japan.

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

ประเคน "คุก 10 ปี" สุรชัย แซ่ด่าน!




       วันนี้(27 เม.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์สอบคำให้การจำเลยคดีหมายเลขดำ อ. 1177/55 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสุรชัย แซ่ด่าน หรือ ด่านวิวัฒนานุสรณ์ อายุ 70 ปี แกนนำกลุ่มแดงสยาม เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาต มาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
     
       คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่าระหว่างวันที่ 5 ก.พ. - 6 ก.พ. 54 เวลากลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยบังอาจกล่าวปราศรัยบนเวทีชั่วคราวด้วยถ้อยคำหมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท เหตุเกิดบนเวทีปราศรัยชั่วคราวลานวัดสามัคคีธรรม ซ.ลาดพร้าว 64 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.
     
       โดยศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้วสอบถาม ซึ่งจำเลยแถลงให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดี
     
       ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พิพากษาจำคุก 5 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน โดยให้นับโทษจำเลยต่อในคดีหมิ่นเบื้องสูงของศาลอาญาอีก 3 สำนวน คดีแดง อ.503/55,504/55 และ505/ 55 ที่ศาลพิพากษาจำคุก 7 ปี 6 เดือน รวมจำคุก จำเลยไว้ทั้งสิ้น 10 ปี

น้องเดียร์ร่วมงานรำลึกน้องเกด ย้ำไม่มีใครทอดทิ้งเสื้อแดง


เมื่อเวลาประมาณ 17.15 น. วันที่ 26 เมษายน กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางไปชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์เพื่อรำลึกถึงและรดน้ำกระดูก น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือ "น้องเกด" พยาบาลอาสาผู้เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม เมื่อค่ำวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เนื่องจากวันนี้ถือเป็นวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของน้องเกด

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  ได้กล่าวกับประชาชนที่มาร่วมงานดังกล่าวว่า “ตนเองไม่ได้มาร่วมงานในฐานะ ส.ส. แต่มาร่วมงานในฐานะผู้สูญเสีย โดยเชื่อว่าเสื้อแดงทุกคนไม่ลืมการสูญเสียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าการสูญเสีย น้องเกด การสูญเสียคุณพ่อ (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง) และการสูญเสียคนเสื้อแดงอีกหลายคน ตนอยากให้ทุกคนมั่นใจ และเชื่อใจกระบวนการยุติธรรม เพราะถ้าเราไม่เชื่อ เราก็ไม่สามารถเชื่อใครได้นอกจากตัวเอง”

"เดียร์ (น.ส.ขัตติยา) รู้สึกไม่แตกต่างจากแม่น้องเกด แต่อยากให้ทุกคนใจเย็นเหมือนเดียร์ และเชื่อว่าคุณพ่อของเดียร์ และน้องเกดจะใจเย็นไปกับพวกเรา" ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าว

น.ส.ขัตติยา กล่าวต่อว่า ตนมายืนตรงนี้ เป็นผลมาจากการต่อสู้ของขบวนการ ซึ่งไม่ใช่การตอบแทน จึงขอให้อย่าหยุดสู้เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง และอยากให้ทุกคนมีความหวัง แม้ว่าแม่น้องเกดจะเสียน้องเกด ส่วนเดียร์เสียพ่อ แต่ทุกคน ก็ต้องอยู่ไปให้ได้ แม้เราไม่มีใครในชีวิต แต่เราต้องดำเนินต่อไป อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน อย่าเสียกำลังใจ อย่าคิดว่าใครทอดทิ้ง”

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลูกสาว "เสธ.แดง" และ นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของน้องเกด

"ลูกชายอดีต รมช." ซิ่ง 280 กม./ชม. ชนเจ้าของ "บั๊ดดี้-ข้าวสาร" ตายทั้งคู่




 เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อินทร์เทศ พนักงานสอบสวน(สบ2) งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต ทางพิเศษ (สน.วิภาวดี) รับแจ้งรถชนกันบนทางด่วนโทลล์เวย์ขาออก แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ช่วงหน้าหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

 ที่เกิดเหตุช่องทางขวาสุดพบรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษข-3333 กทม.จอดอยู่ในสภาพด้านหลังถูชนจนยุบเข้าไปเกือบถึงที่นั่งคนขับ ในที่นั่งคนขับพบศพ.ต.ศักดิภัทร ปทุมารักษ์ บุตรชายนายชาญชัย ปทุมารักษ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และรมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลกะโหลกเปิด คอหัก

 ด้านหน้ารถฟอร์จูนเนอร์ มีรถเก๋งสปอร์ต ยี่ห้อปอร์เช่ สีบรอนซ์เงินทะเบียน กก-911 กทม.อยู่ สภาพจอดขวางอัดอยู่ มีร่องรอยการเฉี่ยวชนอย่างรุนแรงจนด้านหน้ารถพังยับเยิน หลังคาเปิดมีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ในที่นั่งคนขับ ชื่อ นายไทฟ้า ชยวรประภา อายุ 54 ปี กรรมการผู้จัดการ บ.บั้ดดี้ กรุ๊ป จำกัด และเป็นเจ้าของโรงแรม บั้ดดี้ วิลเลจ ที่ตั้งอยู่ที่ถ.ข้าวสาร อยู่บ้านเลขที่ 33 ซ.ประวิทย์และเพื่อน แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. สภาพศพสวมเสื้อคอโปโลสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้า ตรวจสอบตามร่างกายพบว่าคอหัก กระดูกแขนขาหัก ห่างออกไปประมาณ  10 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน ฎว-2188 กทม. จอดอยู่ ด้านหน้ารถถูกชนชนยุบ  มีนายอำนาจ กลิ่นอยู่ อายุ 30 ปี คนขับรถคันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่นำส่งรพ.วิภาวดี  ส่วนศพทั้งสองที่อยู่ในรถถูกชนอัดติดอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่าง งัดร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายออกจากซากรถ

 พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า  เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ แต่จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าจุดที่ชนครั้งแรกกับจุดที่รถหยุดอยู่ห่างกันถึง 120 เมตร น่าเชื่อว่าก่อนเกิดเหตุรถทั้ง 2 คันน่าจะขับมาด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะรถเก๋งปอร์เช่ เข็มไมล์ของรถค้างอยู่ที่ 280 กม./ชม. อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ประสานขอภาพวงจรปิดจากโทล์เวย์ พร้อมสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

เสื้อแดงร่วมรำลึก 'น้องเกด'

26 เม.ย.55 เมื่อเวลา 17.00 น. บริเวณแยกราชประสงค์ มีการจัดงานรำลึกการเสียชีวิตและวันคล้ายวันเกิดของนางสาวกมนเกด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในเดือนพฤษภาคม 2553 โดยนางพะเยาว์ และนายณัทพัช อัคฮาด มารดาและน้องชายได้อ่านแถลงการณ์ข้อเสนอเพื่อที่จะนำไปสู่ความปรองดองเสนอต่อ รัฐบาล รัฐสภา และสารณชนพิจารณา โดยมีเนื้อหา ดังนี้

1. เสนอให้ออก พ.ร.บ. นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองและผู้ที่ถูกดำเนินคดีอันมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ตั้งแต่เกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทุกฝ่ายโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นการลดเงื่อนไขความขัดแย้งในสังคมวงกว้าง

2. เร่งรัดให้การสืบสวนสอบสวน การไต่สวนการตาย และการพิจารณาคดีบนชั้นศาลกรณีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมดำเนินไปอย่างไม่ล่าช้า เพื่อฟื้นฟูระบบนิติรัฐในสังคมไทย หากปรากฏว่าแกนนำ นปช. เป็นผู้กระทำความผิดก็ให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม หากปรากฏว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเป็นผู้กระทำความผิด อาจพิจารณาให้นิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ระดับล่าง แต่ต้องไม่ละเว้นการดำเนินคดีเอาผิดกับผู้สั่งการและผู้บังคับบัญชาในการสลายการชุมนุม เพราะการละเว้นความรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิในชีวิตของประชาชนย่อมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ในระบอบประชาธิปไตย

3. ให้รัฐบาลชดเชยค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจากการชุมนุมทางการเมืองนับแต่การรัฐประหาร 19 กันยา ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ ผู้ชุมนุม และผู้ประกอบการเอกชน

4. สำหรับกรณีของคุณทักษิณและพวก ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบ 2 มาตรฐานหรือกระบวนการตุลาการภิวัตน์ที่สืบเนื่องจากการรัฐประหาร 19 กันยา ควรดำเนินการตามแนวทาง “ลบล้างผลพวงรัฐประหาร” ของคณะนิติราษฎร

ทางด้าน น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  ได้กล่าวกับผู้ชุมนุมว่า ไม่ได้มาร่วมงานในฐานะ ส.ส. แต่มาร่วมงานในฐานะผู้สูญเสีย เชื่อว่าเสื้อแดงทุกคนไม่ลืมการสูญเสียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อยากให้ทุกคนมั่นใจ และเชื่อใจกระบวนการยุติธรรม เพราะถ้าเราไม่เชื่อ เราก็ไม่สามารถเชื่อใครได้นอกจากตัวเอง

"เดียร์รู้สึกไม่แตกต่างจากแม่น้องเกด แต่อยากให้ทุกคนใจเย็นเหมือนเดียร์ และเชื่อว่าคุณพ่อของเดียร์ และน้องเกดจะใจเย็นไปกับพวกเรา" น.ส.ขัตติยากล่าว

Red Shirts Commemorate the six victims killed in May's military crackdown.


BANGKOK, April 26 - Anti-establishment "red-shirt" supporters on Thursday began to rally at Ratchaprasong intersection in downtown Bangkok, where the bloody crackdown took place in 2010, to commemorate the event, go6TV's JJ.Sathon reported.

The rally is led by Payao Akahad, whose daughter Kamolkade, an assistant nurse, was found shot dead in Pathum Wanaram Temple on May 19, 2010. Today would have been her daughter's 27th birthday.

During March to May 2010, red-shirt supporters held street rally demanding the then Abhisit Vejjajiva government to resign. The rally ended with confrontation with military, resulting in 92 deaths and about 2,000 injuries.

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

"โอ๊ค" ทวิตรำลึกวันเกิด "น้องกมนเกด" พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมฯ



นายพานทองแท้  ชินวัตร  บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเสียใจผ่านทวิตเตอร์ @ Oak Panthongtae Shinawatra รำลึกถึงการจากไปของนางสาวกมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสา ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 โดยมีใจความว่า


"ขอระลึกถึงน้องเกดเนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 27 นะครับ น้องเกดยอมเสียสละชีวิตเพื่อเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องที่บาดเจ็บจากการชุมนุมและเข้าไปพักรักษาตัวในวัดปทุมฯ ถึงแม้ผมจะไม่เคยมีโอกาสได้เจอน้องเกดมาก่อน แต่ก็มีความศรัทธาเมื่อได้ทราบในวีรกรรมความกล้าหาญของน้อง ขอให้น้องเกดไปสู่สุขคติ"

"รดน้ำอบ ต่างน้ำตา" พยาบาลอาสา "กมนเกด อัคฮาด"





เมื่อเวลาประมาณ 17.15 น. วันที่ 26 เมษายน กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางไปชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์เพื่อรำลึกถึงและรดน้ำกระดูก น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือ "น้องเกด" พยาบาลอาสาผู้เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม เมื่อค่ำวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เนื่องจากวันนี้ถือเป็นวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของน้องเกด 

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  ได้กล่าวปราศรัยกับผู้ชุมนุมว่า ตนเองไม่ได้มาร่วมงานในฐานะ ส.ส. แต่มาร่วมงานในฐานะผู้สูญเสีย โดยเชื่อว่าเสื้อแดงทุกคนไม่ลืมการสูญเสียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าการสูญเสีย น้องเกด การสูญเสียคุณพ่อ (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง) และการสูญเสียคนเสื้อแดงอีกหลายคน ตนอยากให้ทุกคนมั่นใจ และเชื่อใจกระบวนการยุติธรรม เพราะถ้าเราไม่เชื่อ เราก็ไม่สามารถเชื่อใครได้นอกจากตัวเอง

"เดียร์ (น.ส.ขัตติยา)  รู้สึกไม่แตกต่างจากแม่น้องเกด แต่อยากให้ทุกคนใจเย็นเหมือนเดียร์ และเชื่อว่าคุณพ่อของเดียร์ และน้องเกดจะใจเย็นไปกับพวกเรา" ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าว

น.ส.ขัตติยา กล่าวต่อว่า ตนมายืนตรงนี้ เป็นผลมาจากการต่อสู้ของขบวนการ ซึ่งไม่ใช่การตอบแทน จึงขอให้อย่าหยุดสู้เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง และอยากให้ทุกคนมีความหวัง แม้ว่าแม่น้องเกดจะเสียน้องเกด ส่วนเดียร์เสียพ่อ แต่ทุกคน ก็ต้องอยู่ไปให้ได้ แม้เราไม่มีใครในชีวิต แต่เราต้องดำเนินต่อไป อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน อย่าเสียกำลังใจ อย่าคิดว่าใครทอดทิ้ง 

ด้านนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของน้องเกด กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องที่ได้มาร่วมงานวันเกิดน้องเกด ซึ่งจะตรงกับวันอื่นก็ช่างแม่มัน และดีใจที่พี่น้องไม่ลืมน้องเกด ไม่ลืมการต่อสู้ 

"ทำไมแม่ต้องลุกขึ้นมาสู้ เพราะหลังน้องเสียไป น้องก็ได้มาหาแม่ แล้วถามว่า เขาฆ่าหนูทำไม หนูเป็นห่วงแม่ ทำให้ฉัน ต้องการถามผู้สั่งการว่า ฆ่าทำไม  คำตอบนี้ อภิสิทธิ์ สุเทพ กองทัพ ต้องตอบว่า ฆ่าลูกฉันทำไม" นางพะเยาว์กล่าวและเชิญผู้ร่วมงานร่วมเป่าเทียนและรับประทานขนมเค้กวันเกิดน้องเกด รวมทั้งร้องเพลง "แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู" ในเวลา 19.07 น.


วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

"นิติราษฎร์" ล่าสุดย้ำ "ต้องไม่นิรโทษกรรม จนท.รัฐผู้สลายชุมนุม"




อาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์สมาชิกหนึ่งในกลุ่มนิติราษฏร์ ได้ลงคำแถลงการณ์นิติราษฏร์ฉบับที่ 34 ดังรายละเอียดต่อไปนี้

จุดยืนคณะนิติราษฎร์

หลังจากที่คณะนิติราษฎร์ได้เสนอให้ลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เสนอแนวทางการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และยกร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ซึ่งต่อมาคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา ๑๑๒ (ครก. ๑๑๒)ได้ดำเนินการรวบรวมรายชื่ออย่างน้อย ๑๐๐๐๐ รายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวตามข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ไปยังรัฐสภา กำหนดระยะเวลารณรงค์ ๑๑๒ วัน และการรณรงค์ดังกล่าวจะครบกำหนดในวันที่ ๕ พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ มีผู้สอบถามมายังคณะนิติราษฎร์เกี่ยวกับกิจกรรมทางวิชาการและการเคลื่อนไหว ทางความคิดที่จะดำเนินต่อไปในโอกาสครบรอบ ๘๐ ปีของการอภิวัฒน์สยาม ๒๔๗๕ ตลอดจนแนวทางทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย คณะนิติราษฎร์เห็นสมควรที่จะได้แสดงจุดยืนและทัศนะต่อประเด็นปัญหาต่างๆ ไว้โดยสังเขป ดังนี้

๑. คณะนิติราษฎร์ยืนยันว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากอัตราโทษที่กำหนดไว้ในปัจจุบันสูงเกินสมควรกว่าเหตุ นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่นๆอีกหลายประการ ดังที่ได้เคยแสดงให้เห็นไว้แล้วในประกาศนิติราษฎร์ฉบับที่  ๑๖ (วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๔) และในข้อเสนอเพื่อการรณรงค์แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ตามข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้หลายประการ และจะบรรเทาปัญหาบางประการลง คณะนิติราษฎร์จึงยืนยันสนับสนุนกิจกรรมของ ครก.๑๑๒ ในการรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ตามข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ไปยังรัฐสภา และให้เป็นหน้าที่ของรัฐสภาในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวต่อไป

๒. คณะนิติราษฎร์ไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงต่อแนวทางการปรองดองหรือสมานฉันท์โดยวิธีการตรากฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่บุคคลทุกฝ่ายดังเช่นการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระหว่างวันที่ ๔ ถึงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ พ.ศ.๒๕๒๑ (นิรโทษกรรมในเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๑๙) หรือการตราพระราชกำหนดนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมกันระหว่างวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๕ ถึงวันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๕ พ.ศ.๒๕๓๕ (นิรโทษกรรมในเหตุการณ์พฤษภา ๓๕) เนื่องจากการนิรโทษกรรมในลักษณะดังกล่าวแม้จะทำให้ประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมพ้นจากความผิดและความรับผิด แต่ก็จะมีผลให้บรรดาผู้ที่สั่งการและปฏิบัติการสลายการชุมนุมพ้นจากความผิดไปพร้อมกันด้วย การนิรโทษกรรมในลักษณะดังกล่าวไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งต่อผู้ที่สูญเสียในเหตุการณ์สลายการชุมนุมต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากการแย่งชิงอำนาจรัฐเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมา

๓. คณะนิติราษฎร์เห็นว่าแนวทางการตรากฎหมายเพื่อการขจัดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายภายหลังจากการแย่งชิงอำนาจรัฐเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ควรจะต้องพิจารณาแยกแยะลักษณะการกระทำของบรรดาบุคคลที่เกี่ยวข้องและจัดวางโครงสร้างของกฎหมายโดยมีสาระสำคัญหลัก คือ

ประการที่หนึ่ง ต้องไม่มีการนิรโทษกรรมให้แก่บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงตลอดจนการสลายการชุมนุมทุกเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมา การกระทำของบรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลที่ถือได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าจะได้กระทำการในฐานะเป็นผู้สั่งการหรือผู้ปฏิบัติการ และไม่ว่าจะกระทำในขั้นตอนใดๆ หากการกระทำนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในเวลานั้น บุคคลนั้นยังคงมีความผิดตามกฎหมายและต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ประการที่สอง ให้มีการนิรโทษกรรมทันทีแก่ประชาชนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานฝ่าฝืนบรรดากฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินและกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงที่ได้รับการประกาศใช้ในเหตุการณ์การเดินขบวนและการชุมนุมประท้วงทางการเมืองในพื้นที่ต่างๆตามที่จะได้กำหนดไว้ในประกาศที่ออกตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในหมวดที่ว่าด้วยการขจัดความขัดแย้งและบรรดาการกระทำต่างๆของผู้เข้าร่วมเดินขบวนและชุมนุมประท้วงทางการเมืองในพื้นที่ต่างๆข้างต้น หากเป็นความผิดลหุโทษ หรือความผิดที่อัตราโทษไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในหมวดที่ว่าด้วยการขจัดความขัดแย้ง ก็ให้บุคคลนั้นพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง

ประการที่สาม บรรดาการกระทำทั้งหลายของบุคคลที่เข้าร่วมเดินขบวนและชุมนุมประท้วงทางการเมืองที่ไม่เข้าข่ายที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ เช่น การกระทำที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่นและไม่ใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่อัตราโทษไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในหมวดที่ว่าด้วยการขจัดความขัดแย้ง ตลอดจนการกระทำความผิดของบุคคลที่แม้ไม่ได้เข้าร่วมเดินขบวนและชุมนุมประท้วงทางการเมือง แต่มีข้อสงสัยว่ามีมูลเหตุเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมืองหลังการแย่งชิงอำนาจรัฐเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมา ให้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการขจัดความขัดแย้งซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในหมวดที่ว่าด้วยการขจัดความขัดแย้ง ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการขจัดความขัดแย้ง จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ถูกกล่าวหาไม่ได้ ในกรณีที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีและคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ไม่ว่าจะเป็นศาลในลำดับชั้นใด ให้ศาลระงับการดำเนินกระบวนพิจารณา และให้ปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวหาไปก่อน ในกรณีที่มีข้อสงสัยว่าการกระทำนั้นตกอยู่ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญว่าด้วยการขจัดความขัดแย้งหรือไม่ ให้คณะกรรมการขจัดความขัดแย้งเป็นผู้วินิจฉัย คำวินิจฉัยว่าการกระทำใดอยู่ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในหมวดที่ว่าด้วยการขจัดความขัดแย้งหรือไม่ ให้มีผลผูกพันองค์กรของรัฐทุกองค์กร และไม่อาจเป็นวัตถุในการพิจารณาขององค์กรตุลาการหรือองค์กรอื่นใดได้

ประการที่สี่ ในกรณีที่คณะกรรมการขจัดความขัดแย้งวินิจฉัยว่าการกระทำใดไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญว่าด้วยการขจัดความขัดแย้ง หรือวินิจฉัยว่าการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมต่างๆ ตลอดจนการกระทำที่มีข้อสงสัยว่ามีมูลเหตุเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมืองหลังการแย่งชิงอำนาจรัฐเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมา ไม่เกี่ยวข้องกับมูลเหตุจูงใจหรือแรงจูงใจทางการเมือง ให้ดำเนินการกับบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ในกรณีที่คณะกรรมการขจัดความขัดแย้งวินิจฉัยว่าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากมูลเหตุจูงใจหรือแรงจูงใจทางการเมืองหลังเหตุการณ์แย่งชิงอำนาจรัฐ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ก็ให้บุคคลที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้เท่าที่ไม่ขัดกับพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก

ประการที่ห้า การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งตามแนวทางที่คณะนิติราษฎร์เสนอไว้เบื้องต้นโดยสังเขปนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ไขเพิ่มรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันโดยเพิ่มบทบัญญัติว่าด้วยการขจัดความขัดแย้งเป็นอีกหมวดหนึ่ง โดยนอกจากบทบัญญัติในหมวดนี้จะกล่าวถึงคณะกรรมการขจัดความขัดแย้ง และกฎเกณฑ์ต่างๆตามแนวทางที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว ยังต้องกล่าวถึงการเยียวยาความเสียหายต่างๆด้วย การดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้สามารถทำได้โดยไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการจัดให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และสามารถกระทำได้ทันที

๔. สำหรับกรณีของการลบล้างผลพวงรัฐประหารนั้น คณะนิติราษฎร์เสนอให้บัญญัติเป็นหมวดอีกหมวดหนึ่งในรัฐธรรมนูญฉบับที่จะได้จัดทำขึ้นใหม่ตามที่ได้เคยแถลงต่อสาธารณะไปแล้ว โดยคณะนิติราษฎร์ยืนยันหลักการของการประกาศให้การนิรโทษกรรมการทำรัฐประหารหรือการแย่งชิงอำนาจรัฐเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นโมฆะ เพื่อเปิดทางให้บุคคลที่มีส่วนร่วมในการทำรัฐประหารหรือแย่งชิงอำนาจรัฐเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำการเอง ผู้ใช้ ตลอดจนผู้สนับสนุน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สำหรับบรรดาคดีซึ่งเกิดขึ้นจากการเริ่มกระบวนการโดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะผู้แย่งชิงอำนาจรัฐนั้น ก็ให้ลบล้างให้สิ้นผลไป ซึ่งไม่ได้หมายถึงการนิรโทษกรรม แต่ให้เริ่มกระบวนการใหม่ให้ถูกต้องเป็นธรรมต่อไป

คณะนิติราษฎร์ขอเรียนให้ผู้ที่ติดตามกิจกรรมทางวิชาการของคณะนิติราษฎร์ทราบว่าในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ คณะนิติราษฎร์จะได้จัดกิจกรรมทางวิชาการที่เกี่ยวเนื่องกับการลบล้างผลพวงรัฐประหาร การขจัดความขัดแย้งในสังคมไทย และวิเคราะห์วิจารณ์ข้อเสนอเกี่ยวกับการปรองดองของบุคคลและสถาบันต่างๆ นอกจากนี้เพื่อให้การเคลื่อนไหวทางความคิดเกี่ยวกับประชาธิปไตยและนิติรัฐดำเนินไปในวงกว้างยิ่งขึ้น คณะนิติราษฎร์จะได้จัดให้มีการเผยแพร่แลกเปลี่ยนความรู้ทางกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายมหาชน ให้แก่ประชาชนทั่วไป รายละเอียดในเรื่องเหล่านี้จะแถลงให้ทราบต่อไป

๒๕ เมษายน ๒๕๕๕

"มัลลิกา" ถ่อย! ด่า "ส้นตีน" ว่อนเนต



อึ้ง! มัลลิกา บุญมีตระกูล สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความถ่อยไม่หยุดหย่อน  โดยมีวีรกรรมใช้วาจาระรานสมาชิกฝ่ายการเมืองมาโดยตลอด โดยไม่มีใครใส่ใจตอบโต้เธอ  วันนี้ล่าสุด เธอได้เขียนเรื่องกรณีราคาน้ำมันแพง โดยเปรียบเทียบกับประเทศมาเลเซีย   ขณะเดียวกัน ก็มีสมาชิกผู้ใช้ทวิตเตอร์มา ถามในทำนอง ทราบหรือไม่ว่าทำไมราคาน้ำมันที่มาเลเซียถูกกว่าเพราะเหตุใด  

ปรากฏว่าคุณมัลลิกา บุญมีตระกูล ได้เขียนข้อความส่วนตัวหรือไดเร็คแมสเซส มายังไอดีดังกล่าวว่า  "ส้นตีนนนนนนนนนนะ"

"โอ๊ค" ย้ำ "หากใครลง สส.แล้วเปลี่ยนใจเป็นอื่น ก็ไม่ควรมารับใช้ประชาชน"


นายพานทองแท้ ชินวัตร
นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "Oak Panthongtae Shinawatra" ระบุเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีข้อความว่า

"เพียงช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยต้องเสียที่นั่ง สส.เขตไปถึง 2 ที่นั่ง ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายนะครับ ผมคิดว่าสส.ในพรรคน่าจะถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีศึกษา และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรเกิดขึ้นอีก และคิดว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น"

"กรณีที่ สส.จังหวัดปทุมธานีลาออกมาเพื่อลงเลือกตั้งนายก อบจ. ผมคิดว่า พรรคการเมืองทุกพรรคเคารพ การตัดสินใจของ สส.ในพรรคทุกท่านนะครับ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยซึ่งจุดศูนย์กลางคือประชาชน หากใครที่คิดว่าลงเลือกตั้งสส.แล้วจะเปลี่ยนใจเป็นอื่นก็ไม่ควรอาสามารับใช้ประชาชน อย่าลืมว่าที่ประชาชนเลือกท่านมา ส่วนหนึ่งมาจากคะแนนของพรรค เมื่อท่านตัดสินใจทำสิ่งใดที่เป็นการละทิ้งหน้าที่และเขาต้องการจะแสดงพลังให้ สส.ที่เขาเคยเลือกไปนั้นทราบว่าเขาไม่เห็นด้วย พลังดังกล่าวนั้นย่อมกระทบกระเทือนถึงภาพลักษณ์โดยรวมของพรรค ทำให้คนบางคนฉวยโอกาส ใช้ผลการเลือกตั้งครั้งนี้มาโจมตีว่า คะแนนนิยมของพรรคตกต่ำลง ซึ่งโดยส่วนตัวผมคิดว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและการมีส่วนร่วมทางการเมืองที่มากขึ้นของพี่น้องประชาชน เป็นพัฒนาการทางการเมือง ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันให้สส.ทุกท่านทำงานหนักขึ้นโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางมากขึ้น ซึ่งประโยชน์ย่อมตกกับพี่น้องประชาชนครับ"

Thai PM observes Japan's bullet train in Kyushu



Thai Prime Minister Yingluck Shinawatra on Sunday flew from Tokyo to Kyushu Island to learn about the operations of Shinkansen bullet trains before wrapping up her four-day visit to Japan.

Yingluck attended a lecture on high-speed trains at Hakata Station in Fukuoka and then rode roundtrip on two types of bullet train operated by Kyushu Railway Co., known as JR Kyushu -- the N700 Series Shinkansen and the New 800 Series Shinkansen -- between Hakata and Kumamoto stations.

She was accompanied by JR Kyushu Chairman Susumu Ishihara, who later told reporters that Yingluck posed many technical questions to him and also showed interest in train design.
Thailand has enlisted Japan to conduct a preliminary feasibility study on high-speed rail links on the Bangkok-Chiang Mai and Bangkok-Rayong routes in the country.

At Kumamoto Station, Yingluck was welcomed by Kumamoto Gov. Ikuo Kabashima.

She inspected a "One Town, One Product" project, part of an initiative to revitalize rural areas and help small businesses through development of local specialized products. The movement originated in Kyushu and has been emulated in Thailand among other countries.

Yingluck visited Japan to attend the Mekong-Japan Summit that was held in Tokyo on Saturday.

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

"BOI ปลื้ม" นักธุรกิจจีนแห่ขอลงนาม MOU กับไทยแล้ว 7.5 หมื่นล้าน



นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ได้สรุปการจัดกิจกรรมต่างๆ ของคณะโรดโชว์ ที่ร่วมคณะของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในระหว่างการเยือนประเทศจีนว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริหาร และกลุ่มนักธุรกิจจีน โดยการสัมมนา โอกาสการลงทุนในไทยและการประชุมธุรกิจไทย-จีน ภายใต้ชื่องาน Business Luncheon for China – Thailand Entrepreneurs ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ การสร้างอนาคตของประเทศไทยได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนจำนวนมาก มีนักลงทุนจีนเข้าร่วมรับฟังกว่า 800 คน

นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานทดแทน การศึกษา และการท่องเที่ยว กับภาคเอกชนรายใหญ่ของจีน 16 บริษัท โดยมี 5 บริษัทยักษ์ใหญ่จากอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักร สารปรุงแต่งอาหาร และอสังหาริมทรัพย์ ที่แสดงความสนใจและอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ ร่วมรับฟังความคิดเห็น รับฟังข้อมูลนโยบายส่งเสริมการลงทุน รวมถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นฐานรองรับการลงทุน โดยหาก 5 บริษัทนี้เข้ามาลงทุนในไทยจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 65,000 ล้านบาท

ทั้งนี้จากการหารือร่วมกัน พบว่าบางบริษัทได้ตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่บางบริษัทอยู่ระหว่างการตัดสินใจ ทั้งนี้มั่นใจได้ว่า เมื่อบริษัทได้รับฟังข้อมูลที่ชัดเจน และศักยภาพของไทย รวมถึงแนวนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศแล้ว จะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และจะพิจารณาเลือกเข้ามาลงทุนในไทยในอนาคต

นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐของไทย ยังได้เป็นสักขีพยานต่อการลงนาม เอ็มโอยู ของภาคเอกชนระหว่างนักลงทุนไทยและจีนเพื่อร่วมลงทุน และความร่วมมือในด้านต่างๆ ร่วมกันอีก 9 ฉบับ อาทิ บริษัทสามมิตรกรีนพาวเวอร์ จำกัด ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไชนีส เทเลวิชั่น สเตชั่น หรือ ทีซีไอ ทีวี เป็นต้น ซึ่งก่อให้เกิดความร่วมมือด้านการลงทุนร่วมกันกว่า 73,000 ล้านบาท

"รวย 100 ล้านหลัง รปห." สรยุทธ์ฟันเงียบกริบ!


รายการที่ บริษัทไร่ส้ม จำกัด ได้รับว่าจ้างประชาสัมพันธ์โดยธนาคารออมสิน

ผลประกอบการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด

ผลประกอบการ บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด

เปิดเอกสารว่าจ้างละเอียดยิบนักเล่าข่าวดัง สรยุทธ สุทัศนะจินดาโกยโฆษณา 3 หน่วยงานรัฐ 5 ปี 105 ล้าน ธนาคารเด็กมากสุด 16 ครั้งเฉียด 90 ล้าน ฮือฮา!ปตท.ทุ่มก้อนโตปี 53
          ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง เป็นขุมทรัพย์ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นเจ้าของมาอย่างยาวนาน เมื่อพบว่าตั้งแต่ ปี 2550 เป็นต้นมาถึงปี 31 สิงหาคม 2554 บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้รับว่าจ้างประชาสัมพันธ์ธนาคารออมสินผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้และ เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ถึง 16 ครั้ง (สัญญา) เป็นเงิน 88,989,024 บาท จากที่ได้รับว่าจ้างจากหน่วยงานรัฐทั้งสิ้น 3 แห่งรวม 19 ครั้ง 105,663,844 บาท
          สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่าการทำสัญญาล่าสุดในเดือนสิงหาคม คือวันที่ 31 ส.ค. 2554 ว่าจ้างประชาสัมพันธ์ในรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์และเรื่องเล่าเช้านี้ ออกอากาศทาง ตั้งแต่เดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2554 ระยะเวลา 3 เดือน เป็นเงิน 4,908,090 บาท (ดูตาราง)
          หน่วยงานอื่นอีก 2 แห่งที่มิใช้ธนาคารออมสิน ได้แก่
          บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จ้างโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทางโทรทัศน์ วงเงิน 11,725,000.00 บาท เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2553 และกรมส่งเสริมการส่งออกจ้างดำเนินการประชาสัมพันธ์ โครงการ Thailand ExportHighlights วงเงิน 1,020,780 บาท ( 2 ก.ย. 2548) ,จ้างดำเนินการประชาสัมพันธ์งานแสดงสินค้าในประเทศ ผ่านสื่อโทรทัศน์ทางรายการ เรื่องเล่าเช้านี้วงเงิน 5,970,600 บาท (19 ต.ค. 48)
          บริษัท ไร่ส้ม จำกัด บริษัท ไร่ส้ม จำกัด จดทะเบียนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547 ทุน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 264 ซอยลาดพร้าว 130 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ณ วันที่ 30 เมษายน 2554 นายสรยุทธ ถือหุ้น 100% แจ้งข้อมูลต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีกำไรสุทธิต่อเนื่องทุกปี ปี 2553 รายได้ 389,835,726 บาท กำไรสุทธิ 136,976,611 บาท สินทรัพย์ 190,488,689 บาท (ตาราง)
          บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 9 ตุลาคม 2546 ทุน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่เดียวกัน ณ วันที่ 30 เมษายน 2554 นายสรยุทธถือหุ้น 80% นางสาวสุกัญญา สุทัศนะจินดา นางสาวสุภาวดี สุทัศนะจินดา คนละ 10% ปีกำไรสุทธิต่อเนื่องทุกปีเช่นกัน ปี 2553 รายได้ 65,696,914 บาท กำไรสุทธิ 24,604,786 บาท สินทรัพย์ 38,219,004 บาท 

