เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นางสมพร อยู่แก้ว อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/7 ถนนบุษบา อ.เมือง จ.พิจิตร แม่ค้าขายโจ๊กที่สี่แยกถนนบึงสีไฟ ร้องทุกข์ผู้สื่อข่าวว่า ลูกคนที่ 2 เรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนดังแห่งหนึ่งในจังหวัด ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในโครงการเรียนฟรี 15 ปี ของรัฐบาล แต่ปรากฏว่าลูกไปโรงเรียนวันแรกกลับมาตอนเย็นบอกว่าครูสั่งมาว่าในวันอังคารที่ 24 พฤษภาคม ให้ผู้ปกครองนำเงิน 1,500 บาทไปจ่ายเป็นค่าครูสอนภาษาต่างประเทศ 1,000 บาท ค่าบำรุงห้องคอมพิวเตอร์ 500 บาท ซึ่งนักเรียนทั้งโรงเรียนมีประมาณ 2,400 คน ถ้าเก็บเช่นนี้โรงเรียนก็จะได้เงินจำนวนมหาศาลถึง 3.6 ล้านบาท สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครอง จึงขอร้องเรียนถึงพฤติกรรมดังกล่าว ขอให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบถึงความถูกต้องด้วยว่าโครงการเรียนฟรีแท้จริงแล้วมีจริงหรือเปล่า โดยเฉพาะที่ จ.พิจิตร ที่กำลังถูกผู้บริหารสถานศึกษาสูบเลือดสูบเนื้ออยู่ในขณะนี้
นางสมพรกล่าวอีกว่า หวังโครงการเรียนฟรีจะช่วยลูกคนเล็กที่เรียนระดับมัธยม แต่ไม่ทราบเหตุผลใดผู้บริหารโรงเรียนมักอ้างชมรมผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่า มาเรียกเก็บเงินทุกปี ทั้งๆ ที่รัฐบาลจากส่วนกลางก็อุดหนุนงบประมาณมาให้แล้ว คอมพิวเตอร์ก็มีอยู่แล้ว แต่ก็ยังจะเรียกเก็บอีก ตอนนี้กำลังเลือดเข้าตาและคิดว่าอาจจะต้องเข้าบ่วงเวรกรรมคือหันไปกู้เงินรายวันจากแก๊งหมวกกันน็อคดอกเบี้ยโหด ก็คงต้องยอม ทั้งหมดนี้เหตุเป็นเพราะโรงเรียนบีบคั้นผู้ปกครองและโครงการเรียนฟรีของรัฐบาลช่วยชาวบ้านได้ไม่จริง เป็นโครงการโกหกชาวบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น