วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

"ม.รามคำแหง" มอบปริญญากิตติมศักดิ์เชิดชูเกียรติ "ตำรวจกู้ระเบิดชายแดนใต้"


วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) วันที่ 28 ก.พ. ฝ่ายประชาสัมพันธ์  มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงอนุมัติปริญญากิตติมศักดิ์แก่บุคคลที่อุทิศตน และทำคุณประโยชน์แก่สังคมในสาขาต่างๆ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 4-8 มีนาคม 2556

 ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ระบุว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหงจะมีพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 4-8 มีนาคม 2556 ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ประกาศนียบัตรบัณฑิต และปริญญาเอก ทั้งในส่วนกลาง และสาขาวิทยบริการฯส่วนภูมิภาค จำนวน 36,722 คน

 โอกาสนี้ สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติปริญญากิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาต่างๆที่มีความรู้ความสามารถ และได้เสียสละอุทิศตนเพื่อสังคมส่วนรวม รวมทั้งได้สร้างสรรค์ผลงานต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในแวดวงต่างๆเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติและเป็นกำลังใจ รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนและสังคมไทยต่อไป

 ในจำนวนผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงครั้งนี้ หลายท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เช่น  พลโทเดชา เหมกระศรี เลขาธิการสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพลศึกษา ดร.สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ นายสอนไซ สีพันดอน เจ้าแขวงจำปาศักดิ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ และ นายธานิศ เกศวพิทักษ์ รองประธานศาลฎีกา ได้รับปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รับปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เป็นต้น

 นอกจากนี้ สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ยังได้อนุมัติปริญญานิติศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ 5 นายตำรวจชุดปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิดและทำลายระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้เสี่ยงชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ด้วยความเสียสละและอุทิศตนเพื่อความสงบสุขในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ร.ต.ท.พรพิทักษ์ สมศรี ร.ต.ต.สุภาส พรหมมณี ส.ต.อ.จิระวัตน์ บัวจุด ส.ต.อ.เสน่ห์  คงจันทร์ และ ส.ต.อ.ยืนชนม์  มีชู

 ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ จะเข้ารับพระราชทานปริญญาในวันที่ 4 และ 5 มีนาคม 2556 (คาบบ่าย) ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

"ปลัด กทม." อ้างซื่อสัตย์สุจริต ไม่มียัดชื่อผี "อย่ามากล่าวหาลอยๆ"


วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า วันนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการรณรงค์ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อย่างไรก็ตาม ยังเหลือเวลาวันพรุ่งนี้และวันเสาร์ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 3 ก.พ.ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น.ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะต้องเลือกคนมาพัฒนา กทม.ให้เป็นไปอย่างที่ต้องการ
ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษออกมาแถลงว่ามีข้อมูลการสวมบัญชีรายชื่อในพื้นที่ กทม.กว่า 1 แสนรายชื่อนั้น นางนินนาท กล่าวยืนยันว่า ไม่มี 1000% ซึ่งข้าราชการและบุคลากรที่ทำงานนี้ทุกคน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยการเลือกตั้งที่ผ่านมาทุกครั้ง ทุกขั้นตอน ไม่มีการโกงเกิดขึ้น ซึ่งหากใครพบเห็นการสวมสิทธิ์ให้แจ้งได้ที่ กทม.สำนักงานเขต โดยทุกปัญหาจะมีคำอธิบายให้ แม้ล่าสุดจะมีการแถลงว่ามีการสวมสิทธิ์ที่เขตบางแค ตนเองก็ได้ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าไม่มีแต่อย่างใด ดังนั้น อย่ามากล่าวหากันลอยๆ
      
       ส่วนเรื่องการเพิ่ม-ถอนรายชื่อ ก็ไม่มีความกังวล โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนดำเนินการตามหน้าที่และติดประกาศ และแจ้งรายชื่อไปตามบ้าน เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากสำนักงานเขตหลักสี่เท่านั้นที่มีรายชื่อผู้อื่นเพิ่มมาในทะเบียนบ้าน ก็เป็นความผิดพลาดในส่วนของการออกเลขทะเบียนบ้านซ้ำกันซึ่งก็ได้แก้ไขแล้ว ทั้งนี้การจัดทำบัญชีรายชื่อตามทะเบียนบ้านเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างสำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย กับสำนักงานเขตทุกเขตของ กทม.ซึ่งบางส่วนก็อาจจะมีข้อผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปได้
      
       ปลัด กทม.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในส่วนของการนับคะแนน เป็นที่ทราบว่าเป็นการแข่งขันที่สูงบัตรดีเท่ากับคะแนน 1 คะแนน บัตรเสียก็จะไม่ได้คะแนน ฉะนั้น กทม.ได้ซักซ้อมและฝึกอบรมคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่มีกว่า 6 หมื่นคนแล้ว พร้อมย้ำให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดให้ถูกต้อง แม่นยำ ทั้งนี้ได้สั่งการให้ติดแบบโปสเตอร์ตัวอย่างบัตรดี และบัตรเสีย ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ได้พิจารณาเห็นชอบแล้ว และได้นำไปติดที่หน่วยเลือกตั้งดูเป็นตัวอย่างอีกด้วย

"พลเอกเสถียร" เผ่นตั้งหลักที่ "อินเดีย" ปิดเฟสบุ๊คหลบแว๊บ!

(ภาพจากเฟสบุ๊ค เมื่อคราวทำบุญปลายปีก่อน)

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 65 ล้านบาทว่า ตลอดทั้งวันผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ของพล.อ.เสถียร แต่ปรากฏว่านายทหารคนสนิทเป็นผู้รับสายพร้อมกับปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเข้มว่า ไม่ใช่เบอร์ของ พล.อ.เสถียร สงสัยจะโทรเบอร์ผิดก่อนจะรีบวางสายไปทันทีนอกจากนี้การติดต่อสื่อสารทางเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อ “SATIAN PERMTONGIN” ที่ทาง พล.อ.เสถียร มักจะตอบการสนทนาทางมือถืออยู่เสมอได้หายเงียบไปไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆเช่นกัน
 

สำหรับนางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ภรรยาของ พล.อ.เสถียร นั้น ผู้สื่อได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ทั้งสองเบอร์เช่นกัน แต่ปรากฏว่าเบอร์แรกได้ปิดเครื่องไม่มีสัญญาณตอบรับ ขณะที่อีกเบอร์หนึ่งนั้นมีผู้รับสายพร้อมตอบกลับมาว่า  คุณณัฐณิชาช์ ได้เปลี่ยนเบอร์โทรไปแล้ว ไม่ได้ใช้เบอร์นี้


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับ พล.อ.เสถียร โดยได้รับแจ้งจาก พล.อ.เสถียรว่าอยู่ในระหว่างการเดินทางกับคณะผู้ไปแสวงบุญ ที่ประเทศอินเดียอีกหลายวันกว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งระหว่างที่พูดคุยนั้น พล.อ.เสถียร ยังไม่ได้รับแจ้งถึงการอายัดทรัพย์สินของ ป.ป.ช.แต่อย่างใด และยังไม่ได้รับการติดต่อจาก ป.ป.ช.เช่นเดียวกัน  อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันเกิดของ ร.อ.หญิง ณิชาพัฒน์ เพิ่มทองอินทร์ บุตรบุญธรรม ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อเพื่อขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกอายัดทรัพย์แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน

“ภราดร” เผย สมช. ลงนามข้อตกลงพูดคุยสันติภาพ กลุ่ม BRN coordinate แล้ว


วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) - พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผยกับ ไทยรัฐออนไลน์ ถึงกระแสข่าวว่า เตรียมไปลงนามข้อตกลงกับแกนนำกลุ่ม BRN coordinate ที่เคลื่อนไหวก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ได้มีการลงนาม general consensus dialogue process for peace กับตัวแทนกลุ่ม BRN coordinate แล้ว โดยเนื้อหาของข้อตกลงดังกล่าว เป็นไปในลักษณะของความเห็นพ้องต้องกัน ที่จะนำไปสู่การเปิดกว้าง ในการที่จะพร้อมพูดคุยสันติภาพกับบุคคลที่มีความเห็นและอุดมการณ์แตกต่างจากรัฐ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการลงนามกับกลุ่ม BRN coordinate นี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการที่จะนำไปสู่การเปิดกว้าง ในการที่จะพูดคุยกับทุกๆ กลุ่ม ที่มีความเห็นต่างจากฝ่ายรัฐ โดยจะมีทางฝ่ายรัฐบาลมาเลเซีย เป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ต่อไป 

อย่างไรก็ดี การลงนามดังกล่าวถือเป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติการของ สมช.ไทยและมาเลเซีย ตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมา จนมาตกผลึกเอาในปีนี้ รวมทั้งยังเป็นสอดรับกับ 8 นโยบายการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เน้นการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีและเปิดพื้นที่ให้พูดคุย ซึ่งได้ผ่านกระบวนการของรัฐสภามาแล้ว 

ส่วนเนื้อหาสาระของข้อตกลงดังกล่าว จะมีการละเว้นโทษให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบด้วยหรือไม่นั้น พล.อ.ภราดร กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องดังกล่าว ในเวลานี้เป็นแต่เพียงการแสดงตัว เพื่อนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ต่อกัน ว่าจะมีการพูดคุยต่อไปกันเท่านั้น โดยหลังจากมีการพูดคุยก็คงจะมีพัฒนาการไปสู่เนื้อหาที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ต่อไป

ด้านการที่มีหลายฝ่ายห่วงว่า การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการยกระดับให้กับกลุ่ม BRN หรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า คงจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่อย่างน้อยกลุ่มดังกล่าว ก็ได้แสดงความจริงใจ ที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพ เพราะอย่างน้อยก็มีความกล้าที่จะแสดงตัวแล้ว อีกทั้งยังถือเป็นความสำเร็จในการยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น สำหรับการแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์การผนึกกำลังเป็นประชาคมอาเซียนต่อไป ขณะที่จะมีกลุ่มอื่น ๆ ติดต่อจะมาขอพูดคุยอีกหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าว คงต้องเป็นเรื่องของอนาคตต่อไป

วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คลิป "สมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 16" กล่าวอำลาตำแหน่ง




คริสตศาสนิกชนจำนวนมากมาร่วมอำลาสมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครรัฐวาติกัน ในวันสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะสละตำแหน่งในวันพฤหัสบดี

พระองค์นับเป็นสมเด็จพระสันตปาปาองค์แรกในรอบ 600 ปีที่ทรงประกาศสละตำแหน่ง นับตั้งแต่องค์สันตะปาปาเกรกอรี ที่ 12 สละตำแหน่งเมื่อปี 1415

สมเด็จพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่16 ตรัสถึงห้วงเวลาของคริสตจักรแห่งความสุขและแสงสว่างในสมัยของพระองค์ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นในการปรากฏพระองค์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนอำลาตำแหน่งที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์

พระองค์ตรัสต่อฝูงชนว่า การรับตำแหน่งถือเป็นภารกิจที่หนัก แต่พระองค์ก็ยอมรับที่จะปฏิบัติ เนื่องจากพระองค์เชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าจะชี้หนทางให้แก่พระองค์ เช่นเดียวกับเรื่องเล่าในคัมภีร์ไบเบิล ที่เหล่าสาวกต้องเผชิญหน้ากับคลื่นลมแรง และองค์พระเยซูปรากฏต่อหน้าบุคคลเหล่านั้น




พระองค์ยังตรัสขอบใจพระราชาคณะ ผู้มีส่วนร่วมและคริสตศาสนิกชนทุกคนที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือและเคารพการตัดสินพระทัยสละตำแหน่งของพระองค์ และว่าความรักในคริสตจักรหมายถึงความกล้าที่จะเผชิญปัญหา การตัดสินใจรวมทั้งคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของศาสนจักรไว้เสมอ

โดยการประชุมลับเพื่อแต่งตั้งองค์สันตะปาปาองค์ใหม่ จะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งเท่ากับว่าห่างจากช่วงสัปดาห์อันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Week) ที่สิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ที่ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย หรือวันอีสเตอร์ (Easter Sunday) ในวันที่ 24 มีนาคม

รายงานระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) พระองค์จะเสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังพระตำหนักคาสเทล แกนดอลโฟ ที่ห่างจากกรุงโรมไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโรมราว 24 กม. โดยพระองค์จะสิ้นสุดความเป็นองค์สันตะปาปาในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (02.00 น. วันที่ 1 มี.ค. ตามเวลาในไทย) โดยหลังจากนั้น พระองค์จะได้รับตำแหน่ง"พระสันตะปาปากิตติคุณแห่งโรมัน"

พรรคเพื่อไทย เปิดนโยบายใหม่ โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.

แม้จะเหลือเวลาอีก 3 วัน แต่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.พรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ยืนยันกรณีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีของพรรคฯ ช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หาเสียงนั้น อยู่นอกเวลาราชการและเป็นวันหยุดราชการ จึงไม่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (27 ก.พ.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และส.ส.พรรคเพื่อไทย ปฏิเสธความกังวลหลังมีคำร้องการใช้อำนาจหน้าที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง ทั้งกรณีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เพราะในแต่ละครั้งที่ร่วมคณะลงพื้นที่หาเสียง จะเป็นนอกเวลาราชการและเป็นวันหยุดราชการ ทั้งนี้ได้พิจารณาข้อกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว พร้อมเรียกร้องให้ผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งในช่วงเวลาที่เหลือด้วยความสร้างสรรค์ ไม่ควรใช้วิธีกล่าวหาสาดโคลน เพื่อลดความน่าเชื่อถือของคู่แข่ง

ขณะที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคเพื่อไทยเดินหน้าหาเสียง และแถลงเปิดนโยบายเพิ่มเติม แม้จะเหลือเวลาหาเสียงเพียงแค่ 3 วันก่อนวันเลือกตั้ง


โดยวันนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่ากทม. หมายเลข9 จากพรรคเพื่อไทย แถลงเปิดนโยบาย “พลิกโฉมกรุงเทพฯ Revitalize Bangkok สร้างโอกาสใหม่ สร้างรายได้ใหม่ให้คนกรุงเทพฯ” ซึ่งเป็นนโยบายสุดท้ายในการหาเสียง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งส.ส.และแกนนำสำคัญของพรรคเพื่อไทย ร่วมในการแถลงเปิดนโยบายอย่างพร้อมเพรียง โดยพล.ต.อ.พงศพัศ แถลงว่า หลังจากลงพื้นที่หาเสียงมา 44 วัน ได้ไปครบแล้ว 50 เขต ทุกชุมชน ได้ทราบปัญหาต่างๆ ทุกคนยืนยันว่า กทม.ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง โดยตนยืนยันจะบริหารงานในกทม.ให้มีความโปร่งใส พร้อมเพิ่มกระบวนการตรวจสอบการทำงานของผู้ว่าฯกทม. เพราะคนกทม.ตั้งความหวังว่า เงินทุกบาทสมควรต้องนำไปใช้จ่ายอย่างประหยัด เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไร้การคอรัปชั่น หากมีการทุจริตเกิดขึ้น ผู้ว่าฯกทม.ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้

สำหรับนโยบายพลิกโฉมกรุงเทพฯนั้น มียุทธศาสตร์สำคัญ 3 ส่วนได้แก่ 1.การพลิกโฉมกทม. จะพัฒนาเขตกรุงเก่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยฟื้นรถรางในพื้นที่รัตนโกสินทร์ การทำเยาวราชให้เป็นแหล่งอาหารจีนที่ดีที่สุดในโลก การพัฒนาย่านเจริญกรุงที่ขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่พักผ่อนและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาจับจ่ายใช้สอย 2.การเปลี่ยนชีวิต พัฒนาย่านการค้าเก่าเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างรายได้ใหม่ ต่อยอดโอกาสธุรกิจ เติมความฝันเอสเอ็มอีรุ่นใหม่ จะสร้างศูนย์แสดงสินค้าโอทอปที่หัวลำโพง นำสินค้าโอทอป 50 เขต มาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวรู้จักสินค้าโอทอปไทย การพลิกฟื้นตลาดสดที่ถูกละเลยเป็นแหล่งรายได้ใหม่ คงเสน่ห์วิถีตลาดไทยแบบดั้งเดิม 3.การสร้างเศรษฐกิจใหม่ โดยประสานกับรัฐบาลเพื่อพัฒนาเชื่อมโยงโครงการต่างๆให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนกทม. โดยจะโซนนิ่งกรุงเทพฯ สร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตใหม่ให้คนกทม. โดยใจกลางกทม.และย่านมักกะสัน จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนแห่งใหม่ กทม.ด้านเหนือพัฒนาเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งกระจายสินค้า กทม.ด้านใต้ พัฒนาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และกทม.ด้านตะวันตกพัฒนาเป็นแหล่งรายได้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านศิลปวัฒนธรรม ทั้งนี้ หากได้เป็นผู้ว่าฯกทม. สิ่งที่จะทำทันที 2 เรื่องคือ 1.การลดค่าครองชีพให้ชาวกทม. โดยกทม.จะร่วมมือกับรัฐบาล ให้มีการลดต้นทุนผลิตสินค้าให้มากที่สุด กทม.จะเป็นเจ้าภาพนำสินค้าต่างๆลงสู่ร้านถูกใจ การลดรายจ่ายจากการเดินทาง ส่วนต้นทุนการค้าขายที่เพิ่มขึ้นจากเทศกิจ เจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มมาเฟีย จะแก้ไขทันที ไม่ให้อำนาจนอกระบบทำให้การค้าขายได้รับผลกระทบ และ 2.การแก้ปัญหาจราจร ลดเวลาการเดินทาง เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นการพัฒนาสร้างอนาคต รายได้ใหม่ๆ ทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลง ทำงานแบบไร้รอยต่อ เพื่ออนาคตของกทม.

"เขตหลักสี่" โบ้ยไม่รู้ไม่ชี้! บัญชีผีโผล่ตายไป 30ปี แต่ได้สิทธิ์เลือกผู้ว่าฯเก๋ๆ

คุณยายสงวน กลิ่นรำพึง ยืนยันตนเองอาศัยอยู่เขตสายไหม ไม่เคยย้ายทะเบียนบ้านตนเองไปไหน

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) เวลา 19.00 น. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2   และ พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.สน.บก.น.2 ได้แถลงข่าว   เปิดเผยความคืบหน้ากรณี นางสุภัค สุขบุญแดง อยู่บ้านเลขที่ 20ม.2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เข้าร้องเรียนว่ามีรายชื่อผี เพิ่มเข้ามาในบ้านตนเองโดยไม่ทราบที่มาที่ไป จำนวน 6 ราย 


พ.ต.อ.เจริญ เปิดเผยว่า หลังรับร้องเรียน ทางเจ้าหน้าที่ ตร.กก.สส.บก.น.2 ได้นำรายชื่อบุคคลที่มรชื่อในทะเบียนบ้านทั้งหมดมาตรวจสอบ พบว่า บ้านของผู้ที่ร้องเรียนมีผู้พักอาศัยอยู่ทั้งหมด 17ราย โดยเป็นบุคคลที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน10ราย แต่ปรากฏว่ามีรายชื่อเพิ่มมาจำนวน6ราย มี นางหวิง สายดี อายุ 95ปี นางสังวาลย์ สายดี อายุ 71ปี นายเยื้อ สายดี อายุ 59  นายม่อม กลิ่นรำพึง อายุ 83ปี นางสงวนกลิ่นรำพึง อายุ75ปี และ นางแต๋ว กลิ่นรำพึง อายุ 58ปี 

ซึ่งทั้ง 6 รายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ทางเจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้ประสานไปทางเขตหลักสี่ เพื่อขอทราบข้อมูลรายละเอียดการย้ายเข้ามา แต่ทางเขตแจ้งมาว่าไม่ทราบว่าทั้ง 6 คนมีรายชื่อเพิ่มเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทางฝ่านสืบสวนจึงมีการตรวจสอบต่อไป ก็พบว่าทั้ง 6 รายใช้เลขบัตรประชาชนที่ไม่ตรงกับฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้พบว่ามีอยู่ 3รายคือ นางหวิง นายเยื้อและ นายม่อม มีข้อมูลว่าได้เสียชีวิตแล้ว 

จากนั้น ทาง สน.ทุ่งสองห้องได้เดินทางไปเชิญ นางสงวน กลิ่นรำพึง อายุ 75ปี ที่พักอยู่ย่านสายใหม เบื้องต้น นางสงวนให้การว่าไม่รู้เรื่องว่าไปมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านคนอื่นได้อย่างไร และก็พักอยู่ที่บ้านที่สายใหม ไม่เคยย้ายไปไหน และ นาง สงวนยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รายชื่อ 6 รายนั้น มี 3 รายที่ตายไปแล้ว คือ นางหวิง สายดี เป็นพี่สาวตนตายไปสิบกว่าปี  นายเยื้อ สายดี สามีของตนรายนี้ตายไป 30 กว่าปี นายหม่อม กลิ่นรำพึง พี่ชายก็ตายไปสิบกว่าปีเช่นกัน  ส่วนอีกชื่อคือนางแต๋ว กลิ่นรำพึง น้องสาวย้ายไปอยู่แถวระยอง-จันทบุรี ตั้งเป็นสิบกว่าปีไม่ได้เจอกันอีกเลย

และ พิรุธอีกข้อหนึ่ง ที่ทางตำรวจกล่าวคือ รายชื่อทั้ง 6 รายชื่อที่มาโผล่ที่เขตทุ่งสองห้องนั้น ปรากฏว่าถูกตั้ง "เลขที่บัตรประจำตัวประชาชนใหม่ทั้งหมด มีหมายเลข 3 หลักสุดท้ายเรียงกัน  ตั้งแต่หมายเลข 59 - 64 ซึ่งคือการ "ออกบัตรประชาชนใหม่ทั้งหมด"

ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มาให้กับทางสำนักงานเขต และ กกต. และในส่วนของเจ้าหน้าที่ ตร. ก็จะได้ทำการสอบสวนหาที่มาที่ไปของรายชื่อผีดังกล่าวต่อไป


รายชื่อเจ้าบ้านผู้มีสิทธิ์ ในบ้านเลขที่ 20 หมู่ 2 เขตหลักสี่ ภาพที่ 1 

รายชื่อเจ้าบ้านผู้มีสิทธิ์ ในบ้านเลขที่ 20 หมู่ 2 เขตหลักสี่ ภาพที่ 2  ซึ่งรวมกันแล้วแล้วมีผู้ใช้สิทธิ์รวมกัน 10 ราย
สังเกตได้ว่า  แม้จะเป็นบุคคลครอบครัวเดียวกัน นามสกุลเดียวกัน ปกติ "เลขบัตรประชาชนจะไม่เรียงลำดับหมายเลขกัน"

รายชื่อผู้มีสิทธิ์ ที่ไม่ได้มีตัวตนจริง 6 รายชื่อ ชื่อที่ 1 ตายไปแล้ว ชื่อที่ 2 อายุ 71 ปี ไม่ได้ที่เขตหลักสี่ แต่มีทะเบียนบ้านจริงของตนอยู่เขตสายไหม  ชื่อที่ 3 ตายไปแล้วสามสิบกว่าปี (สามีนางสงวน)

รายชื่อผู้มีสิทธิ์ ที่ไม่ได้มีตัวตนจริง รายที่ 4 เป็นพี่ชายนางสงวนตายไปสิบกว่าปีแล้ว  รายที่ 5 คือนางสงวน รายที่ 6 น้องสาวนางสงวน ย้ายไปอยู่ระยอง-จันทบุรีมากกว่า 10 ปี  ข้อน่าสังเกตุคือ ทั้ง 6 รายชื่อ ถูกอ้าง "ยกครอบครัว" มาจากเขตสายไหม มาใส่ในทะเบียนบ้านเขตหลักสี่  นางสงวนบอกว่า ตนเองไม่เคยย้ายบ้านไปไหนเลย และสังเกตดู "หมายเลขประจำตัวประชาชน" ด้านซ้ายมือ ของทั้ง 6 รายชื่อเรียงลำดับกันหมด  และแตกต่างกันคนละหมายเลขกับภาพด้านขวา ซึ่งเป็นภาพจากบัตรประชาชนจริง และมีเลขบัตรจริงอยู่ แม้จะเป็นพี่น้องกันนามสกุลเดียวกันแต่จะไม่เรียงหมายเลขกัน
สำนักงานกรรมการการเลือกตั้ง ส่งจดหมายมายังนางสงวน ยืนยันว่านางสงวนมีชื่ออยู่ในบ้านเขตสายไหม

ทะเบียนบ้านนางสงวน ยืนยันว่าย้ายเข้ามาอาศัยที่เขตสายไหม ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2524 คือเมื่อ 32 ปีที่แล้ว




ชาวเน็ต แห่เขียนเบอร์16 ตามร่างกาย คึกคัก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้หมึกสีน้ำเงินเขียนบนนิ้วเป็นหมายเลข 16 เพื่อเป็นการเชิญชวนประชาชนมาช่วยกันสร้างเมืองกรุงเทพฯ ของเรา พร้อมกับช่วยกันสนับสนุน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 16 ของพรรคประชาธิปัตย์ 

ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้สนับสนุนบางส่วนต่างก็ใช้หมึกสีน้ำเงินเขียนหมายเลข 16 ตามร่างกายด้วยเช่นเดียวกัน โดยภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ในเครือข่ายสังคมเป็นจำนวนมาก ทำให้สร้างความคึกคักช่วงการหาเสียงโค้งสุดท้ายเป็นอย่างมาก




คลิปจับงูจงอางยักษ์ส่อพิรุธ พบ "ก็อปปี้ซ้ำจากต้นฉบับปีที่แล้ว"

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) จากรายงานข่าวตามสื่อสารมวลชนทั่วไป รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา ได้พบงูจงอางขนาดยักษ์ ซ่อนตัวอยู่ในบ้านแห่งหนึ่งที่ตำบลปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานอำเภอห้วยยอดจังหวัดตรัง ได้เข้าไปจับงูดังกล่าวออกมาจากห้องครัวในบ้านนั้น โดยเผยแพร่คลิปชายวัยกลางคน แสดงความสามารถจับงูจงอางด้วยมือเปล่าได้

ทีมงานลองตรวจสอบคลิปดังกล่าวพบว่า คลิปที่ 1 ที่อ้างว่าเป็นคลิปที่บันทึกไว้และเผยแพร่โดยผู้ใช้ไอดีว่า sumritSKL jang  ได้เผยแพร่คลิปการจับงูชื่อ "จับงูจงอางยักษ์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2013 ในรายละเอียดอ้างอิงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 เหตุเกิดที่ตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
ดังคลิปนี้


จากนั้น ทีมงานได้ตรวจสอบ พบว่า มีอีกคลิปหนึ่งได้อัพขึ้น โดยไอดีชื่อ rin2269  ได้เผยแพร่คลิปการจับงูเหมือนคลิปแรกทุกประการ โดยใช้ชื่อคลิปว่า "บรรเทาห้วยยอด ว.4 จับงู" และตรวจสอบวันเกิดเหตุ ก็อ้างอิงว่าเกิดเหตุวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 ตามคลิปนี้



ดังนั้น นั่นหมายความว่า คลิปต้นฉบับแท้จริง น่าจะเป็นคลิปที่ 2 ที่เผยแพร่มาตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 และเหตุการณ์จับงูดังกล่าว น่าจะเป็นการจับงูเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 ซึ่งก็คือเป็นเหตุการณ์เมื่อ 1 ปีที่แล้ว

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

นักวิชาการสลิ่ม "สมบัติ จันทรวงศ์" มธ.ติดบ่วงซุกเงิน 20 ล้านอ้าง "เขามาฝาก!"



จู่ๆ ชื่อ ของอาจารย์สมบัติ จันทรวงศ์   นักวิชาการชื่อดัง คณะรัฐศาสตร์  ม.ธรรมศาสตร์ ก็มาอยู่ในสำนวนของป.ป.ช.

เมื่อ ป.ป.ช.มีมติให้อายัดทรัพย์สิน พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ในคดีร่ำรวยผิดปกติ เป็นเงินกว่า 65 ล้านบาทง

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.  กล่าวว่า  จากการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเงินไหลออกไปทางไหน ก็พบตัวละครร่วมอีกคนก็คือนายสมบัติ จันทรวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ที่ปรึกษาในการทำวิทยานิพนธ์ปริญญาของ น.ส.ณิชาพัฒน์ (ลูกสาวของพลเอกเสถียร) ซึ่งพบว่ามีการนำเงินไปฝากไว้ในบัญชีของนายสมบัติถึงกว่า 20 ล้านบาท

จากการเรียกนายสมบัติมาสอบถามก็ได้รับข้อมูลว่า นางณัฐณิชาช์เป็นคนมาขอฝากไว้ โดยอ้างว่ามีปัญหากับทางครอบครัว ซึ่งนายสมบัติก็บอกว่าจะมาถอนเมื่อไรก็ได้ ลักษณะของอาจารย์ท่านนี้จึงเข้าข่ายว่าจะเป็นนอมินีนายวิชากล่าว

 ศ.ดร.สมบัติ จันทรวงศ์ เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2538 ศาสตราจารย์ประจำสาขาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรรมการสาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านปรัชญาการเมืองคนสำคัญของประเทศและเป็นผู้บุกเบิกการสอนวิชาปรัชญาการเมืองและความคิดทางการเมืองในประเทศไทย จนได้รับการกล่าวขานว่า "เปลโตเมืองไทย"

ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ จันทรวงศ์  อายุ 68 ปี จังหวัดสงขลา ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งสอนอยู่คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครอง


ปราโมทย์ นาครทรรพ  นักวิชาการในปีกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยพูดถึงอาจาย์สมบัติว่า   รู้จัก ตั้งแต่เขาเป็นนักเรียน นับถือความรู้และปฎิปทา ที่เขามิได้แบกหามสัญลักษณ์  ดร.ขึ้นหน้า หรือ บ้าอันดับมหาวิทยาลัยเยี่ยงคนอื่น เมื่อเป็นอาจารย์ก็ทำหน้าที่นักวิชาการ ไม่ร่านไปสยบอำนาจการเมือง สมบัติจบปี 2 รัฐศาสตร์ได้ทุนพอล แอปเปิลบีไปเรียนปี 3 ต่อที่แคลร์มอนต์ตามรุ่นพี่ๆ อาทิ ดร.พนัส สิมะเสถียร ดร.พิสิฏฐ์ ภัคเกษม    ดร.แสง สงวนเรือง คนหลังนี้สังคมนิยมเป็นบ้า รุ่นน้องก็มีดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นต้น


"สมบัติเรียนชนะฝรั่ง ได้ summa cum laude หรือเกียรตินิยมสูงสุด ในวิชาปรัชญาการเมือง ทำให้ผมน้ำลายไหลอยากได้มาเป็นอาจารย์ธรรมศาสตร์ ผมขอให้มหาวิทยาลัยเยล ส่งจดหมายไปเชิญสมบัติไปต่อปริญญาเอก การส่งจดหมายไปเชิญนักเรียนนี้ ถ้าไม่ยอดจริงๆ เขาไม่ทำ สมบัติไม่ยอมย้าย เพราะต้องการเรียนต่อกับ Jaffa ศิษย์เอกของสเตราส์ สุรินทร์ พิศสุวรรณ จบสาขาเดียวกันหลังสมบัติ ได้เกียรตินิยม cum laude ไปต่อ Harvard จนได้ปริญญาเอก ธรรมศาสตร์โชคดีได้ทั้งคู่มาเป็นอาจารย์"


ในช่วงพันธมิตรฯ เคลื่อนไหว กู้ชาติ  ชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร   มีคนพบเห็น สมบัติ จันทรวงศ์   คาดผ้าเหลืองกู้ชาติ


อย่างไรก็ตาม  ภาพลักษณ์ของ อาจารย์สมบัติ ในสายตาของ คนในประชาคมธรรมศาสตร์   คือ อาจารย์สอนรัฐศาสตร์ ที่ สมถะ เรียบง่าย และมีความเป็นอาจารย์สูง


ผลงานทางวิชาการของ อาจารย์สมบัติ มีอยู่มากมาย เช่น


1 . เจ้าผู้ปกครอง / Niccollo Machiavelli ผู้เขียน ; สมบัติ จันทรวงศ์ ผู้แปลและเขียนคำนำ. By: มาเคียเวลลี, นิคโคโล. กรุงเทพฯ : โครงการจัดพิมพ์คบไฟ, 2552

2. โครงการศึกษาพัฒนาการของโครงสร้างนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยและรูปแบบความร่วมมือในด้านการวิจัยของประเทศไทยกับต่างประเทศ : กรณีศึกษา: ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลี และอินเดีย / จัดทำโดย สมบัติ จันทรวงศ์ และคณะ.Detail Only Available By: สมบัติ จันทรวงศ์. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, 2550

4. ประวัติปรัชญาการเมือง. เล่มที่ 2 / ลีโอ สเตร๊าส์ และ โจเซ็ฟ คร็อปซีย์ บรรณาธิการ ; สมบัติ จันทรวงศ์ แปล. กรุงเทพฯ : คบไฟ, 2552

5. พูดไปสองไพเบี้ย : ทำความเข้าใจกับสิ่งที่นักการเมืองไทย(ไม่)พูด = [When silence is golden : why Thai politicians are (not) talking] / โดย สมบัติ จันทรวงศ์. By: สมบัติ จันทรวงศ์. กรุงเทพฯ : โครงการจัดพิมพ์คบไฟ, 2549.

6.บทสนทนาของเพลโต : ยูไธโฟร อโพโลจี ไครโต = The dialogue of Plato : Eutyphro, Apology, Crito / สมบัติ จันทรวงศ์ แปล. By: เปลโต้. กรุงเทพฯ : คบไฟ, 2549.


7.ปรัชญาการเมืองเบื้องต้น : บทวิเคราะห์โสเกรตีส / สมบัติ จันทรวงศ์. By: สมบัติ จันทรวงศ์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2535.

8. การสัมมนา "ไทยศึกษา" เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี อ.นิออน สนิทวงศ์ [วัสดุบันทึกเสียง] / [จัดโดย สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์].Detail Only Available By: การสัมมนาไทยศึกษาเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี อ.นิออน สนิทวงศ์ (2533 : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

9.ภาษาและการเมือง : การศึกษาศัพท์การเมืองและแนวอธิบายการเมือง จากงานเขียนประเภทสารคดีทางการเมืองของไทย พ.ศ. 2475-2525 (ช่วงที่ 1-3 พ.ศ. 2475-2516). By: สมบัติ จันทรวงศ์. กรุงเทพฯ, สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2530

10. สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) : ความหมายทางการเมือง / สมบัติ จันทรวงศ์. กรุงเทพฯ : สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2532

11. ปรัชญาการเมืองเบื้องต้น บทวิเคราะห์โสเกรตีส. By: สมบัติ จันทรวงศ์. กรุงเทพฯ, โครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2524.

12. ทฤษฎีการเมืองตะวันตก Western political theory / โดย สมบัติ จันทรวงศ์. By: แม็คโดแนลด์, แอล. ซี. กรุงเทพฯ : โครงการตำราสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, 2520

13. นโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีนิกสัน (Nixons quest for peace) / แปลโดย สมบัติ จันทรวงศ์, ธงชัย วงศ์ชัยสุวรรณ และฉันทิมา อ่องสุรักษ์. By: วาน เดอ ลินเด็น, แฟรงก์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, 2516

14. เจ้าพ่อบนเส้นทางประชาธิปไตย [วัสดุบันทึกเสียง] : การสัมมนา / [จัดโดย สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์] ; เสนอโดย อัจฉราพร กมุทพิสมัย ; วิจารณ์โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์, สมบัติ จันทรวงศ์. By: การสัมมนาเรื่องเจ้าพ่อบนเส้นทางประชาธิปไตย (2533 : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์). [กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์], 2533

15. อารยะขัดขืน.Detail Only Available กรุงเทพฯ : มูลนิธิโกมลคีมทอง, 2549.

16. ภาษาและการเมือง [วัสดุบันทึกเสียง] : การศึกษาวิวัฒนาการของศัพท์การเมืองและแนวอธิบายการเมืองในงานเขียนประเภทสารคดีทางการเมืองไทย พ.ศ. 2475-2500 (ช่วงที่ 1-2) / โดย สมบัติ จันทรวงศ์ ; ผู้วิจารณ์ เพียรศิริ วงศ์วิภานนท์ ... [และคนอื่น ๆ]. By: สมบัติ จันทรวงศ์. [กรุงเทพฯ : สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์], 2529 [1986]

17.ศรีธนญชัย [วีดิทัศน์] / อำนวยการผลิต เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, พิรุณ ฉัตรวนิชกุล. [กรุงเทพฯ] : บริษัทว็อชด็อก, [2538]

18. รักเมืองไทย.Detail Only Available By: รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพาณิช, 2519.

19. ศรีธนญไชย: ความคิดเรื่องอำนาจและปัญญา โดย สมบัติ จันทรวงศ์. กรุงเทพฯ, สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, 2521.

20. ทฤษฎีการเมืองตะวันตก แปลโดย สมบัติ จันทรวงศ์. By: แมคโคแนลด์, แอล. ซี. กรุงเทพฯ

รวบ 3 โจ๋ นร.นักเลง ร่วมรุมทำร้าย-ตัดนิ้ว น้องแบงค์เหยื่อช่างกลตีกัน



วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) - พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ บช.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายโอ๋ อายุ 18 ปี นายตั้ว อายุ 18 ปี และ นายเอ็ม อายุ 17 ปี (ทั้งหมดนามสมมุติ) เป็นนักเรียนของวิทยาลัยเทคโนแห่งหนึ่ง พร้อมของกลาง อาวุธมีดอีโต้ ยาว 60 ซม. จำนวน 2 เล่ม

โดย พล.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 10 ม.ค.เวลาประมาณ 16.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาท และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดปากซอยสำนักงานประปาสมุทรปราการ ถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงไปตรวจสอบพบว่ากลุ่มนักเรียนดังกล่าวได้แยกย้ายหลบหนีไปแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายจักรชัย หรือแบ๊งค์ นุริตานนท์ อายุ 16 ปี นักศึกษาสถาบันวิทยาลัยเทคโนโลยีศรีวัฒนาบริหารธุรกิจฯ ได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่ศรีษะ ข้อนิ้วมือ และนิ้วมือขาด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า

จากการสอบสวนทราบว่า มูลเหตุของเรื่องเกิดจาก นักเรียนกลุ่มผู้ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ นักเรียนฝ่ายอริ ส่วนผู้บาดเจ็บไม่ได้เรียนอยู่ทั้ง 2 สถาบัน แต่อยู่ในที่เกิดเหตุเท่านั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อยู่ร่วมกับกลุ่มที่ก่อเหตุ และใช้อาวุธมีดฟัน นายจักรชัย ได้รับบาดเจ็บ จึงเข้าจับกุม

สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันใช้อาวุธมีดฟันผู้บาดเจ็บจริง เพราะนึกว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนคู่อริ โดยก่อนเหตุระหว่างที่นั่งรถโดยสารประจำทางสาย 25 กลับบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ถูกนักเรียนคู่อริปาระเบิดใส่ จึงวิ่งกรูจากรถลงไปใช้อาวุธมีดไล่ฟันผู้บาดเจ็บเพราะคิดว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนคู่อริ ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมตัว สำหรับผู้ต้องหาได้กล่าวขอโทษผู้เสียหายที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และอยากฝากถึงกลุ่มเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุขอให้เข้ามามอบตัวเพราะเจ้าหน้าที่มีข้อมูลของทุกคนที่ร่วมก่อเหตุแล้วเบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันพกอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป

ด้าน นายจักรชัย หรือน้องแบงค์ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ไม่ติดใจเอาความเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ชั่ววูบ พร้อมให้อภัย และอยากให้กลุ่มผู้เหตุที่เหตุที่ยังหลบหนีเข้ามามอบตัวกับตำรวจ และอยากฝากเตือนว่าหากจะทำอะไรอยากให้คิดก่อน เพราะอาจเกิดเรื่องเข้าใจผิดในลักษณะนี้ขึ้นอีก 