ขอขอบคุณ สำนักข่าวอิศรา

"วัชระ" แพร่โปรสเตอร์ Let it be ด่าทักษิณ


นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำโปสเตอร์ ที่ถูกระงับให้แสดงในระหว่างประชุมสภา มาแสดงต่อผู้สื่อข่าวในห้องแถลงข่าว โดยภาพในโปสเตอร์ มีภาพชาย หน้าคล้ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้ช้อนตักพานรัฐธรรมนูญ ซึ่งด้านหน้าเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดย นายวัชระ กล่าวว่า ตนได้พิมพ์โปสเตอร์ดังกล่าว จำนวน 1 แสนแผ่น เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วประเทศ และพร้อมที่จะรับผิดชอบ

โดยได้พิมพ์ชื่อของตนไว้ในตอนท้ายสุดของแผนโปสเตอร์ โดยระบุว่ากล้ารับผิดชอบ พร้อมทั้งลงชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ของตน เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะตนรู้สึกรับไม่ได้กับพฤติกรรมของชายคนดังกล่าว ที่ร้องเพลง Let it be อยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดยมีการกล่าวถึงคนที่ขัดขวางการปรองดองและผู้ที่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งถือเป็นการด่าแม่พรรคฝ่ายค้าน และแม่ส.ว. ที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และหากต้องการให้ประเทศปรองดองจริง จะต้องยกเลิกกองกำลังติดอาวุธ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองทำอะไรผิด ซึ่งตนยอมไม่ได้ที่จะให้ใครทำให้ประเทศต้องล้มสลายสิ้นชาติ

อ่านใจ "นิรโทษกรรม" ต้องอ่านใจนักกฏหมาย "ชูศักดิ์ ศิรินิล"


วาระทางการเมืองของรัฐบาลเพื่อไทยถูกผูกติดกับวาระของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การขับเคลื่อนทุกองคาพยพทั้งในฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติ-ตุลาการ จึงข้ามไม่พ้นคดีของ "พ.ต.ท.ทักษิณ"

โรดแมปเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ บันไดไปสู่ความปรองดอง และช่องทางการนิรโทษกรรม การล้มต้นทางคดี ถอนรากผลไม้พิษ จึงเป็นวาระยุทธศาสตร์ ที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลทั้ง 300 คนต้องทำความเข้าใจเรื่องยุทธวิธี

ทุกช่องทางมี "ชูศักดิ์ ศิรินิล" ผู้เชี่ยวชาญเทคนิคกฏหมาย อรรถาธิบายความ ที่อาจทำให้ทั้งฝ่ายหนุน-แนวต้านได้ "ตาสว่าง"

- ยุทธศาสตร์การเดินเกมในสภาผู้แทนฯจะชิงความได้เปรียบต่อยอดจากการชนะโหวตการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร

การเดินเกมในสภาต้องมีการวางแผนยุทธศาสตร์ มันไม่ใช่ทำเป็นงานรูทีน เราต้องกำหนดว่าแผนนิติบัญญัติที่จะเข้าสภา โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับกฎหมาย ต้องวิเคราะห์ วางตารางว่าร่างกฎหมาย ร่างพระราชบัญญัติ หรือร่างรัฐธรรมนูญที่จะเข้า ควรจะเข้าพิจารณาเมื่อใด มีปัญหาอะไร มีข้อวิพากษ์วิจารณ์อะไรบ้าง ฝ่ายกฎหมาย และวิป ต้องตั้งวงมาพิจารณาร่วมกัน ว่ามีจุดอ่อน ข้อโจมตี ข้อทักท้วงมีอะไร

- เวลานำร่างกฎหมายเข้าไปในสภาจะตรงกับที่วิเคราะห์หรือไม่

ส่วนใหญ่มันก็ตรง แน่นอนเขา (ฝ่ายค้าน) ก็อาจทักท้วงว่าไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ต้องดู timing ที่ถูกต้องว่าควรเป็นเมื่อไหร่ เช่น ปัญหารัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาก็มีร่างประชาชน ร่างเพื่อไทย ร่างชาติไทยพัฒนา ท้ายที่สุดก็มีร่างคณะรัฐมนตรี แล้วเราก็ยึดเอาร่างคณะรัฐมนตรีเป็นหลัก โดยถือว่าเป็นร่างที่สมบูรณ์ที่สุด

ขณะเดียวกันเรื่อง timing ต้องวิเคราะห์ไปถึงเรื่องงบประมาณ เช่น รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำภายใน 1 ปี ภายในเดือนสิงหาคมก็ต้องเสนอรัฐธรรมนูญให้เสร็จก่อน แต่ระหว่างที่เสนอต้องดูว่ามีเรื่องอะไรที่เข้าสภาอีก เช่น งบประมาณ ต้องพิจารณากันหลายวัน ดังนั้นยุทธศาสตร์ก็ต้องพิจารณางบประมาณก่อน ให้ภารกิจของรัฐบาลที่เกี่ยวกับงบประมาณได้ออกมา

ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างกระแสความชอบธรรม โดยสื่อ โดยการสัมภาษณ์ เช่น สร้างความคิดเห็นเรื่องปรองดอง เมื่อ

งบประมาณผ่าน ก็จะมีรัฐธรรมนูญตามมา แล้วคั่นด้วยเรื่องปรองดอง เราจึงคิดว่าพูดเรื่องปรองดองกันไปเสียให้เสร็จก่อน แม้จะมีข้อทักท้วง แต่กระแสปรองดองมันเกิด เห็นว่าไม่ทำไม่ได้ แล้วจึงมาตบด้วยเรื่องรัฐธรรมนูญ สิ่งนี้คือ timing ในแง่พรรคฝ่ายค้านจะแม่นในเกมการเมือง แม่นในการยกข้อบังคับ แต่ของเราไม่ค่อยแม่น มีจุดด้อยอยู่ แต่ยุทธศาสตร์ตอนนี้จะออกมาในเชิงยอมได้ก็ยอมเขาไป

- เพื่อไทยได้อะไรจากการยอม

อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้การเดินเกมตามประสงค์ของเรา การเสนอกฎหมายแม้จะช้าติดขัด แต่ท้ายที่สุดมันไปได้

- ระหว่างเกมเพื่อไทยอาจเล่นบทยอมแต่บรรทัดสุดท้ายต้องชนะ

ถูกต้อง...อย่างเช่น การแปรญัตติแก้ไขชื่อรัฐธรรมนูญ มันไม่เคยมีการแปรญัตติกวน ๆ แบบนี้ เขาก็รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่การเดินเกมอย่างนี้ในท้ายที่สุดประชาชนเห็นความไม่ชอบธรรม ไม่ถูกต้อง คุณเล่นการเมืองกันมากมายขนาดนี้เลยหรือ ซึ่งคนทำก็จะเสียเอง

- นี่เป็นครั้งแรกหรือไม่ที่ ส.ส.ของพรรคยอมให้ฝ่ายค้านให้มาแตะถึงคุณทักษิณ

ก็เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ของเรา กฎหมายสำเร็จออกมาได้ บังคับได้ ยอมที่จะโดนด่า แต่ขณะเดียวกันต้องคิดในมุมกลับว่า ด่าแบบตลาด ๆ ผมเชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้ แล้วเขาจะเสียเอง

- เกมนี้เพื่อไทยถอย แล้วทำให้ฝ่ายค้านอ่อนไปเอง

ให้เขาทำลายตัวเขาเอง

- ถ้าแก้รัฐธรรมนูญผ่านไปได้ สิ่งที่แข็งกว่ารัฐธรรมนูญก็ไม่ยากเหมือนกัน

เอ่อ... มันก็อาจไม่ยากอะไร แต่สำคัญ เรื่องใหญ่คือเรื่องปรองดอง เรื่องนิรโทษกรรม เรื่องคืนความชอบธรรม เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ ผมว่าใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ

แม้กระทั่งคดีของท่านอดีตนายกฯ เรื่องล้มคดีของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สถาบันพระปกเกล้าก็เสนอหลายทางเลือก เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ยุทธศาสตร์ของพรรค และรัฐบาลต้องไม่ทำอะไรที่เหมือนกับเราใช้เสียงข้างมากลากไป ต้องให้นิ่มนวลที่สุด และให้สังคมรับได้

สมมติว่าเลือกให้ผลของคดี คตส.เป็นศูนย์เลยกับคดีไม่มีผล แต่ให้เริ่มใหม่ตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ยุทธศาสตร์ตรงนี้ต้องคิดให้ดีว่าแบบไหนเป็นธรรมที่สุด แบบที่คนเขารับได้มากที่สุด ผมสดับตรับฟังเสียงมา ถ้าได้เริ่มต้นคดีใหม่ก็พอใจแล้ว เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติ ไม่ใช่ศูนย์ไปเลย เหล่านี้มันเป็นเรื่องที่รีบร้อนผลีผลามไม่ได้

- สถานการณ์ใดที่คิดว่าเหมาะแล้วเริ่มต้นเรื่องคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณได้

ผมคิดว่าหลังรัฐธรรมนูญสำเร็จ อาจจะต้นปีหน้า (2556) เพราะเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ผลจากการแก้ไขก็จะมีบทบัญญัติที่เป็นไปตามหลักนิติธรรม จริงอยู่ว่าไม่มีใครไปเขียนถึงอดีตนายกฯทักษิณโดยตรง แต่หลายเรื่องมันก็ไม่เป็นธรรม

- ตามแผนคือแก้รัฐธรรมนูญ-พ.ร.บ.ปรองดอง-แล้วนิรโทษกรรม จะเรียงกันเป็นสเต็ปแบบนี้

ผมคิดว่ามันเป็นอย่างนั้น ผมคิดว่ารัฐธรรมนูญต้องแก้ให้ได้ เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่มีความถูกต้องชอบธรรม ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม จะตุลาการภิวัตน์ ให้อำนาจศาลจนล้นเหลือ ให้อำนาจองค์กรอิสระมากมายก่ายกอง

ถ้ารัฐธรรมนูญแก้สำเร็จ ขณะเดียวกันกระบวนการปรองดองก็เดินไป ค้นหาความจริงออกมาให้ได้ว่าใครผิดใครถูก ใครฆ่าประชาชน ท้ายที่สุดแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ จุดหนึ่งก็จะเห็นพ้องว่าอะไรควรจะต้องปรองดอง

- เมื่อเปิดเกมปรองดองขึ้นมา ส่งผลให้คดีต่าง ๆ ที่ คตส.ทำมาต้องลบล้างเลยหรือไม่

ต้องสดับตรับฟังแนวทางที่ถูกต้องมันเป็นอย่างไร เอาล่ะ...ถ้าเห็นพ้องกันว่า คตส.มันไม่ถูกหลักนิติธรรม ดังนั้นต้องมีกระบวนการว่า เมื่อมันเป็นไปหลักนิติธรรม จะเริ่มต้นใหม่อย่างไร คุณจะล้มล้างมันอย่างไร ถ้าเป็นคณะนิติราษฎร์ เขาให้ล้มล้างทั้งหมด เหมือนข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าข้อที่ 3 แต่ก็ต้องชั่งใจ

ผมยังเชื่อว่ากฎหมายใด ๆ ที่ออกโดยเสียงข้างมาก ถ้าความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย ความชอบธรรมมันไม่เกิด มีชุมนุมประท้วงคัดค้าน ท้ายที่สุดก็บานปลาย จึงต้องเลือกทางที่พอดีที่สุดต้องฟังความคิดเห็นรอบทิศทาง

- ต้องมีร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแบบสับขาหลอกเหมือนร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่

มันขึ้นอยู่กับสาระว่าเสนอแบบไหน ประชาชนต้องจับประเด็นว่าจะนิรโทษแบบไหน รัฐบาลจะทำโดยเป็นร่างรัฐบาล หรือจะใช้ร่างของ ส.ส.พรรคนั้นพรรคนี้ แต่ผมว่ามันต้องตกผลึกเรื่องสาระและจุดสุดท้ายเสียก่อนว่าจะทำกันระดับไหน เพราะขณะนี้นักกฎหมายยอมรับแล้วว่า คตส.ไม่ถูกต้องชอบธรรม ก็ต้องคิดต่อไปว่าผลคดีที่ตัดสินไปแล้วทำอย่างไร ต้องออกกฎหมายมาล้มล้างผลที่เกิดขึ้นโดย คตส. แต่จะ

ล้มล้างระดับไหน ต้องดูว่าเหตุผล support ในทางกฎหมายกับเหตุผล support ในทางข้อเท็จจริงว่ามันเป็นอย่างไร

- ล้มต้นทาง คตส.เพื่อเข้าสู่กระบวนการปรองดองนับ 1 ใหม่ทั้งหมด

ฝ่ายค้านกับฝ่ายไม่เห็นด้วยก็ตีประเด็น แล้วเอามาเป็นประเด็น เช่น ล้มล้างโทษจำคุก ได้เงินคืน แต่ผลทางการกฎหมายยังมีผลอยู่ เพราะเป็นคำพิพากษาของศาลที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญ เพียงแต่คนที่สอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันนี้คือหลักผลไม้พิษ

- ที่ผ่านมาการอธิบายว่าคุณทักษิณได้รับความเป็นธรรม คนในพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายอธิบายแล้วพลาดเป็นเป้าทุกครั้ง

มันอธิบายยากในเรื่องหลักนิติธรรม แม้นักกฎหมายเองก็ยังเข้าใจแบบงู ๆ ปลา ๆ ก็เยอะ ที่พูดว่าคดีคุณทักษิณทำไมถึงอธิบายยาก เพราะไปเอาผลสุดท้าย ไม่ดูผลกระบวนการพิจารณาทั้งระบบว่ามันถูกไหม

