วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"ส้มตำ ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ส้มตำพลิกชีวิตจากเป็นหนี้ กลายเป็นเศรษฐีส่งลูกเรียนจบปริญญา!


ฮือฮา "ร้านส้มตำทักษิณ" ตั้งริมฟุตปาธกลางเมืองอุดร ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ยอดขายวันละหมื่น พลิกฟื้นจากขาดทุนมาสร้างกำไร เจ้าของร้านเผยขายมานาน 20 ปี กู้เงินนอกระบบ เสียดอกร้อยละ 20 ต่อเดือน มาทำทุน ช่วงแรกกิจการไม่ดี เป็นหนี้ 2 แสน หลังจากรัฐบาลแม้วตั้งกองทุนหมู่บ้าน จึงไปกู้มาทำทุน พร้อมเปลี่ยนชื่อร้านเป็น "ร้านส้มตำดร.ทักษิณ" ยอดขายกระฉูด มีเงินใช้หนี้นอกระบบหมดเกลี้ยง แถมมีเก็บอีกกว่า 2 แสน ส่งลูก 2 คนเรียนจบปริญญา
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพ่อค้าส้มตำรายหนึ่งปลูกเพิงขายส้มตำตั้งชื่อร้านว่า "ส้มตำ ดร.ทักษิณ ชินวัตร" อยู่บนฟุตปาธ หน้าวัดโพธิวราราม ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ขายดีมาก จากการตรวจสอบ พบว่าร้านดังกล่าวตกแต่งเป็นร้านขายข้าวเหนียว ส้มตำทุกชนิด ขึ้นป้ายร้านตัวโตว่า "ส้มตำ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ตำไทย ตำลาว ตำปู ตำป่า ตำแตง ตำถั่ว ตำมั่ว"

          ในร้านพบสองสามีภรรยา เจ้าของร้าน ชื่อนายวิชัย แท้สูงเนิน อายุ 63 ปี และนางคูณ หรือน้อย ศิริโรจน์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี กำลังขายตำไทย ตำลาว ตำปู ตำแตง ตำถั่ว และตำมั่ว ข้าวเหนียว ไข่ต้ม ไก่ปิ้ง หมูปิ้ง เนื้อแห้งทอด แคบหมู แจ่วบอง และหมูยอแผ่นทอด โดยมีลูกค้ามาอุดหนุนจำนวนมาก

          นายวิชัย เปิดเผยว่า ตนและภรรยาขายส้มตำมาเป็นเวลานาน 20 ปีแล้ว ช่วงเริ่มต้นทำอาชีพนี้ไม่มีเงินทุน จึงกู้เงินนอกระบบ เสียดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน เพื่อเป็นทุนขายส้มตำและส่งลูกเรียนด้วย เป็นหนี้ประมาณ 200,000 บาท ต่อมาปี 2549 พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีขณะนั้นมีกองทุนเงินล้าน หรือกองทุนหมู่บ้านขึ้น จึงกู้เงินจากกองทุนนี้จำนวน 20,000 บาท นำมาเป็นทุนขายส้มตำ โดยส่งเงินแก่กองทุนเดือนละ 1,827 บาท เสียดอกเบี้ยร้อยละ 50 สตางค์ต่อปี ทำให้ฐานะของตนและครอบครัวดีขึ้นมาก มีเงินปลดหนี้นอกระบบได้ และยังมีเงินเก็บ สามารถส่งให้ลูกชายและลูกสาวรวม 2 คนได้ศึกษาจนจบปริญญาตรี ขณะนี้ลูกชายทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งในกทม. ส่วนลูกสาวจบเนติบัณฑิต ทำงานอยู่ที่ศาลจังหวัดลพบุรี

          นายวิชัย กล่าวต่อว่า จากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปี 2550 ตนและภรรยาสามารถปลดหนี้สินได้จนหมด และมีเงินเก็บอีกกว่า 200,000 บาท ตนและภรรยาศรัทธาในตัวพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ โดยเฉพาะที่นโยบายของท่าน ทำให้คนรากหญ้าอย่างพวกตนลืมตาอ้าปากได้จากเงินกองทุนหมู่บ้านนี้ จนหลุดพ้นจากหนี้นอกระบบที่มาขูดรีดพวกตนอย่างมาก ทำให้มีวันนี้ขึ้นมา ดังนั้นจึงตกลงใจเปลี่ยนชื่อร้าน จากเดิมชื่อร้าน "ส้มตำนางน้อย" มาเป็นร้าน "ส้มตำ ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน

          นายวิชัย กล่าวด้วยว่า ที่น่าแปลก คือหลังจากเปลี่ยนชื่อร้านเป็น "ร้าน ดร.ทักษิณ ชินวัตร" แล้ว กิจการรุ่งเรืองขึ้น มีคนมาใช้บริการไม่ขาดสาย โดยเฉพาะตอนเที่ยง มีคนซื้อไปรับประทานที่บ้านจำนวนมาก จากเดิมชื่อร้านส้มตำนางน้อย ขายส้มตำได้วันละ 4,000-5,000 บาท แต่เมื่อเปลี่ยนชื่อเป็นร้าน "ส้มตำ ดร.ทักษิณ ชินวัตร" สามารถขายส้มตำได้ถึงวันละ 9,000-10,000 บาท การที่สามารถลืมตาอ้าปากจนปลดหนี้สินได้ คิดว่ามาจากเงินทุนเงินล้าน หรือเงินทุนหมู่บ้านของพ.ต.ท.ดร.ทักษิณที่ช่วยให้ตนมีวันนี้ได้ สามารถส่งเสียลูกเรียนจนจบปริญญาได้โดยไม่คาดฝัน

ไม่มีความคิดเห็น: