วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เผยโฉมพยาน! เห็นเหตุการณ์ม็อบประชาธิปัตย์ยิงกันหลังราม แต่ดันโดนม็อบประชาธิปัตย์จับได้ ใช้มีดแทงคอบาดเจ็บ

เผยโฉมพยาน! เห็นเหตุการณ์ม็อบประชาธิปัตย์ยิงกันหลังราม แต่ปรากฏว่าดันโดนม็อบประชาธิปัตย์จับได้ ใช้มีดแทงคอบาดเจ็บ


ด่วน! จากกรณีกลุ่มนศ.รามฯปะทะเสื้อแดงอีกที่ซอยรามฯ 24 หลังม.รามฯ เสียงปืน-ระเบิดกึกก้อง มีเจ็บกว่า 30คน 

ตร.ห้ามสื่อเข้าพื้นที่ เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของนักศึกษารามและม็อบประชาธิปัตย์ที่อยู่ตรงนั้น อยู่ห่างไกลจากตัวสนามกีฬา

และจากกรณีมีนักศึกษารามถูกยิงเจ็บหลายคน...นั้น ล่าสุดตำรวจจับคนยิงได้แล้ว สารภาพ แต่งชุดตำรวจลำลอง พอยิงเสร็จ วิ่งถอดเสื้อใส่เสื้อแดงแต่ซวย โดนเสื้อแดงในสนามไล่จับได้ ขณะที่วิ่งมาพร้อมอาวุธ

ตำรวจกำลังสอบสวนเป็นกลุ่มคลั่งชาติของนายสุเทพ มีหลักฐานในมือถือ เป็นเพจเฟสบุ้คที่มีประวัติเป็นการ์ดม็อบอุรุพงษ์


พยานคนเสื้อแดงที่เห็นเหตุการณ์ยิงกัน โดนกลุ่มม็อบประชาธิปัตย์จับตัวใช้มีดฟันที่คอ ชื่อนายจรัญ กิ่งแก้ว ตำรวจวิ่งไปช่วยลากออกมาได้ และตำรวจก็ไล่จับกุม ชายวัยรุ่นใส่เสื้อสีดำ 6 คนถือถังน้ำมันเบนเซนซินเข้ามาจากปากซอยเข้ามาไกล้ตัวอาคาร พยายามจะจุดไฟเผาตึกสร้างสถานการณ์ ชาวบ้านและ นศ.รามช่วยจับตัวไว้ได้พร้อมถังเบนซินพร้อมนกหวีดส่งให้ตำรวจ

ตำรวจพาตัวไปเก็บทันทีเพื่อขยายผลถึงผู้จ้างวานต่อไป

เห็นจะๆ ม็อบเหี้ยประชาธิปัตย์ หน้ารามคำแหง "ฟาดรถเมล์ ด้วยธงชาติ แทงเสื้อแดง ด้วยธง ภปร."













"สหรัฐอเมริกา" ออกแถลงการณ์ซ้ำ! "สหรัฐเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้ทุกฝ่ายหยุดใช้ความรุนแรง และเคารพกฏหมาย"


ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ข้อความผ่านเฟสบุ้คสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ย้ำให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงความรุนแรง อดทนอดกลั้นและเคารพกฎหมาย โดยมีข้อความว่า

“รัฐบาลสหรัฐฯมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยที่กำลังทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นและได้ติดตามการชุมนุมในกรุงเทพอย่างใกล้ชิด

ในฐานะมิตรประเทศเก่าแก่ของประเทศไทย เราขอเป็นกำลังใจให้ประเทศไทยและประชาชนชาวไทยในช่วงเวลาเช่นนี้

เราขอให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง มีความอดทนอดกลั้น และเคารพหลักนิติธรรม”

คลิปม็อบประชาธิปัตย์หน้ารามฯ รุมกระทืบฟาดรถแท็กซี่ ที่มีผู้โดยสารเสื้อแดงบนรถ



ชาวเน็ตแห่แชร์ ภาพเตือนม็อบประชาธิปัตย์หน้ารามฯ เตรียมก่อเหตุจ้องทำร้ายเสื้อแดง


30 พฤศจิกายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์จำนวนมาก ต่างแชร์ภาพกราฟิก ที่มีข้อความระบุว่า "เทพไท เสนพงศ์ เกณฑ์ลูกหาบเด็กใต้รามฯ จ้องดักทำร้ายเสื้อแดงคืนนี้  หากพบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติ โปรดแจ้งตำรวจทันที"

ทั้งนี้ ข้อความแจ้งเตือนดังกล่าว สอดรับกับการเคลื่อนไหวของผู้ที่อ้างว่าเป็นเครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ได้ตั้งเวทีปราศรัยปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังต่อกลุ่มคนเสื้อแดงและ ต่อประชาชนที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย โดยเวทีดังกล่าวเริ่มมีการเคลื่อนไหวตั้งแต่ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา และประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุมม็อบประชาธิปัตย์ก็ถูกทำร้ายร่างกายแล้ว หลายรายในบริเวณพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร



จับอาวุธปืนอีกแล้ว!! พกเข้าร่วมชุมนุมม็อบประชาธิปัตย์ตอนตี 3





เมื่อวันที่ 30 พ.ย.56 เวลาประมาณ 03:37 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้งด่านตรวจความมั่นคง บริเวณแยกประชาเกษม ได้จับกุมตัว นายเอก เถาทอง อายุ 31 ปี ในข้อหา

1.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต


ของกลางปืนออโตเมติก ยี่ห้อโคลท์ ขนาด 11มม. พร้อมกระสุนปืน 2 นัด

"รัฐบาล"ยันไม่สลายชุมนุม วอนหันหน้าเจรจาร่วมกัน

รัฐบาลรับห่วงสถานการณ์ชุมนุมนำไปสู่ความรุนแรง ยืนยันไม่ใช้วิธีสลายการชุมนุม วอนหันหน้าพูดคุยหาทางออกร่วมกัน

รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน เช้าวันนี้ ช่วงแรกพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและพลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ จัดรายการร่วมกัน

โดยพลตำรวจเอกประชา ยืนยันว่าทุกกลไกการทำงานของรัฐบาลยังสามารถดำเนินการไปได้ตามปกติ การให้บริการประชาชนยังสามารถทำได้ครบถ้วน แม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกยึดหน่วยงานราชการทั้งที่กระทรวงการคลัง และศูนย์ราชการ แต่ยอมรับว่ามีความกังวลใจในเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศ โดยเฉพาะจะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีซึ่งถือเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวของประเทศ พลตำรวจเอกประชา ยังยืนยันในท่าทีของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดเวทีการเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะข้อเสนอของนายสุเทพ ขณะนี้ไม่สามารถทำได้ตามหลักรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลการชุมนุมด้วยความละมุนละม่อม ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่มีการเข้าสลายการชุมนุมอย่างเด็ดขาด แม้ว่าจะมีความพยายามยั่วยุเพื่อให้เกิดความรุนแรง เจ้าหน้าที่จะยึดหลักกฏหมายอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามหลักการจากเบาไปหาหนัก มั่นใจว่าการบังคับใช้กฏหมายตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ยังสามารถทำงานได้ดี

ขณะที่ทั้ง ผบ.ตร. และเลขาฯ สมช.ยืนยันว่าม็อบขณะนี้เป็นม็อบการเมือง ที่มีเป้าหมายต้องการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ยุทธวิธีในการต่อสู้จึงเปลี่ยนไปตลอดเวลา ทำให้มองได้ว่าแกนนำการชุมนุมขาดความชอบธรรมไปเรื่อย ๆ เพราะไม่สามารถอธิบายจุดหมายที่แท้จริงกับสังคมได้ ดังนั้นในส่วนของรัฐบาลจำเป็นต้องสื่อสารทำความเข้าใจกันประชาชนให้มากขึ้น พร้อมกับย้ำว่าขณะนี้แกนนำผู้ชุมนุมกำลังกระทำผิดกฏหมายในการบุกรุกสถานที่ราชการซึ่งมีความผิดอาญา การปฏิบัติตามคำสั่งแกนนำจะทำให้ผู้ร่วมชุมนุมมีความผิดไปด้วย

ช่วงที่ 2 ของรายการฯ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และนายวราเทพ รัตนากร ชี้แจงถึงข้อกล่าวหาการประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่นายสุเทพ ใช้ปลุกระดมการชุมนุมอยู่ในขณะนี้ โดยย้ำว่ารัฐบาลไม่เคยแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องของ ส.ส.ผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการประกาศไม่รับอำนาจศาลของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็เป็นไปเฉพาะในประเด็นที่เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยในเรื่องการแก้ไขร่าง รธน.เท่านั้น ซึ่งก็สอดคล้องกับความเห็นของนักวิชาการและนักกฏหมายส่วนใหญ่ในขณะนี้ พร้อมกับย้ำว่าข้อเสนอของนายสุเทพ ทั้งการตั้งรัฐบาลประชาชนและสภาประชาชน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และไม่ได้เป็นไปตามกลไกที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้มองว่าหากกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง ก็ควรกลับเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย เพราะเมื่อถึงเวลาประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกรัฐบาลผ่านการเลือกตั้ง ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมที่จะเปิดให้มีการพูดคุยเจรจา ซึ่งขณะนี้เริ่มมีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นคนกลางมากขึ้น โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนในทุกวิธีที่เห็นว่าจะเป็นทางออกที่ดีของประเทศ

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าว BBC News ยืนยันต้องรักษาความสงบ สันติ และธำรงประชาธิปไตยให้ถึงที่สุด


วันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 (go6TV) นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์พิเศษแก่สำนักข่าว BBC News ความว่า

“บางกลุ่มบางคนเล็กๆ อาจจะไม่ชอบเรา แต่ได้โปรดถามคนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เลือกเรามาตามกติกา และเราก็มาจากการเลือกตั้ง นี่คือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยประชาชน และในระบอบประชาธิไตยเองที่มีกระบวนการในการถ่วงดุล ตรวจสอบ และประเมินผลรัฐบาลในตัวมันเอง ”

ณ ขณะนี้ สถานการณ์ต่างๆ ยังเดินหน้าได้  ดังนั้นเราจึงได้เรียกร้องให้มาเจรจากัน เมื่อไหร่ก็ตามเรายังรักษาประชาธิปไตย รักษาความสันติ  รักษาระบบนิติธรรมได้” 

“เราต้องถามกลับผู้ประท้วงว่า หากเรายุบสภาแล้ว คุณพอใจหรือไม่”

“เราต้องรักษาความสงบเรียบร้อยก่อน  และขณะนี้ สถานการณ์ขณะนี้ต้องการวิธีให้รัฐบาลสามารถเดินหน้าได้ แล้วเราค่อยมาคุยกันว่าเราจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร”

“เราไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพ เราคิดว่าเพียงแค่ตำรวจ ก็สามารถรักษาสถานการณ์ได้ เราไม่ต้องการให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เราต้องระมัดระวังเพราะสถานการณ์มันอ่อนไหวมาก  มันไม่ได้หมายความว่า เราถอย แต่เรามีขั้นตอนในการปฏิบัติ เราต้องให้ตำรวจได้ปฏิบัติการตามลำดับขั้นตอน  สถานการณ์แรก คือการเจรจา”

“เราเชื่อมั่นว่ารัฐบาลเราเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ดังนั้นเราไม่ต้องการวิถีทางอื่นใด ที่นอกกฎหมาย ไม่เป็นประชาธิปไตยเข้าแทรกแซง ดังนั้นเราต้องมั่นใจว่า ระบบประชาธิปไตยต้องเดินหน้า นี่คือหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องนำพาประเทศให้เดินหน้าอย่างสันติ  เราอุทิศตนเองเพื่อประเทศของเรา เราจะไม่ท้อถอย และเราจะต้องธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย”


(คำแปล ทีมงาน go6TV ไม่เป็นทางการ) 

พรรคประชาธิปัตย์ต้องตอบ! สะกดรอยตามรถ กทม. ขนทราย แกลอนน้ำมันเบนซินเข้าม็อบ



พบรถต้องสงสัยบรรทุกกระสอบทรายและถังน้ำมัน!!

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.56 เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง พบรถต้องสงสัย ขับผ่านบริเวณถนนหลานหลวง มุ่งหน้าปิ่นเกล้า จึงได้ทำการตรวจสอบ ปรากฎว่าเป็นถุงกระสอบทรายจำนวนมาก และถังแกนลอนน้ำมัน จำนวน 6 ถัง จึงได้นำตัวผู้ขับขี่มาที่ สน.นางเลิ้งเพื่อสอบสวนปากคำและทำประวัติไว้

คลิปม็อบอุบาทว์ประชาธิปัตย์! ไล่บีบไข่ตำรวจทีละคนสนุกสนาน



วันนี้ (29 พ.ย.) ชาวสังคมออนไลน์แชร์คลิปที่มาจากเฟซบุ๊กชื่อ รุ่นใหญ่ ใจต้องนิ่ง ซึ่งเป็นคลิปเผยแพร่ภาพเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มล้มระบอบทักษิณ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคล้องแขนทำเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อรักษาพื้นที่

โดยในคลิปพบเห็นเหตุการณ์ชายคนหนึ่งใส่ชุดขาวพร้อมมือถือธงชาติไทย ไล่จับอวัยวะเพศของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาดูแลความเรียบร้อยของผู้ชุมนุม


ซึ่งไม่ใช่แค่คนเดียวเท่านั้น แต่ชายคนนี้เดินจับไปอีกหลายคน เล่นเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องหลบแต่ก็หลบไม่พ้น แต่ก็ไม่ได้ใช้กำลังความรุนแรงกับผู้ชุมนุมรายนี้ โดยมีผู้ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณศาลาว่าการจังหวัดจันทบุรี

นิตยสารไทม์ชี้ประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นนักประชาธิปไตย ล้มรัฐบาล เรียกร้องรัฐประหาร เล่นการเมืองแบบอันธพาล