คตส.ถูกตั้งขึ้นมาก็ผิดหลักสากล ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมปกติ เช่น พนักงานสอบสวน อัยการ ศาล มีอยู่ มีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ คมช.ดันตั้ง คตส.ทำหน้าที่ ป.ป.ช. ส่งเรื่องไปอัยการ อัยการไม่ฟ้อง คตส.ฟ้องเองได้ มันยิ่งกว่าตั้งศาล ซึ่งคดีคุณทักษิณอธิบายให้เห็นภาพได้อย่างนี้ว่าโดนเป็นกรณีพิเศษ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมปกติ กรรมการ คตส.เห็นชัดเลย บางคนเดินอยู่กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มันก็เห็นชัดว่าคดีคุณทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม

- พรรคจะกำหนดยุทธศาสตร์ กำหนดคนอธิบายเรื่องกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณใหม่หรือไม่

มันมีการคุยในวงเหมือนกันว่า ประเด็นเหล่านี้ควรมีคนออกมาพูด แต่การพูดก็จะมีหลายระดับ แต่พูดตรงไปตรงมาว่าสมาชิกที่มีอยู่ในระดับที่พูดเรื่องนี้ได้เป็นรูปธรรมเห็นชัดมันไม่ค่อยมี คนที่พูดได้มีน้ำหนัก เช่น คุณจาตุรนต์ (ฉายแสง) คุณพงศ์เทพ (เทพกาญจนา) โดนตัดสิทธิ์หมด อย่างผมก็โดน ติดอยู่ใน 109 คน

- การนิรโทษจะรวมไปถึง 37 กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนด้วยไหม

มันยังไม่ได้ไปถึงขนาดนั้น เดือนธันวาคม 2556 ก็ครบกำหนดแล้ว มันอาจแก้รัฐธรรมนูญได้สำเร็จใกล้เคียงกัน

แต่ประเด็นหลักคือภาพรวมของประเทศ คดีที่เกิดขึ้นทำอย่างไร นปช.ที่โดนจำคุก ไปจนถึงคดีท่านทักษิณ จะเอาอย่างไร เรื่อง 37 คนพลังประชาชน เรื่องเล็ก (หัวเราะ)

- คดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านของ พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มต้นใหม่ได้หรือไม่

ถ้าคิดว่ากระบวนการมันไม่ถูกต้อง ต้นน้ำมันไม่ถูก ก็เริ่มพิจารณาคดีใหม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันต้องออกเป็นกฎหมาย

ซึ่งเราต้องมาชั่งน้ำหนักว่ามันมากน้อย หรือสมควรขนาดไหน สมควรว่าจะทำระดับไหน ยอมรับได้ขนาดไหน เริ่มต้นใหม่หมด หรือว่าบางส่วน หรือที่จบไปแล้วไม่ว่ากัน

- จำเป็นต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรม

นิรโทษกรรม รื้อฟื้นคดีใหม่ทำได้ แต่ทั้งหมดต้องออกเป็นกฎหมาย จะไปถามว่าควรจะเริ่มต้น 4.6 หมื่นล้านใหม่ไหม ก็ต้องชั่งน้ำหนัก เอาล่ะ...เหตุผลทางกฎหมายมันมีอยู่ แต่ความถูกต้องชอบธรรมมันไม่มี ถ้าจะตัดสินใจเรื่องนี้ต้องชั่งน้ำหนักว่าสังคม คนรับได้ขนาดไหน

ซึ่งยังไม่มีข้อยุติเป็นเด็ดขาดว่าต้องทำถึงขนาดไหน ก็ได้แต่หารือในวงยุทธศาสตร์ ผมฟังดูจากการอภิปราย แม้กระทั่งฝ่ายค้าน นิรโทษกรรมคนชุมนุมที่ถูกคดีพอจะรับกันได้ แต่ถ้าถาม 4.6 ล้าน มันยังตอบไม่ได้

- ถ้าดูขั้นตอนยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีทั้งหมด ทุกอย่างเปิดทางให้เพื่อไทยล้มคดีเก่าได้สะดวก อาศัยเพียงความชอบธรรม คือความเห็นของประชาชน

(สวนทันที) การยอมรับของประชาชนว่าควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งมันต้องอาศัยเวลาในการสื่อสารทำความเข้าใจ ในการชี้แจง

- ถ้าแผนจะสะดุด เหตุที่สะดุดคืออะไร

เหตุที่จะทำให้สะดุดได้ ต้องขึ้นอยู่กับว่าทางเลือกที่คิดมันเป็นทางเลือกแบบไหน

- แต่มีข่าวออกมาเป็นระยะว่าเพื่อไทยและรัฐบาลเลือกทางล้างผล คตส.ทั้งหมด

พรรคเพื่อไทยก็สดับตรับฟังถึงข้อโต้แย้ง หรือความคิดเห็นของส่วนต่าง ๆ อยู่

- บางประเด็นก็ฟังเช็กกระแส บางเรื่องก็ยั่วให้แย้ง ฝ่ายเพื่อไทยจะได้หาทางแก้ใช่ไหม

หลักทางการเมืองมันก็มีอยู่เหมือนกัน ที่เสนอสูงสุดไปก่อนแล้วค่อย ๆ ผ่อนลง

- ตามตารางมิถุนายน 2556 จะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะมาเมื่อไหร่ จะต่อเนื่องกันเลยไหม

ขณะนี้เดินเรื่องแผนปรองดอง เมื่อรัฐธรรมนูญออกมา รูปโฉมเป็นอย่างไร หลังจากนั้นมาอาจเสนอกฎหมายได้ในบางระดับ ข้อสำคัญต้องดูรูปโฉมรัฐธรรมนูญด้วย

- ถ้าปีนี้เป็นปีแห่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการนิรโทษกรรม

(หัวเราะ) คือผมเห็นว่าเรื่องใหญ่ที่สุดคือแก้รัฐธรรมนูญให้ได้ก่อน ในท้ายสุดตัวรัฐธรรมนูญจะบ่งบอกอะไรแน่นอน รัฐธรรมนูญไม่สามารถไปเขียนให้นิรโทษใครได้ รัฐธรรมนูญไทยเห็นอยู่อย่างเดียวคือนิรโทษคณะปฏิวัติแค่นั้นเอง

- เรื่องถวายฎีกาให้คุณทักษิณ เพื่อไทยคาดหวังอะไรกับเรื่องนี้

เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่รัฐบาลต้องดูว่ามันระดับไหน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวข้องกับสถาบัน

- ตอนนี้เป็นรัฐบาลแล้วทำไมไม่เรียกร้อง

(สวนทันที) เป็นรัฐบาลยิ่งยากที่จะไปตามเรื่อง โดยเฉพาะตัวคุณยิ่งลักษณ์ กับนายกฯทักษิณ คุณยิ่งลักษณ์ก็ต้องระวังตัว เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาโดนทันทีเลย ว่าช่วยพี่ แม้เมื่อเป็นรัฐบาลจะมาตามเรื่องนี้มันยากกว่าตอนเป็นฝ่ายค้าน มันต้องระมัดระวังดูให้ดี ต้องรอบคอบที่สุด