วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) “จิตตนาถ”
จับพิรุธ “กษิต” หลุดปากมัดตัวเอง
จัดฉากตั้งใจให้ “วีระ-ราตรี” ยอมรับว่า
ล้ำแดนจนติดคุกเขมร อนาถบังคับคนกรุงต้องเลือกผู้ว่าฯ กทม.ระหว่างพรรคขายชาติ
จากกรณี นายกษิต ภิรมย์
ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณี นายวีระ
สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์
ถูกเขมรจับติดคุกกว่าสองปีโดยที่รายหลังเพิ่งจะได้รับอิสรภาพเมื่อไม่นานมานี้
โดยอดีต รมว.ต่างประเทศ ได้บอกปัดว่าไม่เคยทอดทิ้ง แต่ทั้งสองคนยืนยันจะสู้คดีเอง
(อ่านรายละเอียดจากข่าว “กษิต” ลั่นไม่เคยทิ้ง “วีระ-ราตรี” ......)
นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือ ASTVผู้จัดการ กล่าวให้ความเห็นว่า
อยากให้อ่านคำพูดที่นายกษิตให้ดี เพราะถือเป็นหลักฐานสำคัญ ว่า
เรื่องทั้งหมดเป็นการจัดฉากของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นรัฐบาลขณะนั้น
โดยตั้งใจที่จะให้นายวีระ และ น.ส.ราตรียอมรับว่า ล้ำแดนเขมรให้ได้ นอกจากนี้
นายกษิตยังบอกราวกับเป็นบุญเป็นคุณว่าได้เป็นธุระช่วยเหลือคนไทยที่โดนจับตัวไปหลายเรื่อง
รวมทั้งเรื่องอาหารการกิน
แต่ที่ทั้งสองคนต้องถูกจำคุกไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์เขมร
เพราะทั้งสองคนปฏิเสธแนวทางที่รัฐบาลพยายามช่วยแต่ยืนยันจะสู้คดีเอง
“งั้นนายกษิตช่วยพูดออกมาชัดๆ
ให้สังคมรู้ได้ไหมว่า ไอ้แนวทางที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปูเอาไว้ให้น่ะคือ
ให้ยอมรับว่าโดนจับในแผ่นดินเขมร
เพื่อจะได้ขอพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์เขมรอย่างที่ให้ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปด้วยกันนำร่องเป็นคนแรกใช่ไหม” นายจิตตนาถ
กล่าว
เขายังบอกอีกว่า นี่คือ
ใบเสร็จที่มัดพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหลักฐานว่าทำไมเราสมควรจะยกย่อง น.ส.ราตรี
เป็นวีรสตรี และนายวีระ เป็นวีรบุรุษ
เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าทั้งสองยืนยันถึงอธิปไตยของไทยเหนือพื้นที่ที่โดนทหารเขมรจับ
แม้จะต้องแลกด้วยอิสรภาพในคุกเขมรกว่าสองปีก็ตาม
ขณะเดียวกัน
พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่เคยแสดงหลักฐานเอกสารแย้งกับเขมร อาทิ โฉนดที่ดิน
รวมถึงบ่อน้ำค่ายอพยพเขมรเก่าที่ภาคประชาชนนำมายืนยัน นายกษิต ในฐานะ รมต.
ต่างประเทศขณะนั้น และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ รวมถึง พล.อ.ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ไม่เคยกล่าวถึง
มีเพียงการแถลงข่าวยืนยันว่าเป็นพื้นที่ที่สองคนไทยถูกจับเป็นของเขมรถ่ายเดียว
“ผมจะด่าภาษาไทยเลยว่าไอ้พวกนี้คือพวกขายชาติ
อ้อแล้วที่อ้างว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ความมั่นคงขณะนั้น
เวลาบินไปเขมรไปคุยกับฮุนเซน เรื่องเขตแดนตามกำหนดการประชุมน่ะ
ตอบหน่อยได้ไหมว่าไอ้หมีควายหน้าดำตัวไหนมันบินไปคุยนอกรอบกับ พล.อ.เตียบัน
ที่โรงแรมเพนนินซูลา ฮ่องกง น่ะ มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
แล้วไปคุยกันเรื่องอะไร? นี่ไงฮุนเซนมันถึงมาแฉว่า
มีความพยายามจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเข้ามาสวมตอผลประโยชน์แหล่งน้ำมันทางทะเลที่
ทักษิณ ชินวัตร ได้ไปตกลงไว้ พอฮุนเซนพูดเรื่องนี้ทีไรนายสุเทพ
ก็จะต้องใบ้กินไปทุกที” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASTVผู้จัดการ กล่าว
เขากล่าวว่า
ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์เดือดร้อนเรื่องนี้มาก พยายามตั้งวอร์รูมแก้ข่าวอย่างเต็มที่
แต่แทนที่จะเป็นผลบวกกลับยิ่งมีแต่ผลลบ
เพราะว่ายิ่งชี้แจงก็ยิ่งเข้าตัวจากกรณีนี้เป็นต้น
เป็นใบเสร็จมัดเลยว่าปูทางให้เขาสารภาพว่าล้ำแดนอย่างเดียว ขณะเดียวกัน
บรรดาแฟนคลับของพรรคจะคอยโพสต์ความเห็นในโลกออนไลน์ซ้ำเติมถากถาง น.ส.ราตรี ว่า
โง่ หาเรื่องเดินให้เขาเข้าไปจับในแผ่นดินเขมร ซึ่งคนเหล่านี้ลืมไปว่า ทั้ง
นายวีระ และ น.ส.ราตรี ได้ไปกับนายพนิช ส.ส.พรรคของตนที่นายอภิสิทธ์ส่งไปด้วย
“ไอ้พรรคการเมืองเฮงซวยพรรคนี้
นักการเมืองเฮงซวยพรรคนี้ และสาวกที่งมงายพรรคนี้ มันบ้าแต่เรื่องเลือกตั้ง
คิดอยู่แต่เรื่องนี้เรื่องเดียว
ถามหน่อยมีแมลงสาบตัวไหนกล้าที่จะยืนหยัดยืนหยัดเพื่ออธิปไตยไทยยอมติดคุกอย่างคุณราตรี-คุณวีระไหม”
นายจิตตนาถ กล่าว
นอกจากจะมาซ้ำเติม
น.ส.ราตรี อย่างน่าไม่อายแล้ว นายจิตตนาถ ยังบอกว่า คนเหล่านี้อะไรๆ ก็มาโจมตีเอเอสทีวี
ว่า รับเงินทักษิณมาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์
แต่ไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาเลยว่าตัวเองเลวอย่างที่เขาประณามหรือเปล่า
ทุกอย่างคนพวกนี้มองว่าเป็นเรื่องเลือกตั้งหมด
ไม่ว่านางสาวราตรีจะได้รับการปล่อยตัวมาเวลาไหน
พรรคประชาธิปัตย์ก็หนีความรับผิดชอบไปไม่พ้น ถ้าจะเอาเรื่องเขตแดนมาโจมตี
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จริง สู้ชูเรื่อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
นี่แหละที่เป็นคนไปลงนามรองรับแผนที่เขมรไม่ใช้แผนที่ไทยในเอ็มโอยู 43 สมัยเป็น
รมว.ต่างประเทศ มาตีข่าวโจมตีให้หนักๆ ไม่ดีกว่าหรือ แล้วนี่มีใครในเอเอสทีวี
หรือนางสาวราตรี เขาชูประเด็นนี้มาโจมตีพรรคแมลงสาบนี่แล้วหรือไม่ ก็ยังไม่มี
“วันนี้สิ่งที่ผมตกใจมาก
คือ สาวกพรรคเพื่อไทย และสาวกพรรคแมลงสาบ มีจุดยืนร่วมกันหนึ่งเรื่องคือ
เรื่องเขตแดนไทย เรื่องที่คุณราตรี และคณะ โดนจับว่าเป็นพื้นที่เขมร
กลายเป็นประชาชนคนรักชาติไปหาเรื่องเขมรเสียแบบนั้น นี่สะท้อนถึงอะไร
สะท้อนถึงว่าสำหรับคนพวกนี้ผิดชอบชั่วดีความเป็นคนไทยไม่มีแล้ว ขอพวกมาก่อน
ขอพรรคกูมาก่อน ชาติอธิปไตยไม่สำคัญเท่าพรรคการเมืองเฮงซวยของพวกมัน
ซึ่งเป็นเรื่องน่าอดสู แบบนี้เขาเรียกพวกคลั่งพรรค
ซึ่งอาการนี้พวกแมลงสาบจะเป็นกันหนักมาก” นายจิตตนาถ
กล่าวและว่า เรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตนไม่สนหรอกว่าใครจะเลือกใคร
ไม่สนด้วยว่าไม่เลือกเราเขามาแน่ ไม่สนใจเรื่องที่มั่นสุดท้ายอะไรบ้าบอด้วย
เพราะไม่ได้ติดอยู่กับกับดักที่ทั้งสองพรรคขีดให้คนไทยว่ามีแค่สองทางเลือกเท่านั้น
และทั้งสองพรรคก็ไม่ได้ส่งใครที่โดดเด่นออกมา จนทำให้คนเทคะแนนให้เหมือนผู้สมัครอิสระหลายๆ
คนที่เคยได้คะแนนคนกรุงเทพฯไปอย่างในสมัยพลตรีจำลอง ศรีเมือง หรือแม้แต่ นายสมัคร
สุนทรเวช สมัยนั้นก็ยังดูมีภาษีกว่าผู้สมัครจากสองพรรคใหญ่ในตอนนี้
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์พอคะแนนนิยมไม่ดี
เนื่องจากไม่ได้ตัดสินใจเอาคนที่สดกว่าที่ตัวเองจะส่งลงตั้งแต่แรกอย่าง นายกรณ์
จาติกวณิช เพราะกลัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะสมัครอิสระมาตัดคะแนนกันเอง
ก็มาพาลโทษว่าคนที่วิจารณ์พรรคตนไปรับเงินทักษิณมาตัดคะแนน
แต่ไม่เคยย้อนกลับไปดูตัวเองว่าหวังแค่ผลเฉพาะหน้า
คิดว่าขายความกลัวทักษิณให้ยังไงคนกรุงเทพฯ ก็เลือก”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น