ป.ป.ช.อายัดทรัพย์'พล.อ.เสถียร'และภรรยา 65ล. พบการบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ-ร่ำรวยผิดปกติ


วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) - ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ วันนี้ (26 ก.พ.) ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติให้อายัดทรัพย์สินของ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกกลาโหม และนางณัฐณิชาช์ ภรรยา เป็นจำนวน  65 ล้านบาท เนื่องจากคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของป.ป.ช. พบการแสดงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินอันเป็นเท็จ ของพล.อ.สเถียร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง กรรมการองค์การคลังสินค้า ระหว่างปี2550-2551

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวว่า  ป.ป.ช. ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมแล้ว พบว่า  สมัยที่พล.อ.เสถียร เป็นกรรมการองค์การคลังสินค้า(อคส.)ในปี2550-51 แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ14ล้านบาทและได้ส่งเรื่องนี้ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว
         
นอกจากนี้ ตั้งแต่สมัยที่พล.อ.เสถียรเป็นกรรมการอคส.จนถึงผู้บัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุดพบว่า  ร่ำรวยผิดปกติเพราะมีเงินเข้าบัญชี 10กว่าล้านบาท  ส่วนภรรยาและบุตรบุญธรรม(บุตรสาว)พบว่ามีเงินเข้าบัญชี100กว่าล้านบาท  และมีการถ่ายโอนเงินของบุตรบุญธรรมไปให้นายสมบัติ จันทรวงศ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยนายสมบัติเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของบุตรบุญธรรม พล.อ.เสถียร โดยนายสมบัติเคยให้การกับปปช.ว่ารับฝากเงินนี้ไว้จริง และนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  จึงได้อายัดบัญชีและทรัพย์สินอื่นๆของภรรยาและบุตรบุญธรรมพล.อ.เสถียร65ล้านบาท

ทั้งนี้ เปิดโอกาสให้พล.อ.เสถียร ชี้แจงภายใน 30 วัน

ดิ้นสุดฤทธิ์! ปชป.ร่อนจม.เปิดผนึก-เคาะประตูบ้าน ทั่วกรุงฯวอนคะแนนเสียง


วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 (go6TV) - นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งผู้ว่า กทม. แถลงว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์จะเริ่มแจกจดหมายเปิดผนึกจากใจถึงใจของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัฒน์ ผู้สมัครผู้ว่า กทม.ส่งถึงคนกทม.โดยเนื้อหาในจดหมายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเน้นไปที่การขอโอกาสกลับมาทำงานอีกครั้งและจะสานต่อนโยบายที่เคยทำไว้แล้วเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาและยังทำไม่สำเร็จอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนจดหมายของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื้อหามีการพูดพรรคประชาธิปัตย์กับคนในกรุงเทพมหานครตลอดระยะเวลา 67 ปี นับตั้งแต่ ก่อตั้งพรรค จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงขอโอกาสให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับโอกาส กลับมาเป็นผู้ว่า กทม.อีกครั้ง

นายองอาจ กล่าวว่า นับจากนี้ อีก 4 วัน ก่อนถึงวันเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จะเน้นการลงพื้นที่หาเสียงอย่างเต็มที่ ทั้งการเข้าถึงประชาชน โดยการเคาะประตูบ้าน การขึ้นรถแห่เสียง ประชาสัมพันธ์ และปราศรัย

สำหรับจดหมายของนายอภิสิทธิ์ มีเนื้อหาส่วนหนึ่งว่า 3 มี.ค. คนกรุงเทพฯ จะมีโอกาสเลือกอนาคตของกรุงเทพอีกครั้ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ขออาสารับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯต่อไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สานต่องานสำคัญและริเริ่มงานใหม่ เชื่อว่า ประสบการณ์และความสามารถของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในการประสานงานกับทุกฝ่าย ทำให้มั่นใจว่า มีความเหมาะสมที่จะทำงานให้คนกรุงเทพฯ ต่อไป ตนขอความกรุณาจากชาวกรุงเทพอีกครั้งในการสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อำนาจในมือพี่น้องยิ่งใหญ่กว่าอำนาจรัฐและอำนาจเงิน ผมมั่นใจและเคารพในการตัดสินใจของพี่น้องเสมอครับ



ขณะที่เนื้อหาจดหมายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ เนื้อหาส่วนหนึ่ง ว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสตนทำงานรับใช้ชาวกทม.มาแล้ว 4 ปี ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาตนทำงานอย่างทุ่มเท ซื่อตรงและมั่นคงที่สุด ที่จะทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงที่ดีน่าอยู่ วันนี้ ตนขอโอกาสสานงานต่อ เพื่อให้กรุงเทพฯเป็นมหานครที่เต็มไปด้วยความสุขและน่าอยู่ เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก การเลือกตั้ง 3 มี.ค.นี้ จะเป็นการชี้ชะตาอนาคตของคนกรุงเทพฯและประเทศไทย ตนเชื่อว่า คนกรุงเทพไม่ต้องการให้ใครมาชี้นำความคิด ทุกคนมีอิสระภาพเท่าเทียมกัน เมื่อท่านเข้าคูหา ท่าน คือ เจ้านายของตัวเอง หากแต่ว่า ถ้าท่านได้เลือกให้ตนได้ทำงานสานต่ออีกครั้ง นอกจากท่านจะได้ชื่อว่า เป็นนายตัวเองแล้ว ท่านยังมีคนรับใช้ที่พร้อมจะดูแลและร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านอีกคน รักกรุงเทพ ฯ มาร่วมพากรุงเทพฯ เดินหน้าต่อด้วยกันนะครับ