วันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่รายการ "ตอบโจทย์ประเทศไทย" หัวข้อ "สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ" ซึ่งในวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายถูกงดออกอากาศว่า ขอแสดงความเสียใจและขอนับถือนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา (ผู้ดำเนินรายการ) ด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวส่วนหนึ่งเกิดจากความกดดันของกลุ่มผู้ที่มาแสดงความเห็นที่หน้าไทยพีบีเอส ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องเล็ก
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า สาเหตุที่แท้จริงในการงดออกอากาศนั้นน่าจะมาจากผู้บริหารเอง เพราะในช่วงบ่ายของวันที่ 15 มี.ค.ยังอนุญาตให้ออกอากาศได้แต่ในช่วงก่อนการออกอากาศ ไม่กี่นาทีก็มีบรรณาธิการจำนวนหนึ่งมาขอให้ยกเลิกการออกอากาศ ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังกับนายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการไทยพีบีเอส เพราะเชื่อว่าเนื้อหาในรายการไม่มีปัญหาในทางกฎหมาย และหากไทยพีบีเอสเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพนักงาน ก็สามารถนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแล ซึ่งน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้
นายสมศักดิ์ยังกล่าวว่า การที่บรรณาธิการทั้งหลายที่มาขอให้งดการออกอากาศเป็นเรื่องที่ตลกและเศร้ามาก เพราะเป็นสื่อมวลชนก็น่าจะยอมรับการแสดงความเห็นที่แตกต่างได้ และการที่นายภิญโญในฐานะที่เป็นสื่อมวลชนที่เชิญตนมาออกรายการนั้นถือเป็นเรื่อปกติมาก ดังนั้นต้นเหตุน่าจะอยู่ที่ฝ่ายบริหารที่ไม่เข้าใจถึงจิตวิญญาณของสื่อมวลชนในสมัยใหม่ ทั้งนี้ตนไม่เชื่อว่าจะมีคนอื่นมีส่วนร่วมในการสั่งระงับการออกอากาศครั้งนี้
ที่มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตนทราบว่าการระงับรายการตอบโจทย์เกิดจากคนในไทยพีบีเอสเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้า โดยเฉพาะคนระดับบรรณาธิการในไทยพีบีเอส ที่ไม่เข้าใจแนวคิดของการสื่อสารสมัยใหม่ และการที่นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บก.การเมืองและความมั่นคง ของสถานีไทยพีบีเอสโพสต์ว่า ทำไมคุณภิญโญต้องให้ราคาตนมากเกินไป รวมถึงกรณีน.ส.ณัฏฐา โกมลวาทิน และน.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ แสดงความต้องการให้ถอดรายการดังกล่าว ตนอยากถามกลับไปว่า คนที่มีราคา หรือไม่มีราคานั้น วัดกันที่ตรงไหน
ด้านนายสุลักษณ์ ศิวลักษณ์ หรือ ส.ศิวลักษณ์ ปัญญาชนสยาม ซึ่งออกรายการร่วมกับนายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกเสียใจ และเสียดาย เพราะการดีเบตระหว่างตนและนายสมศักดิ์นั้น ไม่มีการเซ็นเซอร์ออกเลย โดยเฉพาะตอนที่ถูกระงับ เป็นการพูดขมวดถึงทางออกของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งตนคิดว่าตอนดังกล่าวเป็นเกียรติกับไทยพีบีเอส อย่างไรก็ตาม ต้องเคารพการตัดสินของไทยพีบีเอส แต่ก็ต้องขอฝากถึงนายสมชัยว่าควรมีความกล้าหาญทางจริยธรรมให้มากกว่าที่เป็นอยู่
นายสุลักษณ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ถ้ามีเสียงกระซิบมาสั่งยกเลิกรายการดังกล่าวจริง ก็ถือเป็นความล้มเหลวของระบบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก และหากมีจริง ก็อยากให้ยกเลิกระบบดังกล่าวได้แล้ว ส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า การระงับเกิดจากคนในไทยพีบีเอสเองนั้น ส่วนตัวไม่ทราบว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่ถือว่าการระงับการออกอากาศตอนดังกล่าวเป็นเรื่องที่ฉุกเฉิน
"ถ้าผู้บริหารมีจิตสำนึกน่าจะเชิญนายภิญโญมาพูดดีๆหาทางออกหวังว่าไทยพีบีเอส จะยอมรับความผิดพลาดและแก้ตัว ซึ่งผมพร้อมให้อภัย"นายสุลักษณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากรายการถูกถอดได้คุยกับนายภิญโญ หรือไม่ นายสุลักษณ์ กล่าวว่าได้คุยกับเลขาฯ ซึ่งบอกว่าจะเดินทางมาร่วมงานในวันนี้ ตนก็จะมาคุยกัน แต่เขาก็เปลี่ยนใจ ตนเข้าใจ เขาคงเสียใจ และไม่พร้อมที่จะพูดคุย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น