จากพฤติกรรมการบิดเบือนข้อเท็จจริงจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายการเมืองจาก
พรรคฝ่ายค้านที่กล่าวหากระทรวง ICT ว่า ใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบในการปิดกั้นเว็บไซต์
ที่แสดงความเห็นทางการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล
มีการกระทำที่ลุแก่อำนาจและไม่เป็นประชาธิปไตย
จากพฤติกรรมการบิดเบือนข้อเท็จจริง
และกล่าวความเท็จดังกล่าว มีการแอบตีกิน แอบอ้างว่าผมให้สัมภาษณ์ว่า
หากมีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและฯพณฯนายกรัฐมนตรี ผมจะสั่งปิดเว็บไซค์
ทำให้พี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวสารเกิดความเข้าใจผิดและบางส่วนเกิดความเกลียดชัง
โดยเข้าใจว่า กระทรวง ICT ใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ชอบ
ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
ผมในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแลกระทรวง ICT ขอเรียนชี้แจงพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนที่เคารพดังต่อไปนี้
1. กระทรวง ICT เป็นผู้รักษาการ
พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ปี 2550 ดังนั้น จึงไม่มีอำนาจใดๆ ในการสั่งปิดกั้นเว็บไซต์
อำนาจในการสั่งปิดเว็บไซต์นั้น อยู่ในดุลยพินิจและคำสั่งของศาลอาญาเท่านั้น โดยหลังจากศาลอาญามีคำพิพากษาให้ทำการปิดกั้นเว็บไซต์นั้น
กระทรวง ICT จะเป็นผู้แจ้งคำสั่งศาลดังกล่าวให้กับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตทุกราย
เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งต่อไป ดังนั้น การกล่าวหาว่ากระทรวง ICT ใช้อำนาจในการปิดกั้น
เว็บไซต์และเป็นการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงไม่เป็นความจริง
2. การใช้ช่องทางเว็บไซต์ และ Social network ในการแสดงความเห็นของพี่น้องประชาชนในทุกๆ
เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
เป็นสิทธิเสรีภาพที่พี่น้องประชาชนทุกคนสามารถทำได้ และไม่มีใครหรืออำนาจใด ๆ
มาก้าวล่วงได้ แต่อย่างไรก็ดี การใช้ช่องทางดังกล่าวกระทำผิดกฎหมายใดๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการคุมคาม กล่าวหา ให้ร้ายดูถูกดูแคลน
หรือใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่น และทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย
อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 2550
หรือเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว
หากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องมีการดำเนินการ
ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งจากกรณีนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจว่า
การแสดงออกหรือความเห็นอย่างไรที่ไม่ควรกระทำ
ผู้แสดงความเห็นเพียงคิดถึงสิทธิเสรีภาพของตัวเองหรือ ครอบครัว
ที่ไม่ต้องการให้ผู้ใดล่วงละเมิด เฉพาะประเด็นนั้นๆ ท่าน
ก็ไม่ควรไปล่วงละเมิดบุคคลอื่น ในเรื่องนั้นๆ เช่นเดียวกัน
3. กระทรวงไอซีทีไม่มีสิทธิในการเลือกปฏิบัติหรือกระทำการใดๆ
แบบสองมาตรฐาน การกล่าวหาว่า กระทรวง ICT ที่ให้ความสำคัญเฉพาะกรณีของฯพณฯ
นายกรัฐมนตรี จึงเป็นเรื่องที่บิดเบือนและไม่เป็นความจริง
ตลอดเวลาที่ผ่านมากระทรวง ICT ได้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดและผู้ที่ได้รับความเสียหาย
ทุกคน ทุกกรณีอย่างเท่าเทียมกัน ตามอำนาจหน้าที่ ที่ได้รับตามกฎหมาย
เพราะการดำเนินการใดๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าทำเกินอำนาจหน้าที่ หรือการดำเนินการใดๆ
ที่ละเลยไม่ปฏิบัติ กระทรวง ICT ไม่สามารถดำเนินการได้ทั้ง 2 กรณี
เพราะผู้เสียหายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถดำเนินการตามกฎหมาย กับกระทรวง ICT ได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น การกล่าวหาด้วยคำพูดว่ากระทรวง ICT ละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่
หรือปฏิบัติหน้าที่ นอกเหนือจากอำนาจที่ได้รับจึงไม่เป็นความจริง
4. การดำเนินการกับเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน
เป็นการดำเนินการร่วมกันของทุกภาคส่วน ซึ่งกระทรวง ICT เป็นองค์ประกอบหนึ่งในคณะกรรมการ
ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
ที่ทุกคนที่รับผิดชอบให้ความสำคัญสูงสุด ไม่ว่าจะ เป็นกองทัพไทย กองทัพบก
กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
ผู้รับผิดชอบทุกคนเป็นข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองที่จงรักภักดีและเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ดังนั้น การกล่าวหาว่า ข้าราชการทั้งการเมือง และประจำที่รับผิดชอบเหล่านี้
ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการกับเว็ปหมิ่น จึงไม่เป็น ความจริง และคงไม่มีใครผู้ใดสามารถบงการข้าราชการทุกคน
ไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ ของตัวเองได้อย่างแน่นอน
การชี้แจงทั้ง 4 ประเด็นถือว่า
เป็นข้อเท็จจริงที่กระทรวง ICT ขอเรียนชี้แจง เพื่อสร้าง
ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อพี่น้องประชาชน สื่อมวลชน สำหรับใครก็ตามที่แสดงความเห็น
เพื่อสร้างความเกลียดชังให้แก่กระทรวง ICT ก่อนหน้านี้ ด้วยความไม่รู้
หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กระทรวง ICT ก็ขอเรียนชี้แจงให้ทราบด้วยความเต็มใจในทุกๆกรณี
แต่ใครคนใดคนหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็น
เพื่อสร้างความเกลียดชังด้วยความตั้งใจ หรือมีพฤติกรรม ตีกินทางการเมือง
ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความเข้าใจผิด กระทรวงฯ
ขอประนามการกระทำดังกล่าวและขอเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรมที่สร้างความแตกแยก
และสร้างความเกลียดชังในสังคมเหล่านี้ และควรหันมาช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ
ที่เกิดขึ้นอย่างสร้างสรรค์ต่อไป
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น