วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คลิป "อ.วรเจตน์" ชี้จุดโดนชกหน้าคณะนิติฯ


เวลา19.00น.นายวรเจตน์ เปิดแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจอดที่มหาวิทยาลัย ในเวลา 15.40 น. จากนั้นลงจากรถไปพูดคุยกับอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ระหว่างคุยอยู่นั้นอาจารย์อีกคนก็เหลือบไปเห็นคนร้ายมาจากทางด้านหลัง 1 คน พอรู้ตัวอีกทีตนก็ถูกต่อยเข้าที่กกหูด้านขวาหลายครั้งก่อนจะล้มลง และแว่นตากระเด็นตกพื้นไประหว่างนั้นคนร้ายอีกคนก็เข้ามาต่อยซ้ำหลายครั้ง ก่อนที่คนร้ายทั้ง 2 จะขับ จยย. หลบหนีไป

นายวรเจตน์ กล่าวว่าจากการสอบถามพยานเห็นคนร้ายมาเฝ้ารอตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นมาจากที่ตนมีบทบาทของกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งอาจทำให้กลุ่มอื่นไม่พอใจในการทำหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีจดหมายไม่จ่าหน้าซองส่งมาด่าทอตนหลายครั้ง แต่ตนก็ไม่รู้จักคนร้ายมาก่อน เพราะเพียงแต่ทำหน้าที่สอนหนังสือและไปบรรยายตามที่ต่างๆตามปกติและก็กลับบ้าน คนร้ายคาดว่ามาดักรออยู่แล้วส่วนอาการบาดเจ็บนั้ทางแพทย์ระบุว่า ใบหน้าฟกช้ำจมูกเลือดกำเดาไหลและมีเลือดออกนิดหน่อย และยังมีอาการมึนอยู่

“ผมยืนยันว่าจะทำหน้าที่ในรูปแบบของนักวิชาการเพื่อแสดงความคิดเห็นทุกอย่าง ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ใดๆแอบแฝง โดยการก่อเหตุของคนร้ายครั้งนี้ ผมจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงในการทำหน้าที่ของลุ่มนิติราษฎร์ และยืนยันทำหน้าที่ของกลุ่มนิติราษฎร์ต่อเพื่อประโยชน์ของสาธารณชนต่อไป”นายวรเจตน์ระบุ

หลังจากแถลงข่าวเสร็จ อาจารย์วรเจตน์ ได้เดินลงมายังลานจอดรถหน้าคณะนิติศาสตร์ มาชี้จุดเกิดเหตุว่า ถูกชกจุดที่ ๑ และ ล้มลง และคนร้ายเข้ามายังจุดที่สองด้านหลังชกเข้าแก้มขวาแว่นตาแตกหลุด ซึ่งตนก็ไม่ได้เห็นชัดเจนว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะพอโดนชกแล้วแว่นตาแตก หลุดลง ก็จะทำให้ไม่สามารถเห็นได้ในระยะไกล


ด้านพล.ต.ต.วิชัยสังข์ประไพ รองผบช.น. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ได้กำชับเป็นพิเศษในการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ขณะนี้ตำรวจรู้กลุ่มของคนร้ายแล้ว เนื่องจากมีพยานบุคลและภาพกล้องวงจรปิดชัดเจน ซึ่งเคยเข้ามาสังเกตุการณ์ในมหาวิทยาลัย ขณะนี้จัดกำลังตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งที่บ้านและสถานที่ทำงาน ตลอดการเดินทางไปที่ต่างๆทั้งไปและกลับ นอกจากนี้ภายในมหาวิทยาลัยจะใช้กำลังตำรวจนอกเครื่องแบบ 5 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัย เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆนี้

"สลิ่มถ่อย" ชก "อ.วรเจตน์" ในธรรมศาสตร์



วันที่ 29 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลเบื้องต้นว่า มีคนร้ายเป็นชายนิรนาม 2 คน บุกชกทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาชิก “กลุ่มนิติราษฎร์” ที่ลานจอดรถคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แล้วขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป

ล่าสุด พ.ต.ท.เอกรัตน์ เปาอินทร์ รองผกก.ป.สน.ชนะสงคราม เดินทางไปตรวจสอบเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบและดูภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่นายวรเจตน์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลธนบุรี จากนั้นจะไปแจ้งความกับตำรวจต่อไป

เวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายวรเจตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า ถูกทำร้ายร่างกายจริง ขณะยืนคุยอยู่กับอาจารย์ของมหาวิทยาลัยมหิดลอีก 1 คน ที่ลานจอดรถ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จู่ๆ มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ตรงเข้ามาจากด้านหลัง และเข้ามาชกบริเวณใบหน้าตนจนล้มลง และหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ทำให้จำรูปพรรณสัณฐานคนร้ายไม่ได้ แต่คาดว่าอาจารย์อีกคนน่าจะพอจำได้

"ขณะนี้กำลังเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลธนบุรี และได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญไปสอบปากคำที่โรงพักแถวธนบุรี คาดว่าน่าจะเป็น สน.ชนะสงคราม เพราะอยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ" นายวรเจตน์กล่าว

สำหรับนายวรเจตน์ เป็นแกนนำนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ ที่ผ่านมามีบทบาทอย่างสูงในการขับเคลื่อนรณรงค์ให้มีการลบล้างผลพวงจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และเสนอให้แก้ไขกฎหมายอาญาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ด่วน! จำคุก "สนธิ ลิ้มฯ" 85 ปีไม่รอลงอาญา เหตุโกงเอกสารกู้แบงค์พันล้าน

สนธิ  ลิ้มทองกุล

รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก นายสนธิ ลิ้มทองกุล ฐานผิดพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีรับรองเอกสารในฐานะกรรมการบริษัทอันเป็นเท็จเพื่อให้บริษัทที่ตัวเองถือหุ้นอยู่ไปกู้เงินกับธนาคารกรุงไทยฯ จำนวน 1,078 ล้านบาท

โดยศาลลงโทษจำคุกรวม 17 กระทง กระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 85 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 42 ปี 6 เดือน แต่ตามกฎหมายลงโทษสูงสุดได้ไม่เกิน 20 ปี โดยคดีนี้ศาลไม่รอลงอาญา

คุก ม.112 "สุรชัย แซ่ด่าน" 15 ปี สารภาพลดกึ่งหนึ่ง


ศาลอาญา พิพากษาจำคุก นายสุรชัย แซ่ด่าน 7 ปี 6 เดือน ฐานดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์

ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิพากษาจำคุก นายสุรชัย แซ่ด่าน หรือด่านวัฒนานุสรณ์ ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ และเชื้อพระวงศ์ เป็นความผิดตามมาตรา 112 โดยการพูดปราศรัยต่อสาธารณชน เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2553 ที่ชุมชนวัดศรีบุญเรือง จังหวัดอุดรธานี วันที่ 11 กันยายน 2553 ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลดอยสระเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และวันที่ 17 ธันวาคม 2553 ที่ห้างอิมพีเรียล รวมทั้งหมด 3 ครั้ง มีโทษจำคุกสำนวนละ 5 ปี รวมเป็นระยะเวลา 15 ปี แต่จำเลย ยอมรับสารภาพเห็นควรลดโทษลงกึ่งหนึ่ง จึงเหลือโทษจำคุก 7 ปี 6 เดือน

สหรัฐฝึกซ้อมทางทหารร่วมกับเกาหลีใต้

สหรัฐและเกาหลีใต้เริ่มการฝึกซ้อมร่วมทางทหารทั่วเกาหลีใต้ในวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยั่วยุจากเกาหลีเหนือที่อาจเกิดขึ้น

การฝึกซ้อมจะมีไปจนถึงวันที่ 9 มีนาคม โดยมีทหารเกาหลีใต้เข้าร่วม 200,000 นายและทหารสหรัฐเข้าร่วม 2,100 นาย การฝึกซ้อมทางทหารดังกล่าว กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐยังจะจัดการฝึกซ้อมภาคสนามร่วมกันตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน ทั้งนี้สหรัฐและเกาหลีใต้ยังมีแผนจัดการฝึกซ้อมร่วมยกพลขึ้นบกของนาวิกโยธินในพื้นที่ทางใต้ของเกาหลีใต้ โดยจำลองสถานการณ์ว่าเกาหลีเหนือรุกรานเกาะต่าง ๆ ของเกาหลีใต้

ด้านสำนักข่าวกลางเกาหลีของทางการเกาหลีเหนือระบุว่า ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี ทางสำนักข่าวได้ระบุผ่านแถลงการณ์ในเช้าวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยเรียกเกาหลีใต้และสหรัฐว่าผู้กระหายสงคราม และว่าสองชาตินี้จะพบความย่อยยับจากการตัดสินความปรารถนาของชาวเกาหลีที่จะป้องกันสันติภาพอย่างผิด ๆ

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ตลกแสบ! แต่งชุดเผด็จการร่วม "ออสการ์"






เมื่อ 25 ก.พ. นิวยอร์กเดลี่นิวส์รายงานว่า คณะกรรมการจัดงานประกาศผลรางวัลออสการ์ กลับคำตัดสินที่ตอนแรกสั่งริบบัตรเข้าร่วมงานของซาชา บารอน โคเฮน ดาราตลกตัวแสบชาวอังกฤษวัย 40 ปี หากยังดึงดันแต่งชุดเผด็จการไปปรากฏตัวบนพรมแดง เพื่อโปรโมตหนังเรื่องใหม่เรื่อง The Dictator โดยคำแถลงครั้งใหม่ระบุชัดเจนว่า ทางออสการ์รู้สึกยินดีที่โคเฮนจะมาร่วมงาน


รายงานระบุว่า คำแถลงของออสการ์ในครั้งนี้น่าจะมาจากกระแสกดดันของโคเฮน ที่จัดทำเป็นคลิปวิดีโอโพสต์ในทวิตเตอร์และยูทูบ โดยโคเฮนแต่งตัวในชุด "นายพลอลาดิน" ตัวละครในหนัง ประกาศโจมตีคณะกรรมการว่า "ปกติแล้ว บทบาทพวกเผด็จการขี้ขลาดจะไม่เสนอหน้าออกมาเหมือนกับที่ผมทำในคราวนี้ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ ผมขอประกาศว่า ถ้าออสการ์ไม่ยอมคืนบัตรเข้าร่วมงานให้ผม ผมก็จะไปเอง แล้วเตรียมพบกับสิ่งที่ไม่คาดฝันได้เลย"


และเมื่อทางออสการ์ประกาศคืนบัตรเชิญแล้ว โคเฮนก็โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า "เรามีชัยเหนือพวกแก๊งฮอลลีวู้ด พวกปีศาจซาตานที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้จะถูกขับไล่ไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิก วันนี้ออสการ์ พรุ่งนี้โอบามา!"


สำหรับโคเฮน โด่งดังจากหนังตลกเสียดสีเรื่อง "บรูโน่" และ "โบแรต" มีสิทธิ์เข้าร่วมงานเพราะร่วมแสดงในหนัง "Hugo" ของผู้กำกับฯ มาร์ติน สกอร์เซซี ที่ได้ชิงออสการ์มากที่สุดถึง 11 สาขา รวมถึงหนังยอดเยี่ยม


คลิป "เฉลิมเมารัก"




ภาพอัลตราซาวด์ลูกในท้องมัด "ฮาเวิร์ด หวัง" พาทำแท้งเถื่อนย่านสุขุมวิท



วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.ดส.บช.น.) เมื่อเวลา 14.30 . น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ อายุ 29 ปี หรือ น้องหมวย สาวแม็กซิม อยู่บ้านเลขที่ 225/8 ถ.แก้วพิจิตร ต.หน้าเมือง อ.หน้าเมือง จ.ปราจีนบุรี อดีต มิสแซ็มชิม ปี 2010 แฟน นาย ฮาเวิร์ด หวัง นาย แบบชื่อดัง ได้เดินทางเข้าพบ. พ.ต.อ. สุพัชร พึ่งพวง ผกก.สด.บชน. และ พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ สว.สส.กก.สด เพื่อขอเข้าให้ปากคำ กรณี ไปทำแท้ง ตามที่ปรากฏเป็นข่าว

โดย น.ส. พิลาวรรณ ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อประมาณ วันที่ 5 ธ.ค.54 หลังจากที่ทราบว่า มีท้อง 2 อาทิตย์ ก็ได้ โทรหานาย ฮาเวิร์ด หวัง ว่าตนเองท้อง โดยนาย ฮาเวิร์ด หวังบอก ให้มาคุย ที่บ้านย่านห้วยขวาง เมื่อมาถึงที่บ้าน ก็พบกับนาย ฮาเวิร์ด หวังและแม่ของ นายฮาเวิร์ด หวัง จากนั้นก็ได้นั่งคุยกัน ซึ่งแม่ของ นายฮาเวิร์ด หวัง ได้ถามเรื่องการท้อง ตนก็ตอบว่า ท้องได้ ประมาณ 2อาทิตย์ แล้ว ซึ่งทางแม่ ได้พูดว่า ไม่อยากให้เด็กเกิดมา เพราะถ้าเกิดมาจะทำให้ไม่มีพ่อ เพราะก่อนหน้านี้ ก็เห็นมีปัญหากัน ทำให้ตนเองต้องไปแจ้งความ ที่สน.ห้วยขวาง ที่โดนทำร้ายร่างกาย และได้เลิกติดต่อกันและต่อมานาย ฮาเวิร์ด หวัง บอกว่าจะไปบวช ซึ่งตน ก็อโหสิกรรมให้

“หลังจากนั้น นาย ฮาเวิร์ด หวัง ก็กลับเข้ามาหาตนเองอีกครั้ง และบอกว่าจะเลิกเจ้าชู้ พร้อมกับไปสาบานกับ พระพิฆเนศ ที่แยกห้วยขวาง แต่เค้าก็ไม่เลิกเที่ยว และไม่เลิกเจ้าชู้ ระหว่างนั้น ตนก็เริ่ม มีท้องใหญ่และเริ่มทำงานไม่ ได้ จนต้องอยู่บ้าน และเงินก็เริ่มไม่มี และต่อมา ประมาณ วันที่ 5 .ม.ค.55 นาย ฮาเวิร์ด หวัง ได้โทรมาหา พร้อมทั้งถามว่าเป็นอย่างไงบ้าง ซึ่งหนูเองก็บอกว่าท้องเริ่ม โตขึ้น และเริ่มมีอาการ คลื่นไส้ แพ้ท้อง อย่างแรง และถามว่า อยากที่จะเอาเด็กออก มั้ย เพราะ พวกเพื่อนๆ เค้า รู้จักคลินิก ทำแท้ง จนกระทั่งเช้า ได้ตั้งสินใจ ขับรถกันไปที่คลินิกแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท เพื่อไปทำแท้ง ระหว่างที่ นั่งรถนาย ฮาเวิร์ด หวัง ก็ได้โทรศัพท์ไปคุยกับแม่นาย ฮาเวอร์ และ ได้ถามแม่ ว่า จะเอาเด็กออกจริงๆหรือ ซึ่ง แม่บอกว่า แม่ไม่อยากเอาไว้ ซึ่งนาย ฮาเวิร์ด หวัง กับแม่ ก้อมีปากเสียงกัน ทางโทรศัพท์ ตลอดเวลา”น.ส. พิลาวรรณ กล่าว

น้องหมวย สาวแม็กซิม กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึง ที่ คลินิกประมาณ 17.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่พยาบาล มารับและพาไปตรวจ ครรด์ และพาเข้าห้อง ขึ้น เตียง ถ่างข้างและใช้อุปกรณ์ ดึงเด็กออกมา โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีและออกมาพัก ทางด้านนอกอีก10 นาที จากนั้น ก็จ่ายเงินให้ 2,800 บาทและรับยา ส่วนเอกสารรูปอัลตร้าซาวด์ ทั้งหมด นาย ฮาเวิร์ด หวัง เป็นคนเก็บไว้ ซึ่งตอนนั้นตนเองมีความเครียดมาก โดนแรงกดดันหลายอย่าง กระทั่งลงมือทำในสิ่งที่ไม่ควร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำรูป ของ นาย ฮาเวิร์ด หวัง พร้อมทั้งให้ น.ส.พิลาวรรณ ทำการชี้รูปถ่ายยืนยัน ว่า นาย ฮาเวิร์ด หวัง เป็นบุคคล ที่พาไปทำแท้ง ที่ ย่านสุขุมวิทจริง พร้อมกับภาพอัลตราซาวด์ ที่มีท้องจริง ที่มีการไปตรวจที่ รพ.เปาโล อีกด้วย

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คลิป "ทักษิณโฟนอิน" โบนันซ่าเขาใหญ่

เสื้อแดงร่วมแสนทะลัก "เขาใหญ่"



เมื่อ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงเย็นที่โบนันซ่า เขาใหญ่ กลุ่มคนเสื้อแดงมากกว่า 5 หมื่นคน ทยอยเดินทางมาเข้ามาร่วมชุมนุมเต็มพื้นที่ลานคอนเสิร์ตโบนันซ่า ส่งผลให้การจราจรภายในและภายนอกติดขัดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงถนนธนะรัชต์ ขณะที่เวทีปราศรัยของนปช.เริ่มคึกคักภายหลังเปิดตัวแกนนำและแนวร่วมนปช.จากภาคต่างๆ พร้อมการแสดงของแต่ละจังหวัด เรียกเสียงเชียร์จากคนเสื้อแดงดังกึกก้องไปทั่วหุบเขา


ส่วนแกนนำนปช. ทั้งส.ส.และข้าราชการการเมืองกว่า 40 คนมาร่วมงานพร้อมหน้า อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รวมถึงแกนนำเสื้อแดง ได้แก่ นายอารี ไกรนรา รองประธาน นปช. นายขวัญชัย ไพรพนา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายวีระ มุสิกพงศ์ ฯลฯ นอกจากนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เดินทางมาร่วมงานด้วย


ส่วนบรรยากาศรอบการชุมนุม กลุ่มคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) เดินทางมาตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยมีคนเสื้อแดงนำหลักฐานมาร่วมลงชื่อกันเป็นจำนวนมาก


