วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) วันนี้ (19
ก.พ.)ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายกฤษณ์ สุริยผล
ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 20 ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ทวีศักดิ์
ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ประธาน.กกต.กทม.) และ กกต.
กทม. เพื่อให้ตรวจสอบการล็อกหวยและยกเลิกออกสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำงวดที่ 1 มี.ค. 56 นี้
เนื่องจากว่าก่อนที่หวยจะออกหนึ่งวันนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์
ได้พูดชัดเจนบนเวทีปราศรัยบนเวทีหน้าการเคหะแห่งชาติ บางกะปิ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้หวยตัวเต็งเลข 9 ตัวเดียวเท่านั้น
และในที่สุดหวยก็ล็อกออกเลข 9 ตามที่นายณัฐวุฒิปราศรัยไว้ และยังออก 2 ตัวบน 57
ตามอายุผู้สมัคร และ3 ตัวล่างออก 109 ซึ่งก็ตรงกับหมายเลขผู้สมัครพอดี
ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการออกหมายงวดวันที่ 1 มี.ค.
ที่จะถึงนี้ เพราะหวั่นว่าจะล็อกหวยช่วยผู้สมัครบางคนอีก และหากกองสลากฯ
ยังจะออกหวยในวันที่ 1 มี.ค. ก็ขอเสนอให้กองสลากฯ
มาออกที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่สำนักงาน กกต. และให้ผู้สมัครทั้ง 25 คนเป็นกรรมการ
ไม่เช่นนั้นประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการออกหวยครั้งต่อไปจะบริสุทธิ์ยุติธรรม
"นายณัฐวุฒิ
ระบุชัด ยิ่งลักษณ์ให้หวยเลข 9 พรรคเพื่อไทย ชัดเจน
หวั่นกองสลากซึ่งทำหน้าที่พิมพ์บัตรเลือกตั้งจะเล่นตุกติก
ทำให้การเลือกตั้งไม่ยุติธรรม" นายกฤษณ์
ระบุและว่านอกจากเรื่องหวยล็อกแล้วยังได้ร้องขอให้ กกต.กทม. ตรวจสอบนายธาริต
เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการเข้าข่ายความผิด
พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545
โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันอาทิตย์
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครหมายเลข 9
ได้เดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อยื่นเอกสารเกี่ยวกับคดีที่ถูกกล่าวหาว่า
มีส่วนร่วมดำเนินการและอาจจะมีการทุจริตเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศ 396
แห่งที่มีปัญหา และในวันเดียวกันนายธาริต
ได้แถลงเกี่ยวกับคดีหลังจากรับเอกสารไม่นาน
โดยมีใจความว่า พล.ต.อ.พงศพัศ
ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีก่อนสร้างโรงพักฯซึ่งตนเห็นว่าการดำเนินการของพล.ต.อ.พงศพัศนั้น
ยังไม่ได้ถูกออกหมายเรียกมาเป็นพยาน
ดังนั้นการเดินทางมายื่นเอกสารของพล.ต.อ.พงศพัศ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง
นั้นไม่น่าจะนำมาอ้างอิงได้
อีกทั้งตนเห็นว่าการเข้าพบครั้งนั้นเป็นการเข้าพบเพื่อประโยชน์ส่วนตน
และการเดินทางไปกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้นก็น่าจะเป็นการประสานนัดแนะวันเวลาสถานที่กันอย่างปราศจากข้อสงสัย
เพราะได้มีนักข่าวติดตามไปทำข่าวและได้มีการแถลงข่าวในวันนั้นด้วย
ทำให้พล.ต.อ.พงศพัศได้เปรียบผู้สมัครรายอื่นอย่างชัดเจน
ดังนั้นการกระทำของนายธาริต ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐรายนี้จึงเข้าข่ายที่ไม่เป็นกลางอย่างชัดแจ้ง
หากได้อยู่ในฐานะตำแหน่งเดิมต่อไปในการเลือตั้งก็จะทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต
และเที่ยงธรรมได้ และขัดต่อมาตรา 57 และมาตรา 60
ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น อันมีโทษทางอาญาและถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการเลือกตั้ง
ดังนั้นจึงอยากขอให้ กกต.กทม. มีคำสั่งถึงนายธาริต
เพื่อห้ามไม่ให้ดำเนินการในลักษณะนี้อีกต่อไป
และมีหนังสือแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาสั่งให้นายธาริตพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
หรือไปปฏิบัติหน้าที่อื่นจนกว่าจะมีการประกาศผลการเลือกตั้ง
นายกฤษณ์ กล่าวอีกว่า
การเลือกตั้งครั้งนี้ตนอยากให้กกต.ลงมาควบคุมการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด
เพราะขณะนี้กลไกทุกอย่างอยู่ในมือรัฐบาล ประกอบกับคนเสื้อแดงประกาศจะนำมวลชน 20,000 คน
มาคุมการเลือกตั้ง ซึ่งตนเห็นว่าถ้าหากกกต.ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้จะมีการโกงคะแนนกันอย่างมโหฬารแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตนได้นำภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
ภายข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชน และแผ่นวีซีดีบันทึกการแถลงข่าวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
มาให้เป็นเอกสารประกอบการพิจารณาด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น