วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

"สมเด็จฯเกี่ยว" เปิด "ธรรมเจดีย์" เคียงคู่ "บรมบรรพต"


สมเด็จพระพุฒาจารย์ เปิดธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธโบราณ 2 พันปี เนื่องในวันอาสาฬหบูชา

วันนี้( 15 ก.ค.) ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานประกอบพิธีประดิษฐานพระธรรมเจดีย์ พระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาโบราณ อายุประมาณ 2,000 ปี อย่างถาวรบริเวณศาสนาจารุนิธิ์ เชิงบันไดทางขึ้นพระบรมบรรพต(ภูเขาทอง) โดยในเวลา 20.00 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ สมโภชคัมภีร์โบราณ พร้อมเจริญจิตภาวนาถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณพระอุโบสถ ทั้งนี้ทางวัดจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าชมและสักการะพระคัมภีร์โบราณได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานจะได้รับหนังสือหน้าหน้าประวัติศาสตร์ ณบรมบรรพต ภูเขาทอง

พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กล่าวว่า สำหรับพระธรรมเจดีย์ พระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาโบราณ ทาง รัฐบาลนอร์เวย์ได้ถวายพระคัมภีร์บางส่วนประดิษฐานในประเทศไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งถือว่า เป็นประเทศเดียวในโลกที่ได้รับพระคัมภีร์จากรัฐบาลนอร์เวย์ ซึ่งการประดิษฐานภายในศาลาดังกล่าวจะมีการจำลองหุบเขาบาบิยัน พร้อมโอ่งบรรจุพระคัมภีร์โบราณเป็นแบบโปร่งใส และมีแว่นขยายส่องเพื่อให้เห็น อักษรพราหมีโบราณ ที่จารึกโดยพระอรหันต์ได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันในศาลาจะมีประวัติความเป็นมาของพระคัมภีร์และความเจริญรุ่งเรื่องทางพระพุทธศาสนาในอัฟกานิสถาน
“พระธรรมเจดีย์นี้มีการขุดค้นพบในถ้ำเทือกเขาบาบิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน บนเส้นทางสายไหม ซึ่งสมัยพุทธกาลเรียกว่า แคว้นคันธาระ อันเป็นแคว้นต้นกำเนิดพระพุทธรูปยุคแรกของโลก โดยพระคัมภีร์ดังกล่าวได้รับการยืนยันว่า เป็นผลงานจารึกของเหล่าพระอรหันต์สาวกในราวพุทธศตวรรษที่ 6 หรือประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว ได้ทำการจารึกบนใบลาน เปลือกไม้ หนังสัตว์ และแผ่นทองเหลือง ด้วยอักษร “พราหมีโบราณ” ซึ่งอักษรที่ใช้ในสมัยพุทธกาล ทั้งนี้สถาบันอนุรักษ์สเคอเยน แห่งราชอาณาจักรนอร์เวย์ ได้พระคัมภีร์ชุดแรกมาจากผู้ค้าของเก่า ซึ่งถูกลักลอบย้ายออกจากหุบเขาบาบิยัน และแตกหักเล็กน้อยไว้ได้ประมาณ 5,000 ชิ้น และชิ้นส่วนเล็กๆอีกประมาณ 8,000 ชิ้น ซึ่งนักโบราณคดี นักภาษาศาสตร์ จากนานาชาติได้ร่วมกันชำระเป็นเวลา 12 ปี จึงทำให้ทราบแน่ชัดว่า พระคัมภีร์โบราณนั้น คือ พระไตรปิฎกนั่นเอง”ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กล่าว.

ไม่มีความคิดเห็น: