วันที่ 19 มีนาคม 2556 (go6TVX ร.ท.หญิงสุณิสา
เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติครม.ว่า
ครม.อนุมัติงบประมาณวงเงิน 77,967,200 บาท
ให้คณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ
หรือปคอป. จัดเวทีสานเสวนาเพื่อความปรองดอง โดยในสัปดาห์หน้านายจารุพงศ์
เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานปคอป. จะเชิญคณาจารย์และวิทยากรจำนวน 20คน
จากมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
มาประชุมด้วยเพื่อกำหนดแนวทางในการเดินหน้าเพื่อโครงการสร้างความปรองดอง
ซึ่งจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน2เดือนครึ่งนับจากนี้
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ
กล่าวอีกว่า
ทางนักวิชาการและวิทยากรได้มีการเสนอเปลี่ยนชื่อจากเวทีเสวนาหาทางออกประเทศไทย
โดยเสนอให้เปลี่ยนเพราะชื่อเดิมกลัวว่าประชาชนจะไม่เข้าใจความหมาย
จึงเสนอให้เปลี่ยนชื่อเป็น “การพูดจาหาทางออกประเทศไทย”
ทั้งนี้รูปแบบเวทีจะมีการจัดเวทีเสวนาทั่วประเทศ 180 จุด
โดยยึดเขตเลือตั้งเป็นหลัก 375 เขตเลือกตั้ง หรือหนึ่งจังหวัดจะทำเวทีหนึ่งเวที และไม่เกินสี่เขตเลือกตั้ง
สมมติว่าจังหวัดไหนมีส.ส.4คนก็จัดได้หนึ่งเวที มีส.ส.8คนก็ทำได้สองเวที
โดยตั้งเป้าว่าจะมีประชาชนมาร่วม 800-1,000คน/เวที
ส่วนการเก็บข้อมูลนั้นจะใช้วิทยากร 400-500 คนเป็นวิทยากรกระบวนการ
ที่จะอธิบายแนวคิดการปรองดอง โดยตั้งเป้าว่าจะทำให้ได้ 75,000 ตัวอย่าง
"จะนำมีการทำ
Textbook ที่มีคู่มือมีเนื้อหา3เรื่อง คือ
1.แนวทางในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์
2.ต้องการทราบแนวคิดของประชาชนในเรื่องการนิรโทษกรรม
3.ต้องการทราบเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จะดำเนินการแบบบางมาตราหรือทั้งฉบับ
ซึ่งเนื้อหาก็จะนำเอาแนวคิดข้อเสนอปรองดองที่ปรากฏก่อนหน้านี้ของ4กลุ่ม คือปคอป.
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน นายคณิต ณ นคร และสถาบันพระปกเกล้า
มาจัดทำเรียบเรียงเป็นประเด็นไปเสนอเป็น Textbook โดยไม่จำเป็นต้องยึดเป็นโมเดลของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
จากนั้นจะนำตัวอย่างที่ได้75,000ตัวอย่าง ออกมาทำเป็นรูปแบบงานวิจัย
แบบมีวิธีระเบียบวิจัยแบบวิทยาศาสตร์ว่าประชาชนเห็นด้วยแบบไหนแล้วจะนำมาเสนอครม.อีกครั้ง"ร.ท.หญิงสุณิสา
กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น