นิตยสารไทม์ชี้ประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นนักประชาธิปไตยสมกับชื่อพรรค เรียกร้องให้โค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง นำม็อบยึดสถานที่ราชการ หวังกองทัพเข้ายึดอำนาจ เล่นการเมืองแบบอันธพาล

เว็บไซต์ของนิตยสารไทม์ เสนอรายงานในวันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ในชื่อ "พรรคประชาธิปัตย์ของประเทศไทยตั้งชื่อผิดอย่างน่าหัวร่อ" ระบุว่า ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองสีเสื้อในเมืองไทยได้กลับมาปะทุอีกครั้ง เหล่าคนเสื้อเหลืองผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ายึดกระทรวงต่างๆในเมืองหลวงและศาลากลางอย่างน้อยใน 19 จังหวัด

เมื่อวันอังคาร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำการประท้วง ได้ตอกย้ำเสียงเรียกร้อง "การปฏิวัติประชาชน" เพื่อจัดตั้งสภาประชาชนของพวกรอยัลลิสต์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

ไทม์ได้ชี้ถึงความดีเด่นดังของประเทศไทยหลายประการ เช่น  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ไปเยือนปีละหลายล้านคน, เป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับต้นของโลก, มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประชาธิปไตยของไทยก็เป็นแบบอย่างให้แก่เพื่อนบ้านในพม่า, ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม

แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในผู้ปฏิบัติในด้านระบอบประชาธิปไตยที่แย่ที่สุด พวกคนเสื้อเหลืองนับหมื่นกำลังเดินขบวนทั่วประเทศ แต่การเรียกร้องให้จัดตั้งสภาของพวกรอยัลลิสต์นั้น ยากที่จะเรียกว่าเป็นการปฏิวัติประชาชน

อำนาจประชาชนได้แสดงออกเป็นที่ประจักษ์แล้วโดยผู้ออกเสียงเลือกตั้ง 15 ล้านคน ที่ได้โหวตเลือกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยของเธอเมื่อปี 2554 พรรคการเมืองต่างๆที่ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกโค่นอำนาจโดยกองทัพเมื่อปี 2549 ได้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงข้างมากอย่างล้นหลามตลอด 5 ครั้งที่ผ่านมา

แน่นอน มหาเศรษฐีโทรคมนาคมผู้นี้ มีบาดแผลหลายอย่าง เช่น การทำธุรกิจของเขาในอดีต, สงครามปราบปรามยาเสพติดเมื่อปี 2546, การบงการการชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่น่าประหลาดใจที่พรรคฝ่ายค้านไม่ได้โจมตีเขาด้วยเรื่องเหล่านี้

พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งครั้งหลังสุดเมื่อปี 2535 ฐานเสียงของพรรคคือ พวกนานทุนน้อยในกรุงเทพ พรรคนี้ไม่ได้รับความนิยมในหมู่คนยากจนในภาคอีสาน ซึ่งเป็นที่มั่นของคนเสื้อแดง แต่แทนที่จะสร้างแนวนโยบายเพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงจากคนยากจน พรรคนี้กลับยิ่งผลักไสผู้ออกเสียงเลือกตั้งกลุ่มใหญ่ ด้วยการเรียกร้องเชิญชวนให้พันธมิตรผู้มากอิทธิพล อย่างเช่น กองทัพหรือศาล ให้บ่อนทำลายคู่แข่งของตน

เวลานี้ได้กลายเป็นวงจรไปแล้ว เมื่อประชาชนเลือกพรรคที่ทักษิณสนับสนุนให้เป็นรัฐบาล พวกชนชั้นนำก็จะเข้าโค่นล้ม อาทิ กรณีการรัฐประหารเมื่อปี 2549, กรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อปี 2551 เมื่อประชาชนออกมาประท้วงบนท้องถนนก็เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อ จากนั้น พรรคที่ทักษิณสนับสนุนก็ชนะเลือกตั้งอีก

มีการโจมตีนโยบายต่างๆของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ ซึ่งทั้งสองได้ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายเนื่องจากสั่งปราบปรามคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ขณะเป็นรัฐบาล ก็ได้แพ้มติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดี

หลายคนเคยหวังว่า  ความขัดแย้งของคนต่างสีเสื้อจะยุติลงหลังจากเหตุการณ์น่าสลดเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ซึ่งคนเสื้อแดงได้ประท้วงการโค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่นายสุเทพกำลังเรียกร้องอยู่ในเวลานี้

น่าเสียใจที่สัญญาณทุกอย่างล้วนชี้ว่า เหตุการณ์กลับกำลังจะบานปลายยิ่งขึ้น


วันเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวาคม กำลังใกล้เข้ามา เบนจามิน ซาแว็กกี ที่ปรึกษากฏหมายอาวุโสประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของคณะกรรมการนักกฎหมายระหว่างประเทศ บอกว่า นายสุเทพไม่ต้องการทำลายบรรยากาศของวันมหามงคลนี้ ดังนั้น เขาจะเร่งยกระดับการชุมนุม ด้วยความหวังว่าทหารจะทำรัฐประหาร หรือประกาศกฎอัยการศึกเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะถึงวันหยุดสำคัญนี้

นิตยสารระดับโลก "ไฟแนนเชียลไทส์" ด่าพรรคประชาธิปัตย์เละ! "สภาประชาชนไร้สาระ อยากยึดกระทรวง ไปชนะเลือกตั้งให้ได้ก่อน"

ไฟแนนเชียลไทมส์ อัดม็อบนกหวีด ตั้งสภาประชาชน ปัญญาอ่อน หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ วิจารณ์พรรคฝ่ายค้านในไทยว่า ทำผิดมากกว่าฝ่ายรัฐบาล จวกข้อเรียกร้องจัดตั้งสภาประชาชนไร้สาระ เหน็บถ้าอยากยึดกระทรวง ต้องชนะเลือกตั้งให้ได้ก่อน

ไฟแนนเชียลไทมส์ หนังสือพิมพ์แนวเศรษฐกิจระดับโลก ฉบับประจำวันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ได้แสดงความเห็นในบทบรรณาธิการ เรื่อง "ความยุ่งยากของประเทศไทย ฝ่ายค้านควรเลิกยึดกระทรวง" ระบุว่า ประเทศไทยได้หวนกลับสู่การแบ่งขั้วทางการเมืองอีกครั้งหลังสร่างซามาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ความขัดแย้งรอบนี้ได้ถูกจุดชนวนด้วยเหตุของความพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งฝ่ายต่อต้านรัฐบาลโจมตีว่ามุ่งเป้าที่จะล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การประท้วงที่เกิดขึ้นตามมา ยังคงไม่ยอมเลิกรา แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวได้ถูกคว่ำไปแล้ว หนังสือพิมพ์ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอนฉบับนี้ กล่าวถึงคนสองฝ่ายที่กำลังขัดแย้งกันว่า เข้าทำนอง "ไม่มีใครดีไปกว่าใคร" เมื่อสามปีก่อน ผู้สนับสนุนทักษิณออกมาประท้วงบนท้องถนน คราวนี้เป็นฝ่ายคนเสื้อเหลือง ข้อกล่าวหาในเรื่องคอรัปชั่นและความไร้น้ำยาของรัฐบาลชุดปัจจุบัน นับว่ารับฟังได้ เช่น โครงการรับจำนำข้าว แต่ข้อกล่าวหาเหล่านี้ก็เป็นจริงสำหรับรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ เช่นเดียวกัน แม้กระนั้น พรรคฝ่ายค้านทำผิดมากกว่ารัฐบาล ข้อเสนอของแกนนำการประท้วง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ว่า ให้รัฐบาลพ้นจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางแก่การจัดตั้งสภาประชาชน นับเป็นเรื่องไร้เหตุผล เป็นข้อเสนอที่สะท้อนว่า กลุ่มอำนาจเก่าในประเทศไทย ยังคงไม่เรียนรู้ที่จะยอมรับผลการเลือกตั้ง รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ใช้ความอดกลั้นอย่างเหมาะสม ไม่มีการลั่นกระสุนเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน เธอควรจะยึดมั่นในแนวทางนี้ต่อไป นับเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายผู้ประท้วง ที่จะยุติการเข้ายึดครองกระทรวงต่างๆโดยผิดกฎหมาย พวกเขาได้แสดงออกซึ่งความคิดเห็นของตนแล้ว และควรถอนตัวออกไปในทันที "หากพวกเขาต้องการยึดครองอาคารที่ทำการรัฐบาลในอนาคต พวกเขาต้องผ่านเงื่อนไขประการหนึ่งให้ได้เสียก่อน นั่นคือ ชนะเลือกตั้ง


" บทบรรณาธิการของไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุ. ที่มา : Financial Times http://news.voicetv.co.th/thailand/89513.html

ภาพชุดม็อบประชาธิปัตย์จัดเด็กอาชีวะ บุกพังงาน "อนาคตไทย 2020" สงขลา ผู้เข้าชมงานเผ่นกระเจิง















"พรรคเพื่อไทย" แถลงการณ์ 7 ข้อปมวิกฤติการเมือง อัด ม็อบประชาธิปัตย์ต้องยุติ


วันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 (go6TV) - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้แถลงการณ์ถึงกรณีการชุมนุมทางการเมือง โดยมีเนื้อหาสำคัญว่า "จากที่มีการชุมนุมทางการเมือง เป็นการชุมนุมที่มีการละเมิดกฎหมาย และมีการยึดสถานที่ราชการ ซึ่งไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยได้แถลงว่า

1. พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้แกนนำผู้ชุมนุม และผู้ชุมนุมที่ยึดสถานที่ราชการซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายและหลักนิติธรรม ให้ออกจากอาคารและสถานที่ราชการ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐและข้าราชการสามารถให้บริหารประชาชนอย่างต่อเนื่อง

2. พรรคเพื่อไทยสนับสนุนท่าทีของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการเปิดพื้นที่ร่วมพูดคุยระหว่างฝ่ายต่างๆ เพื่อแก้ความขัดแย้งทางการเมืองโดยสันติวิธี

3. พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยและสนับสนุนรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลผู้ที่มาชุมนุมอย่างละมุนละม่อม สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

4. เนื่องจากแกนนำผู้ชุมนุมเป็นสมาชิกคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชวน หลีกภัย และพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยดำเนินการให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำผู้ชุมนุม ยุติการยึดสถานที่ราชการโดยพลัน

5. พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณมิตรประเทศและเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ที่แสดงท่าทีว่าควรยุติข้อขัดแย้งทางการเมืองโดยการพูดคุยกันอย่างสันติวิธี ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นด้วย

6. พรรคเพื่อไทยขอเรียนชี้แจงว่า การที่ผู้ชุมนุมหรือพรรคประชาธิปัตย์ได้ใส่ร้ายรัฐบาลว่าขาดความชอบธรรม เพราะไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญนั้น พรรคขอชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทย"ไม่เห็นด้วย"กับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยประเด็นที่มาของ ส.ว. ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่จะรับคดีไว้พิจารณาและวินิจฉัยเช่นนั้น ซึ่งเป็นการประกาศว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับและพิจารณาคดีนี้เป็นการเฉพาะเจาะจง และมิใช่เป็นการประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญเป็นการทั่วไป


และ 7. พรรคเพื่อไทยเห็นว่าข้อเรียกร้องของหัวหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมที่จะตั้งสภาประชาชน ไม่อาจทำได้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 50 พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการชุมนุมโดยสงบ เป็นการใช้เสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมในลักษณะที่ฝ่าฝืนกฎหมายและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการยึดสถานที่ราชการ ซึ่งเสมือนเป็นการใช้ประเทศและคนไทยเป็นตัวประกัน ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับระบอบประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมในบ้านเมืองที่เป็นรากฐานการปกครองประเทศที่ดีและเป็นหลักประกันสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานของประชาชนทุกคน

รวบ 2 โจ๋ระยำ ใช้มีดสปาต้าฟันตำรวจ ปจ. ชุด คฝ.ระยอง ได้รับบาดเจ็บ

29 พฤศจิกายน 2556 go6TV  -  เวลาประมาณ 22.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้าย 2 คนใช้อาวุธมีดสปาต้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ บริเวณสะพานเทพหัสดินทร์ ใกล้แยกพิชัย แล้วหลบหนี โดยทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้เป็นเป็นหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ ส.ต.อ.ภานุพงศ์ เภารอด ผบ.หมู่(ป.)สภ.ปลวกแดง ประจำ หมู่ 3 ม.ว. 2 ร้อน คฝ.1 ภ.จว.ระยอง   ส.ต.อ.เอกราช  ไพยรัตน์ ผบ.หมู่(ป.) สภ.ปากน้ำประแสร์ ประจำหมู่ 2 มว. 2 ร้อย คฝ.1 ภ.จว.ระยอง และ ส.ต.อ.ธนะบดี ประดิษฐ์ ผบ.หมู่(ป.)สภ.สำนักทอง ประจำหมู่ 4 มว. 3 ร้อย คฝ.1 ภ.จว.ระยอง เดินทางกลับจากไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ เซเวนอีเวฟเว่น ถนนพิชัย เพื่อไปยังที่พักกำลังร้อย คฝ.ภ.จว.ระยอง ซึ่งอยู่ที่พรรคชาติไทยพัฒนา แยกขัติยานี มาถึงบริเวณเชิงสะพานเทพหัสดินทร์ ได้มี นายวิสูตร นาคบุญมา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 13 ต.พระนอน อ.เมืองนครสวรรค์ จว.นครสวรรค์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟสีน้ำเงินค้นหมายเลขทะเบียน ขจธ กำแพงเพชร 743 มีนาย ภาณุ ศิลาเงิน อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228/1 หมู่ที่ 11 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จว.กำแพงเพชร ซ้อนท้าย ขับขี่มาจอดบนสะพานเทพหัสดินทร์ จากนั้น นายภาณุ ได้ชักมีดสปาต้า ที่พกมาวิ่งเข้าฟัน ส.ต.อ.ภานุพงศ์ โดยมีนายวิสูตร ลงจากรถมาลุมทำร้าย ส.ต.อ.ภาณุพงศ์ โดย ส.ต.อภาณุพงศ์ และ ส.ต.อ.เอกราช ได้ช่วยกันต่อสู้จนแย้งอาวุธมีดสปาต้า และรถจักรยานยนต์ คันดังกล่าวไว้ได้ โดย นายวิสูตร และ นายภาณุ วิ่งหลบหนีไป แต่ ส.ต.อ.เอกราช ได้รับบาดเจ็บ เป็นบาดแผลถลอก และขีดข่วนตามแขน นิ้วมือ และหัวเข่า


ต่อมาเมื่อ พ.ต.อ.นพดล ศรสำราญ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง ผู้ควบคุมร้อย คฝ.1ภ.จว.ระยอง ได้รับรายงานเหตุจึงนำ ส.ต.อ.ภาณุพงศ์ กับพวกมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต และ ฝ่ายสืบสวน สน.ดุสิต ฝ่ายสือสวน สน.สามเสน ได้ร่วมติดตาม จับกุมตัว นายวิสูตร และ นายภาณุ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกาย พกพาอาวุธมีดฯ  ในเขตพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง และ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี




ด่วน! กลุ่มคนเสื้อแดง ถูกม็อบนกหวีดดักทำร้ายบริเวณ สนามราชมังคลาฯ


29 พฤศจิกายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้มีการแชร์และส่งต่อภาพเหตุการณ์ ระบุว่า "เกิดเหตุหน้าประตูปากทางสนามราชมังคลาฯ ฝั่งตรงข้ามซอยราม 65 เหตุจาก กลุ่มวัยรุ่นม๊อบนกหวีดในซอย 53 (พกอาวุธ) ดักทำร้ายเสื้อแดงอยู่ปากซอย ราม 53 มาอุ้มการ์ด นปช. ไปคนนึงแล้วการ์ดดิ้นหลุดออกมาได้ ก็เกิดเหตุปะทะ กลุ่มนกหวีดได้ถอยเข้าไป ยั่วยุอยู่ในซอย 53 ตำรวจพยายามห้ามไม่ให้มวลชนเสื้อแดงเข้าไปปะทะ กลุ่มม็อบนกหวีดหน้าสนามราชมังคลา" 

สถานการณ์ล่าสุด การ์ดรักษาความปลอดภัยของกลุมคนเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน โดยถูกท่อนเหล็กฟาด ทำให้ไหล่หลุด




ภาพถ่ายโดย เรดโพลล์

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แพทย์ รพ.ตำรวจโวย! "ม็อบประชาธิปัตย์" ตัดไฟขณะผ่าตัดคนไข้ จนต้องยกเลิกการผ่าตัด


จากกรณีที่ม็อบประชาธิปัตย์ ตัดไฟสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนส่งผลกระทบถึงโรงพยาบาลตำรวจนั้น ล่าสุด ตำรวจนายแพทย์ท่านหนึ่ง ผู้ใช้ไอดี Sompob Ruxasagulwong ซึ่งคุณหมอท่านนี้เล่าให้ฟังถึงวินาทีไฟดับ ขณะที่กำลังจะลงมือผ่าตัดผู้ป่วยท่านหนึ่งว่า 

ชุมนุมแบบอวิหิงสา แล้วตัดไฟโรงพยาบาล

"ผมมีคนไข้คนหนึ่งมีข้อเท้าหัก โดยทั่วไปคนไข้แบบนี้เป็นภาวะเร่งด่วนแบบหนึ่ง เพราะถ้าปล่อยเนิ่นนานจนมันบวม ก็คืออีกหนึ่งสัปดาห์ มันถึงจะพร้อมจะทำอีกครั้ง

วันนี้ผมต้องยกเลิกผ่าตัดคนไข้รายนี้ ซึ่งเป็นแบบที่ไม่สามารถรักษาด้วยการใส่เฝือกได้ เพื่อไฟสำรองจะได้เอาไปใช้กับที่เร่งด่วนกว่า แล้วถ้าทำผ่าตัดจริงก็ไม่รู้ไฟจะดับเมื่อไร

อวิหิงสาบ้านพ่อใครครับ เขาตัดไฟโรงพยาบาลกัน!

"พานทองแท้" จี้ ประชาธิปัตย์ ชดใช้ค่าเสียหาย เหตุก่อม็อบป่วนเมือง

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 (go6TV) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพถ่ายพร้อมข้อความลงเฟสบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra โดยมีเนื้อหาดังนี้



ผู้ที่ได้รับความเสียหาย จากการชุมนุมป่วนเมืองในครั้งนี้ ควรส่งบิลไปฟ้องร้องเก็บเงิน ที่พรรคประชาธิปัตย์ครับ

ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งทางกระทรวงท่องเที่ยวฯแจ้งว่า เสียหายไปแล้วกว่าหมื่นล้านบาท จากการที่นักท่องเที่ยว เขาอยากมาเที่ยว "สยามเมืองยิ้ม" ไม่ใด้อยากมา "สยามเมืองม็อบ"ครับ จึงได้ยกเลิกจองโรงแรม และยกเลิกตั๋วเครื่องบินมาไทย จำนวนร่วม 3แสนคน สร้างความเสียหายไปแล้วร่วม 15,000ล้านบาท

โรงแรม, ร้านค้า,ธุรกิจขนส่ง, สายการบิน, สถานที่ท่องเที่ยว, พัทยา-ภูเก็ต-สมุย-เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ ฝันหวานเตรียมตัวรับ Hi-Season ของปีนี้ ที่คาดว่านักท่องเที่ยวจะสูงสุดเป็นประวัติการ ถูกยกเลิกทริป ธุรกิจเจ๊งฉิบหายกันหมดแล้วคร๊าบบบ พี่น้องผู้รักชาติ-รักแผ่นดิน คร๊าบบบบ..!!

"ม็อบประชาธิป่วน" โดยสส.ประชาธิปัตย์ ยังยืนยันกันอยู่ปาวๆว่า คนส่วนใหญ่ที่มาชุมนุม เป็นคนที่รักชาติ-รักแผ่นดิน ไม่ใช่สาวกของพรรคประชาธิปัตย์..!!

ปรากฏว่า.....วันก่อนแขกรับเชิญบนเวที หลุดปากพูดว่า ต้องเอาคนกลางมาบริหารประเทศ โดยไม่ให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล เท่านั้นแหละครับ...โดนเป่านกหวีดไล่ลงจากเวที เกือบโดนรุมประชาฑัณฑ์ การ์ดต้องออกมากันตัวอุ้มกลับบ้านไป..!!

คนรักชาติรักแผ่นดินทำไมเถื่อนอย่างนี้ และทำไมอยากให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จนตัวสั่นออกนอกหน้า กันอย่างนี้ละคร๊าบบบ...พี่-น้องงงง...??

ในเมื่อ ณ วันนี้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ทั้งองคาพยพของ"ม็อบประชาธิป่วน" อันประกอบด้วย
คนนำม็อบ...ก็มาจากพรรคประชาธิปัตย์
คนมาร่วมม็อบ...ก็เชียร์พรรคประชาธิปัตย์
ทีวีช่องที่ถ่ายทอด...ก็เป็นทีวีทีบริหารโดยผู้สมัคร สส.ของพรรคประชาธิปัตย์
หากการชุมนุมครั้งนี้ สามารถโค่นล้มรัฐบาลได้...ผลประโยชน์ก็ตกอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์

ดังนั้นหากประเทศชาติเสียหาย จากการชุมนุมครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ครับ..!!

ม็อบครั้งอื่นๆ ที่ทั้งปิดสนามบินจนเศรษฐกิจพังย่อยยับ ปิดทำเนียบจนข้าวของเสียหาย ถุงยางใช้แล้วนับร้อยถุงอุดตันเต็มท่อระบายน้ำทำเนียบ ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นสร้างความเสียหายให้กับ ภาคธุรกิจเอกชนของประเทศไทย เป็นหมื่นเป็นแสนล้าน คนนำม็อบไม่ได้มาจากนักการเมือง ระดับผู้บริหารพรรคเก่าแก่ของไทย ชัดเจนเท่าครั้งนี้ครับ

พรรคการเมือง เมื่อทำความเสียหายอะไรไว้กับประเทศชาติบ้านเมือง หรือทำความเสียหายให้กับธุรกิจภาคเอกชน ทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนตัวเอง ก็ควรแสดงความรับผิดชอบครับ อย่างน้อยก็ "คืนกำไร สู่สังคม" จากผลงานชิ้นโบว์ดำทั้งหลาย ที่ตัวเองเคยทำไว้ในอดีตมั่ง อย่าให้คนเขาตราหน้าว่า

ระบอบสุเทพฯ และระบอบอภิสิทธิ์ฯ เมื่อได้เป็นรัฐบาล ประชาชนจำได้แค่...
สปก.4-01, เขาแพง, ปรส., ปลากระป๋องเน่า, นมโรงเรียนบูด, สวาปาล์ม, 396โรงพักเข็มแข็ง, ชุมชนพอเพียง และไข่ชั่งกิโลฯ

ระบอบสุเทพฯ และระบอบอภิสิทธิ์ฯ เมื่อเป็นฝ่ายค้าน ทำเป็นแค่...
ขอพระราชทาน นายกฯมาตรา7, ยุทหารให้ปฏิวัติ, เรียกร้องรัฐบาลแห่งชาติ, ปลุกม็อบป่วนเมือง


ไม่ฟังเสียงประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ และม็อบประชาธิป่วน ก็ควรฟังเสียงอาชูฯ พรรคฯร่วมฝ่ายค้านบ้างก็ยังดีครับ