นายยุทธพันธุ์
มีชัย ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)
กล่าวถึงความคืบหน้าการเจราจากับ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
แกนนำแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน ที่ชุมนุมที่สนามหลวงเป็นวันที่ 3 ว่า
เมื่อเวลา 20.00 น. วานนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม.
ได้เข้าเจรจาอีกครั้ง
ว่าสนามหลวงเป็นพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้เข้ามาทำกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองได้
หากยังไม่ยอมย้ายออกจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ อีกทั้งในวันที่ 13 พ.ค.นี้ จะมีงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในวันพืชมงคล
ซึ่งจะต้องใช้พื้นที่ฝั่งพระบรมหาราชวังเป็นฝั่งที่ผู้ชุมนุมปักหลักชุมนุมอยู่
ทำให้อาจจะส่งผลกระทบต่อการจัดงานได้
นายยุทธพันธุ์ กล่าวต่อว่า
ทั้งนี้ กทม.ยังเสนอสถานที่ชุมนุมที่สวนสนามชัย เขตพระนคร เพราะความปลอดภัย
และรองรับคนได้จำนวนมากเช่นกันแทน ซึ่งนายไชยวัฒน์
ที่เคยเป็นถึงอดีตรองผู้ว่าฯกทม. ก็เข้าใจในหลักการทุกอย่าง
แต่ก็ยืนยันจะขอใช้พื้นที่สนามหลวงปักหลักชุมนุมต่อไป
โดยอ้างระบอบการปกครองประชาธิปไตย
ซึ่งทางกทม.ก็เข้าใจจะให้เวลาแกนนำไปพูดคุยตกลงกันอีกครั้ง เพราะสิ่งที่
กทม.เสนอไปเชื่อว่า คนที่เคยเป็นถึงรองผู้ว่าฯกทม.น่าจะเข้าใจ และเห็นถึงความจำเป็นด้วย
นายยุทธพันธุ์ กล่าวต่ออีกว่า
ส่วนกรณีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตว่า
กทม.เลือกปฏิบัติให้ความช่วยเหลือผู้ชุมนุมมากไปหรือไม่นั้น ยืนยันกทม.ยินดีให้ความช่วยเหลือคนทุกกลุ่ม
และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่มาชุมนุมทุกกลุ่ม ทุกสี ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
แต่การชุมนุมจะต้องยึดหลักความถูกต้อง และเหมาะสม
หากไม่ถูกจะต้องเริ่มต้นที่การพูดคุย กทม.จึงอยากขอความร่วมมือผู้ชุมนุม
การที่จะหยิบกฎหมายในมือมาบังคับใช้อยากจะให้เป็นมาตรการสุดท้าย
เพราะไม่อยากเป็นการเพิ่มความกดดันท่ามกลางความขัดแย้ง
จนมองว่าเป็นประเด็นทางการเมือง
"กทม.คงจะไม่เข้าไปเจราจาอีก เพราะวานนี้ได้พูดคุยถึงความจำเป็น
และข้อเสนอไปหมดแล้ว หลังจากนี้คงต้องให้เวลาแกนนำไปทบทวนความเหมาะสม โดยที่
กทม.มีกรอบเวลาที่กำหนดอยู่
จึงขอให้เป็นหน้าที่แกนนำผู้ชุมนุมที่ตัดสินใจ"นายยุทธพันธุ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น