เวลา 17.50 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ว่า การชุมนุมครั้งนี้คือการหยุดรัฐประหาร เปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญ การประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้มีผู้สนับสนุนมากกว่าแต่ก็ยังมีเสียงที่ไม่เห็นด้วย ระหว่างทางยังมีขวากหนามอยู่ เป็นภาระของพวกเราผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้บรรลุผล อีกทั้งต้องการแสดงสัญลักษณ์ว่าถ้ามีอำนาจหรือกลไกนอกระบอบประชาธิปไตยมาโค่นล้มรัฐบาลนี้ คนเสื้อแดงพร้อมต่อสู้เพื่อปกป้องรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และระบอบประชาธิปไตย แม้กระทั่งแกนนำที่เคยมีข่าวความขัดแย้งก็มาร่วมงานเกือบทั้งหมด ทุกคนรู้ว่าในพื้นที่อาจมีความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ถ้ามีการนัดหมายใหญ่ทุกคนต้องวางเรื่องส่วนตัวไว้ทั้งหมด สำหรับคนเสื้อแดงเรื่องของประเทศชาติย่อมใหญ่กว่าเรื่องส่วนตัว ไม่มีใครไม่มาและพิสูจน์ให้เห็นแล้วในวันนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.00 น. แกนนำนปช.ขึ้นบนเวที นำคนเสื้อแดงหลายหมื่นคนเคารพธงชาติพร้อมกัน จากนั้นนายจตุพรแนะนำนางธิดาต่อมวลชนในฐานะประธาน นปช. ตัวจริง ไม่มีคำว่ารักษาการต่อท้ายแล้ว ทั้งนี้แกนนำ นปช. ทั้งหมดจะเริ่มขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกันอีกครั้งในเวลา 19.30 น. จากนั้นเวลา 21.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วิดีโอลิงก์เข้ามาทักทาย การจัดงานครั้งนี้มีถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 26 ก.พ. แต่ถ้าพอใจอาจจะอยู่ต่ออีกวันก็ได้


วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"ลุงคิม-ฐานุทัศน์" สิ้นใจอย่างสงบ สวดวัดหัวลำโพง



วันที่ 24 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐานุทัศน์ อัศวสิริมั่นคง อายุ 53 ปี อาชีพพ่อค้าขายส่งถั่วทอด พักอาศัยอยู่ภายในแฟลตชุมชนบ่อนไก่ และถูกยิงเข้าบริเวณกลางหลังทะลุปอดและหัวไหล่ รวม 2 นัด จนกลายเป็นอัมพาตครึ่งตัวในช่วงเหตุปราบม็อบเสื้อแดงนั้นเสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 23.10 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลมเหสักข์ เขตบางรัก หลังจากรักษาตัวมายาวนาน โดยเฉพาะในระยะหลังนายฐานุทัศน์ต้องผ่าตัดรักษาอาการกระดูกต้นคอเสื่อม ซึ่งเป็นผลข้างเคียงมาจากการถูกยิงจนอาการแย่ลงและเสียชีวิตในที่สุด

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า นายฐานุทิศน์ หรือ ลุงคิม ถูกยิงเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 14 พ.ค. 2553 ซึ่งขณะนั้นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และศอฉ. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกปราบปรามผู้ชุนมุนประท้วงการเมือง (กลุ่มคนเสื้อแดง) หลายพื้นที่ ทั้งยังส่งสไนเปอร์ออกปฏิบัติการด้วย อย่างไรก็ตาม นายฐานุทิศน์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง และเคยให้สัมภาษณ์ยืนยันเมื่อเดือนมิ.ย. 2553 ว่า วันที่ 14 พ.ค. 2553 ตนพร้อมด้วยนางวรานิชฐ์ และลูกชายลูกสาวรวม 4 คนเดินออกจากบ้านพักที่แฟลตชุมชมบ่อนไก่ เพื่อไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาพระราม 4

นายฐานุทิศน์ กล่าวต่อไปว่า พอเดินทางถึงปากซอย พบว่าขณะนั้นมีกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมอยู่เป็นจํานวนมาก แต่ยังไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงอะไร รถเมล์ยังวิ่งผ่านปกติ จากนั้นอีก 1 ชั่วโมง ทหารเริ่มขว้างแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ตนเห็นท่าไม่ปลอดภัยจึงสั่งให้ภรรยาและลูกทั้ง 2 คนเข้าไปหลบอยู่ในร้านสะดวกซื้อ ส่วนตนก็เดินตามไปด้วยแต่ช้ากว่า เมื่อภรรยาและลูกเข้าไปในร้านแล้ว ตนเหลืออีกไม่กี่เมตรก็จะถึงร้าน ปรากฏว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นชุดใหญ่ ตนรู้สึกปวดที่กลางหลังแล้วล้มลงหน้ากระแทกพื้นจนฟันหักหลายซี่ จากนั้นเริ่มชาทั้งตัว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ยังรู้สึกตัว ก่อนมีชาวบ้าน 3-4 คนวิ่งเข้ามาลากออกจากจุดเกิดเหตุ และนําขึ้นรถส่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท และอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 14-23 พ.ค. ก่อนจะย้ายมารักษาต่อที่ร.พ.มเหสักข์

คลิปที่เผยเห็นตอนคุณลุงในเสื้อสีเขียว โดนยิง หิ้วแขนออกไปขึ้นรถพยาบาล

นายฐานุทัศน์ ระบุว่า พอถึงโรงพยาบาลปรากฏว่าตนถูกยิง 2 นัดเข้าที่กลางหลังและหัวไหล่ หมอผ่าตัดเอาหัวกระสุนที่กลางหลังออกไปแล้ว ยังคงเหลืออีก 1 หัวที่หัวไหล่ ไม่สามารถผ่าตัดออกได้เพราะอยู่ใกล้จุดสําคัญ ปัจจุบันตั้งแต่ช่วงเอวลงไปไม่มีความรู้สึก ขับถ่ายเองไม่ได้ และทุกๆ 2 ชั่วโมง ต้องพลิกตัวเนื่องจากขณะนี้เริ่มเป็นแผลกดทับบริเวณด้านหลัง นอกจากนี้ ตนได้สอบถามแพทย์ที่รักษาว่าจะกลับมาเดินได้หรือไม่ หมอบอกว่าเหลือเพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะกลับมาเดินได้ปกติ ทําให้ตนเสียใจมาก และขณะนี้เริ่มประสบปัญหารายได้ภายในครอบครัว เนื่องจากตอนนี้ตนไม่สามารถหาเงินได้ ก่อนหน้านี้ตนสามารถหาเงินได้วันละไม่ต่ำกว่า 700-800 บาท จากการส่งถั่วทอดตามร้านค้าต่างๆ ย่านสีลม และเยาวราช แต่ตอนนี้ต้องขาดรายได้ และร้านค้าประจําที่ส่งถั่วให้เขาก็เริ่มมีปัญหาเพราะตนขาดส่ง

ด้าน นางวรานิชฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่สามีถูกยิงสาหัส ครอบครัวเดือดร้อนหนักไม่มีรายได้เข้ามา เพราะตนไม่ได้ทํางานอะไร สามีทําถั่วทอดขายส่งตามร้านค้าต่างๆ ย่านสีลม เยาว ราช สนามหลวง และคลองเตย ทํามาไม่ต่ำกว่า 20 ปี ตอนนี้ต้องหยุดกิจการทั้งหมด และตนก็ไม่สามารถที่จะไปหางานที่ไหนทําได้เพราะจะต้องมาคอยดูแลสามี เพราะทุกๆ 2 ชั่วโมงต้องจับสามีพลิก ส่วนสาเหตุที่ถูกยิงนั้นเพราะสามีกำลังจะพาตนและลูกไปเดินห้างโลตัส ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมเลย อยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ไม่เกี่ยวข้องกับ การชุมนุมบ้าง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนอยากได้คือเตียงคนไข้ที่สามารถปรับเอนนอนได้ เพื่อให้สามีไว้ใช้หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว

"เหตุการณ์ครั้งนี้ตน เจ็บปวดที่สุด คือคำพูดที่ศอฉ.บอกว่าผู้ที่ถูกยิงเป็นพวกก่อการร้ายหรือถูกกองกำลังไม่ทราบ ฝ่ายยิง แถมยังมาปิดหูปิดตาประชาชนคุมสถานีโทรทัศน์วิทยุหลายแห่งเพื่อไม่ให้ประชาชน รับรู้ข่าวสารเรื่องจริง ตรงนี้อยากให้รัฐบาล (หมายเหตุ : รัฐบาลอภิสิทธิ์) หันมาดูแลประชาชนที่ไม่รู้เรื่องด้วย เพราะที่ผ่านมาคนที่รัฐบาลส่งมาดูแลก็แค่มาถ่ายภาพวิดีโอ และสอบถามอาการเล็กน้อย จากนั้นก็พูดให้เรามีความหวังว่าจะช่วยเต็มที่ แต่ก็เงียบหายไปจนถึงทุกวันนี้" นางวรานิชฐ์ กล่าว

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"ฮาร์เวิร์ด หวัง" สารภาพพาหมวยทำแท้ง!



หมวย พิลาวรรณ อดีตสาวแม็กซิมปี 2010 แฟนเก่าของหนุ่ม ฮาเวิร์ด หวัง ที่เมื่อเดือนก่อนได้ออกมาเปิดใจว่าไปทำแท้งมา โดยอ้างว่า ฮาเวิร์ด เป็นคนบังคับให้ไปทำ

แต่ล่าสุดเจอตัวหนุ่ม ฮาเวิร์ด หวัง ที่งานประกาศผลรางวัล ยูทูเพลย์ อวอร์ดส เมื่อคืนวานนี้ หลังเก็บตัวเงียบมาแรมเดือน หนุ่มแบดบอยก็ได้ออกมายอมรับสารภาพหมดเปลือก ว่า เป็นเรื่องจริง!!

"เรื่องนี้ตอนแรกที่เราได้ตกลงกัน ฝ่ายหญิง (หมวย) อยากจะเก็บลูกเอาไว้นะครับ เขาสั่งเลยว่าไม่ต้องยุ่ง เดี๋ยวเขาจะจัดการเลี้ยงเอง แต่มาตอนหลังก็ได้ตกลงกันใหม่ว่า จะไปทำแท้งกัน ซึ่งเป็นการยินยอมของทั้งผมและเขา ผมจึงได้พาเขาไปทำแท้งครับ"

ส่วนกรณีที่ฝ่ายหญิงบอกว่า 'ถูกบังคับให้ไปทำ' หนุ่มฮาร์เวิร์ด บอกว่า "เรื่องจะไปบังคับหรือขู่ใครให้ทำอะไร ผมก็คงทำไม่ได้นะครับ พอพาเขาไปทำ หลังจากนั้นเราก็แยกทางกัน ต่างคนต่างทำงาน ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเองครับ"

"ตัดสินใจแบบนี้ก็คงจะดีกว่า เพราะอนาคตของผมเองก็ยังไม่มั่นคงครับ คงจะดีมากกว่าสำหรับอนาคตของเด็กเอง ตอนนี้ผมทำมาหมดแล้วครับ ก็ไม่มีอะไรจะให้เสียหายอีกแล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันการออกมายอมรับหรือไม่ยอม มันจะส่งผลกับผลงานของผมให้อนาคตหรือเปล่า แต่จะให้มาโกหกปิดบังคนอื่นหรือสื่อ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องหรอกครับ"

นอกจากนี้ หนุ่มฮาเวิร์ด ยังได้ประกาศว่า จะขอลาบวชและจำวัดอยู่ประมาณ 1-2 เดือน เพื่ออุทิศให้กับลูกที่ได้ไปทำแท้งมา หวังว่าจะอโหสิกรรมให้แก่กันได้

ขอชี้แจงกรณี การเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕


















นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เขียนคำชี้แจงในเฟรซบุ๊ค ของ Yingluck Shinawatra วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ เวลา ๑๕.๒๗ นาที โดยมีใจความดังนี้

จากที่มีการโจมตีกล่าวหาดิฉันกรณีการเดินทางไปพบกลุ่มบุคคล ณ โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ เมื่อวันพุธที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ นั้น ดิฉันขอโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

๑. ประเด็นต่อข้อกล่าวหาเรื่อง “หนีการประชุมสภา ไม่รับผิดชอบต่องานสภา”

ดิฉันขอเรียนชี้แจงว่า ดิฉันทราบดีและภูมิใจเสมอที่พี่น้องประชาชนได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ดิฉันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ด้วยอีกสถานะหนึ่งประชาชนก็ได้ให้ความไว้วางใจภายใต้ระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาให้ดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ดังนั้นในแง่ของการทำงานดิฉันถือเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารราชการแผ่นดิน ที่ต้องทำหน้าที่บริหารให้ได้รับประโยชน์สูงสุดตามหลักการของการบริหารราชการที่ดี การใดที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินเป็นเรื่องที่ต้องกระทำ แต่ใช่ว่าจะไม่เคารพสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นประกอบด้วยตัวแทนประชาชนเช่นเดียวกับดิฉัน
สำหรับข้อกล่าวหาต่อดิฉันว่าหนีการประชุมสภาฯและไม่รับผิดชอบต่องานสภาฯนั้น ไม่เป็นความจริง ดิฉันขอชี้แจงว่าการประชุมสภาฯ เมื่อวันพุธที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ทราบว่าในวันดังกล่าวมีวาระรับทราบในเรื่องต่างๆ แต่ไม่มีประเด็นที่นายกรัฐมนตรีต้องเข้าประชุมเพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และในวันดังกล่าว เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มีการนัดหมายไว้ก่อนหน้าแล้ว ดิฉันก็ได้เดินทางมาที่อาคารรัฐสภา เพื่อร่วมรับฟังและสอบถามเกี่ยวกับประเด็นที่มีการอภิปรายอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งยังได้ลงชื่อในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในเวลาประมาณ ๑๖.๑๖ น. ด้วย

๒. ประเด็นต่อข้อกล่าวหาเรื่อง “ไม่มาตอบกระทู้ของ ส.ส.รังสิมา รอดรัศมี”

กระทู้ถามของ ส.ส.รังสิมา รอดรัศมี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เป็น การตั้งกระทู้ถามสดซึ่งในวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๑๑.๐๐ น. ดิฉันอยู่ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ต่อเนื่องจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย และการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวมีความต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ดังที่สื่อมวลชนได้ติดตามรายงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ดี เมื่อทราบว่ามีผู้ตั้งกระทู้ถามสดเกี่ยวกับตัวดิฉันในฐานะนายกรัฐมนตรี ดิฉันได้มอบหมายให้ พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตอบกระทู้ถามสดแทนตัวดิฉัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ตามข้อบังคับของสภาฯ

๓. ประเด็นต่อข้อกล่าวหาเรื่อง “การเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เป็นเรื่องส่วนตัว กระทำผิดจริยธรรม และมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน”

ดิฉันขอเรียนว่าในวันดังกล่าวดิฉันได้ไปพบกับกลุ่มนักธุรกิจภาคเอกชนจำนวนหลายคนที่ชั้น ๗ ซึ่งเป็น Executive Club ของโรงแรมดังกล่าว เป็นสถานที่เปิดเผย และเป็นการเดินทางไปเพื่อการรับฟังสภาพปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและสถานการณ์บ้านเมือง ทั้งเป็นการรับฟังข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยในการเดินทางไปครั้งนี้มีผู้พบเห็นเหตุการณ์จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงแรม พนักงานบริการ หรือหน่วยรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตามด้วยผู้ที่มาพบหารือไม่ต้องการที่จะปรากฏเป็นข่าว กำหนดการนี้จึงไม่มีการแจ้งสื่อมวลชนแต่ประการใด

ในวันนั้น ไม่มีการพูดจาเรื่องธุรกิจส่วนตัว ไม่มีการพูดถึงการเวนคืนที่ดินเพื่อเป็นที่รับน้ำหรือเป็นพื้นที่น้ำผ่าน ที่เรียกว่า ฟลัดเวย์ (Flood Way) พื้นที่แก้มลิงและอ่างเก็บน้ำ การชะลอการประเมินราคาที่ดิน หรือเรื่องอื่นเรื่องใดที่จะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ใดโดยเฉพาะตามที่มีการกล่าวหา

ดิฉันใคร่ขอชี้แจงด้วยว่า ที่ดิฉันไม่ได้โต้ตอบข้อกล่าวหาที่ไร้สาระนี้แต่ต้น เพราะดิฉันเห็นว่าเป็นเกมการเมืองซึ่งดิฉันไม่ถนัด ดิฉันอาสาประชาชนมาเพื่อทำงาน และดิฉันเป็นนักบริหารที่เชื่อว่าผลงานจะเป็นบทพิสูจน์ความจริงใจ ทั้งนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่า ดิฉันจะไม่ทำการใดๆอันเป็นการหาผลประโยชน์ส่วนตน เอื้อประโยชน์ใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทุกอย่างที่ดิฉันทำก็เพื่อความผาสุกที่ยั่งยืนของพี่น้องประชาชนทุกคน

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

ระทึกหน้าสภาฯ "เสื้อแดง-หมอตุลย์" ประจันหน้าญัตติ "แก้-ไม่แก้" ม.291





















ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมร่วมรัฐสภา วันนี้(23ก.พ.) ในเวลา 09.00 น. เพื่อพิจารณา ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับของรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และชาติไทยพัฒนา โดยเสนอแก้ไข ม.291 เพื่อเปิดช่องตั้งเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งวิปรัฐบาล และวิปวุฒิสภา มีมติให้สมาชิกรัฐสภาใช้เวลาอภิปราย 2 วัน หรือ 25 ชั่วโมงครึ่ง

สำหรับการรักษาความปลอดภัยหลังมีข่าวกล่มกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มคนเสื้อหลากสี ต่างประกาศจะนำมวลชนมาสนับสนุน และคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ที่หน้ารัฐสภา พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รักษาราชการแทน ผบก.น. 1 ได้จัดกำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ดูแลความสงบเรียบร้อยจำนวน 2 กองร้อย ประมาณ 300 นาย โดยจะมีทั้ง ตำรวจปราบจลาจล และตำรวจควบคุมฝูงชน ส่วนมวลชนที่จะมาชุมนุมนั้น จะจัดสถานที่ให้ห่างกันพอสมควร เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน โดยกลุ่มคนเสื้อแดงจะจัดให้อยู่ด้านประตู 1 บริเวณสวนสัตว์เขาดิน ส่วนกลุ่มของ น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ จะจัดให้อยู่บริเวณถนนราชวิถี ซึ่งทางการข่าวคาดว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงและการชุมนุมของทั้งสองกลุ่มจะไม่ยืดเยื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้ารัฐสภาขณะนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงได้ทยอยมารวมตัวกันบริเวณฝั่งสวนสัตว์ดุสิต มีการแต่งตัวเพื่อสร้างสีสัน พร้อมกับเปิดเพลงปลุกใจ เพื่อให้การสนับสนุนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวันแรก

ขณะที่ น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี ให้สัมภาษณ์ว่า เช้าวันนี้จะมีการรวมตัวกันที่ถนนราชวิถี ก่อนจะนำรายชื่อกว่า 4 หมื่นรายชื่อ ยื่นต่อรองประธานสภาฯ ในเวลา 10.00 น.


วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

มติครม.ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอาเซียน


นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบข้อตกลงในการเข้าถือหุ้นในกองทุน เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน หรือ AIF ตามข้อเสนอของทางกระทรวงการคลัง เพื่อร่วมทุนถือหุ้นในกองทุนดังกล่าว จำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการถือหุ้นเข้าในกองทุนนี้ โดยเรื่องดังกล่าวนั้น ไม่ต้องมีการเสนอต่อรัฐสภา เพื่อพิจารณาเนื่องจากไม่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยตรงมากนัก ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าว จะมีการช่วยส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานประเทศเพื่อนบ้านและส่งเสริมการออมของอาเซียนในภูมิภาคนี้ด้วย

ศาลรัฐธรรมนูญ "ไฟเขียว" 2 พ.ร.ก.กู้เงินไม่ขัด รธน.

วันที่ 22 ก.พ. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยพระราชกำหนด 2 ฉบับคือ 1. พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 (พ.ร.ก.กู้เงิน 350,000 ล้านบาท) และ 2. พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินพ.ศ.2555(พ.ร.ก.โอนหนี้1.14ล้านล้านบาท) ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคหนึ่ง และ วรรคสองหรือไม่ ตามการยื่นคำร้องขอวินิจฉัยของฝ่ายค้านและวุฒิสภา ซึ่งคำวินิจฉัยของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมด หรือ มีเสียงตุลาการไม่น้อยกว่า 6 เสียงจากองค์คณะตุลาการ รวมถึงประธานศาลฯ

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดประเด็นการวินิจฉัย พ.ร.ก. 2 ฉบับ เพียง 2 ประเด็น คือ 1.การตรา พ.ร.ก.เพื่อประโยชน์ในความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะหรือไม่ และ 2.การตรา พ.ร.ก.มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้หรือไม่

ล่าสุด องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรม ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยกรณีการออกพระราชกำหนดการเงิน 2 ฉบับ ล่าสุด นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้อ่านคำวินิจฉ้ย การให้อำนาจกระทรวงการคลัง ออกพ.ร.ก.กู้เงิน 350,000 ล้านบาท ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีได้สร้างความเสียหายให้ประเทศประชาชนจำนวน และยังมีการส่งความช่วยเหลือให้กับประชาชนและภาคเอกชนไปบางส่วน นอกจากนั้น ยังติดขัดเรื่องเวลาที่กระทรวงจะเสนองบประมาณเข้าสู่ที่ประชุมสภาซึ่งจะไม่ทันกาล ดังนั้น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ ถึงการออกพระราชกำหนดดังกล่าวไม่ขัดรัฐธรรม

ส่วนการพ.ร.กโอนหนี้ 1.14 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลนั้น นายจรูญ อินทจาร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้อ่านคำวินิจฉัย เห็นว่า รัฐบาลมีความพยายามที่จะบริหารจัดการเงินซึ่งเงินภาษีของประชาชน เพื่อชำระเงินต้นของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ขณะที่การออกพระราชบัญญัติงบประมาณเพื่อชำระหนี้เงินกู้ของกองทุนทำให้รัฐบาลเสียงบประมาณในการพัฒนาประเทศเป็นจำนวนมากแล้วและหนี้จากกองทุนฟื้นฟูเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นจากสถาบันการเงินที่อยู่ในการดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่แล้วจึงเห็นว่า พรก.ฉบับนี้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญมติเสียงส่วนใหญ่ 7 ต่อ 2 การออกพระราชกำหนดครั้งนี้ จะชำระหนี้เสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 25-26 ปี และยังช่วยทำให้รัฐบาลนำงบประมาณที่ไม่ต้องตั้งเป็นงบชำระดอกเบี้ยกองทุนฟื้นฟูฯปีละ 6หมื่นล้านบาท นำกลับมาพัฒนาประเทศได้

ตุลาการศาลรธน.ถึงศาลแล้ว-สื่อเกาะติดแน่น


บรรยากาศล่าสุดที่ ศาลรัฐธรรมนูญในขณะนี้ ก่อนที่ ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย พระราชกำหนดกู้เงิน เพื่อวางระบบการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ ปี 2555 และพระราชกำหนดปรับปรุงการบริหารเงินกู้ เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ปี 2555 ขณะนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อประชุมจัดทำความเห็นส่วนตัวแล้ว และหลังจากนั้น ในเวลา 14.00 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะออกนั่งบัลลังก์ เพื่ออ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยในขณะนี้ได้มีสื่อมวลชนมาติดตามความเคลื่อนไหวของศาลรัฐธรรมนูญอย่างใกล้ชิด

ตะลึง! คลิปวิญญาณเสื้อแดงโผล่ "หัวมุม รร.สตรีวิทย์"

เมื่อช่วงดึกวันที่ ๒๒ ที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่คลิปที่ยูทรูป โดยผู้ใช้ชื่อว่า webbit72 ซึ่งผู้ถ่ายได้ระบุรายละเอียดการบันทึกเทปดังกล่าวไว้ดังนี้

"คลิปนี้ถ่ายได้ขณะถ่ายทำรายการ Social Talk เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2555 ที่ผ่านมา ทางรายการได้จัดสัมนาประชาชนเล็กๆขึ้น ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทางทีมงาน Social Talk ได้ทำการเช็คเทปกล้องอินเสิร์ท เพื่อจะนำภาพไปตัดต่อใช้ในรายการ ได้พบภาพเหตุการณ์ประหลาด เนื่องจากได้พบเงาลึกลับในเทปรายการ เงาลึกลับนั้นมีลักษณะเป็นชายกำลังจะเดินข้ามถนนและล้มลงบนพื้นถนนและหายไป บริเวณนั้นเป็นถนนฝั่งตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งขณะถ่ายทำนั้น เป็นเวลา ประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ วิญญาณนั้นคืออะไร แล้วทำไมต้องปรากฎ ณ บริเวณนั้น ซึ่งเป็นจุดปะทะของผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย เงาลึกลับนั้นเป็นอะไร และต้องการสื่ออะไร ถึงปรากฎเงา ณ บริเวณนั้น"



เมื่อตรวจสอบเทปดังกล่าว พบว่า ขณะที่ผู้บันทึกภาพ กำลังบันทึกภาพจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หันกล้องส่องไปทางหัวมุมโรงเรียนสตรีวิทยา ฝั่งร้านอาหาร ปรากฏพบเงาลางๆ เหมือนบุคคลๆ กำลังวิ่งและล้มลง และเงานั้น ก็หายไป เมื่อทดลองย้อนเทป ภาพนั้นก็ปรากฏชัดว่า เงารูปคน "หันหัว" ไปทางสตรีวิทย์ และเมื่อลองย้อนดูเหตุการ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๓ ในวันสลายการชุมนุม ก็พบคลิปดังกล่าวข้างล่างนี้



โดยคลิปดังกล่าวแสดงให้เหนถึงชายผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังวิ่งหันรีหันขวาง "หัวมุมถนน" จุดเดียวกันกับทืี่เกิดภาพเงาสีดำในคลิปแรก และชายคนนั้นโดนยิงล้มลงโดยหันศีรษะไปฝั่งสตรีวิทย์ เช่นเดียวกัน สร้างความตกตะลึงให้ผู้ได้พบเห็นภาพเงาดังกล่าวนี้และพูดคุยอย่างกว้างขวางว่า อาจจะเป็นวิณญาณคนเสื้อแดงที่ยังไม่ไปเกิด เพื่อรอทวงความยุติธรรมจากฆาตกรสั่งฆ่าก่อน ก็อาจเป็นไปได้


"เฉลิม" ย้ำ "หาก พท.โดนยุบจะตั้ง "พรรคทักษิณ-ปูนายกฯ"


ช่วงค่ำวันนี้(21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บ้านพักพล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กลางเมืองอุดรธานี ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารค่ำ ก่อนการประชุมครม.สัญจรในวันที่ 22 ก.พ. นี้ที่จ.อุดรธานีว่า งานดังกล่าวเป็นไปด้วยความคึกคักมีผู้ร่วมงานกว่าพันคน แบ่งเป็น 2 โซนคือนายกฯและครม.นั่งรับประทานอาหารภายในบ้านพัก ส่วนส.ส. ประชาชนและผู้สนับสนุนเสื้อแดงรับประทานอาหารบริเวณด้านนอกบ้าน

นอกจากนี้บริเวณงานมีการจัดเวทีการแสดง และซุ้มอาหารจำนวนมาก ในส่วนของโซนนายกฯและครม. มีเมนูเด็ดอาทิ ปลาร้าทอดทรงเครื่อง หมูผัดพริกแข็ง ไข่พะโล้ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ลอดช่องใบเตย ส่วนด้านนอก มีเมนู อาทิ ไก่ย่าง หมูหัน

ทั้งนี้นายพายัพ ชินวัตร ประธานส.ส.ภาคอีสาน พี่ชายนายกฯ ได้ร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย เมื่อพบน้องสาว ทั้งคู่ต่างสวมกอดและทักทายกันด้วยภาษาคำเมืองก่อนรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน

นอกจากนี้นายกฯ ยังร่วมเป่าเทียนตัดเค้กวันเกิดให้นายพายัพที่ครบรอบวันเกิด 55 ปี เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ก่อนจะร่วมขึ้นเวทีร้องเพลง” ดาวกระดาษ” เพิ่มสีสันในงานอย่างสนุกสนาน โดยนายพายัพขึ้นไปมอบดอกไม้ให้กำลังใจอย่างอบอุ่น จากนั้นบรรดารัฐมนตรีต่างสลับกันขึ้นเวทีโชว์ลูกคอ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โชว์เพลง “นึกเสียว่าสงสาร” ก่อนร้องได้กล่าวอย่างอารมณ์ดีกว่า เพลงนี้มอบให้พรรคประชาธิปัตย์ สร้างเสียงหัวเราะโห่ร้องให้ผู้ร่วมงานอย่างกึกก้อง

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวบนเวทีอีกว่า คนอีสานรักทักษิณ อย่าไปสนใจพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าจบแล้ว จากนั้นร้องเพลง “เหลือเวลาอีกนานเท่าไหร่” และกล่าวกับผู้มาร่วมงานเป็นการปิดท้ายด้วยว่า หากในอนาคตพรรคเพื่อไทยถูกยุบอีกจะตั้งชื่อพรรคว่า”พรรคทักษิณ” มีนายกฯชื่อยิ่งลักษณ์ พร้อมร้องเพลง”ทำบุญร่วมชาติ”ของชาย เมืองสิงห์ เป็นเพลงที่ 3 ได้รับการปรบมืออีกครั้งอย่างเกรียวกราว ขณะที่นายกฯรัฐมนตรีเดินทางกลับโรงแรมที่พักในเวลา 21.35 น.

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สิ้นประทีป! หลวงปู่จันทา ถาวโร ละสังขารเช้าวันนี้



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่จันทา ถาวโร เจ้าอาวาสวัดป่าเขาน้อย ต.วังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา ที่กุฎิหลวงปู่เอง ด้วยโรคชรา โดยประวัติโดยหลวงปู่ จันทา ถาวโร เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2465 มีชื่อจริงว่า จันทา ชัยนิด เกิดที่หมู่บ้านแดง ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เป็นบุตรของนายสังข์ ไชยนิตย์ และนางเลี่ยม ชมพูวิเศษ มีพี่น้องรวมกัน 6 คน โดยหลวงปู่จันทา เป็นบุตรคนที่ 4 ปัจจุบัน มีอายุ 90 ปี 11 วัน

สำหรับหลวงปู่จันทา เป็นพระเกจิชื่อดังของ จ.พิจิตร ซึ่งเป็นพระปฎิธรรมสายธรรมยุตนิกาย ฉันภัตราหารในบาตรเพียงมื้อเดียว คือ มือเช้า โดยหลวงปู่จันทา เป็นพระที่ยึดถือปฎิบัติธรรมที่ประชาชนศรัทธา และถือว่าเป็นพระที่บริสุทธิ์ ประพฤติดี ปฎิบัติชอบ ในสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ขาว อานาลโย วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู โดยหลังจากดูแลหลวงปู่ขาวจนมรณภาพ เมื่อปี 2526 จึงได้เดินทางมาปฎิบัติธรรมที่วัดป่าเขาน้อย พร้อมสร้างทำนุบำรุงปฎิสังขรณ์ ของทางวัดมากมาย เช่น เจดีย์พิพิธภัณฑ์ และพระเจดีย์ปฐมเหตุพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างยังไม้แล้วเสร็จ

ล่าสุดลูกศิษย์ลูกหาประชาชน จำนวนมากที่ทราบข่าว ได้เดินทางมากราบร่างหลวงปู่ที่มรณภาพจำนวนมาก โดยทางวัดจะมีพิธีบรรจุสรีระสังขาร ของหลวงปู่ในเวลา 16.00 น และจะรักษาสรีระสังขารไว้จนกว่าจะมีกำหนดการอีกครั้ง