Go6TV (วันที่ 8
ตุลาคม 2555) ดร.นิติภูมิ นวรัตน์
แสดงความเห็นกรณีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า
การต่อสู้ดังกล่าวเป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มพ่อค้านายทุนระดับชาติ
ที่เคยได้รับการอุ้มชูผลประโยชน์มาตลอด แต่วันนี้ นโยบายจำนำข้าว
ได้เปลี่ยนมาให้ประโยชน์กับ “ชาวนา” ผู้ปลูกข้าวเป็นครั้งแรก จึงเกิดการ “ปะทะกันทางชนชั้น”
ที่สมควรต้องทำความเข้าใจและติดตาม โดยมีรายละเอียดข้อความดังนี้
ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ |
“จำนำข้าว
การต่อสู้ทางชนชั้นในไทย”
มีคนถามผมถึงความเห็นส่วนตัวกรณีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน
ผมบอกว่าผมเห็นด้วย ผู้ที่ถามตาเขียวต่อว่าว่า คุณไม่นึกถึงว่าประเทศของเราจะตกต่ำ
ส่งออกข้าวได้น้อยลง แต่ก่อนเคยเป็นเจ้าส่งออกข้าวเบอร์หนึ่งของโลก
ตอนนี้ลำดับลดหดถอยลงมาเหลือแค่เป็นลำดับ 3
ของโลกแล้ว ผมเรียนว่า
กรุณาอย่าสับสนระหว่างเรื่องคุณภาพกับปริมาณ
ความขัดแย้งที่เป็นประเด็นในสังคมไทยเรื่องจำนำข้าวนี่เป็นประเด็นของการต่อสู้ทางชนชั้นนะครับ
เป็นเรื่องที่ชนชั้นนายทุนใหญ่ นายทุนนายหน้า
และนายทุนขุนนาง ทนไม่ได้ ที่รัฐหันไปให้ประโยชน์แก่ชนชั้นชาวนา เพราะตั้งแต่ไหนแต่ใดมา
นายทุนขุนนางซึ่งอาศัยอำนาจรัฐบาลมาผูกขาดการค้า กุมกิจการสินค้าเข้าสินค้าออก
และควบคุมอุตสาหกรรม สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้ผู้คนชนชั้นของตนเองแต่ฝ่ายเดียว
ไม่เคยมีรัฐบาลไหนแลเหลียวชาวนาพวกต่างๆ ไม่ว่าจะชาวนารวย ชาวนากลาง ชาวนาจน
หรือแม้แต่ชาวนารับจ้าง
วันดีคืนดี
มีรัฐบาลเพื่อไทยที่เห็นใจชาวนาและชนชั้นกรรมาชีพ หันมาใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่
พร้อมกับมุ่งมั่นตั้งใจให้สถานะของผู้คนชนชั้นที่ถูกกดขี่ขูดรีดดีขึ้น พวกนายทุนใหญ่ย่อมทนไม่ไหว
ส่งสัญญาณให้มีการปฏิวัติรัฐประหารและทำลายรัฐบาลที่เห็นใจชนชั้นที่ถูกกดขี่ขูดรีดนั้น
โชคยังดีที่คนผู้โดนปฏิวัติรัฐประหารเป็นพวกสู้ไม่ถอย ค่อยๆ ทยอยกลับมาสู่อำนาจรัฐ
เมื่อได้อำนาจคืนมาแล้ว
ก็เจือจุนดูแลผู้คนชนชั้นผู้ที่ถูกกดขี่ขูดรีดเหมือนสมัยก่อนปฏิวัติ
วิธีการปฏิวัติใช้ไม่ได้ผล ฝ่ายเจ้าที่ดิน
นายทุนขุนนาง นายทุน นายหน้า ฯลฯ
ที่เคยใช้อำนาจรัฐสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับฝ่ายตน ก็วางแผนใหม่ให้นักวิชาการและสื่อมวลชน
ดาหน้าออกมาถล่มรัฐบาลแทนทหาร เพราะหากปล่อยให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้
ฝ่ายของตนจะตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบไปอีกนานแสนนาน และที่เสียหายมากที่สุด
ฝ่ายของตนอาจจะสูญสิ้นอำนาจวาสนาในประเทศไปเลยทีเดียว
ละครที่ท่านเห็นเล่นกันอยู่บนเวทีนั้น โดยแท้ที่จริง เป็นละครเรื่องเก่า ที่ถูกนำมาเล่า
ถูกนำมาแสดงกันแล้วในมากมายหลายประเทศ
เป็นเรื่องที่ฝ่ายอำนาจเดิมต้องออกมาสกัดชาวนาที่ขณะนี้กำลังกลายเป็นประชาชนของชาติก้าวหน้า
หรือเป็นมวลชนปฏิวัติ อิทธิพลของสื่อสารมวลชนเสรี
ทำให้ชาวนาเหล่านี้มีความคิดทางการเมืองประชาธิปไตยแท้จริง
มีสติปัญญาที่จะพัฒนาพวกตนขึ้นเป็นมวลชนชาวนาจัดตั้งที่ศึกษาจริง ทำงานจริง
และต่อสู้จริง สิ่งต่างๆ อย่างนี้นี่แหละครับ ที่ทำให้ฝ่ายนายทุนนายหน้า
และนายทุนขุนนาง แขยงแขยงขน
เพราะแม้ฝ่ายตนจะใช้กำลังทหารเข้าประหัตประหารแล้วหลายครั้ง ทว่า
ชาวนาเหล่านี้ยังยืนอยู่ได้ในสังคม
ประวัติศาสตร์ของหลายชาติรัฐ
ความสำเร็จในการล้มคว่ำอำนาจเดิมเริ่มมาจากชาวนา เพราะชาวนาเป็นกำลังหลวง
ชาวนาเป็นอู่ข้าว อู่น้ำ เป็นกองพลาธิการที่ใหญ่ที่สุดของการปฏิวัติ
ชาวนามีปริมณฑลกว้างขวางที่สุด เป็นเงื่อนไขที่ทหารของนายทุนนายหน้า
และนายทุนขุนนางกำจัดไม่ได้ เพราะชาวนาอยู่กระจัดพลัดพรายในชนบท ไม่รวมศูนย์
หากชาวนามุ่งมั่น บั้นปลายท้ายที่สุดของการต่อสู้ ชาวนาก็สามารถประสบชัยชนะ
วันนี้
จึงมีเสียงโอดโอยโหยหวนของนักวิชาการและสื่อสารมวลชนที่บากหน้าออกมาเป็นตัวแทนของทุนผูกขาดที่เคยกุมกลไกของรัฐมาชั่วนาตาปี
ผู้อ่านท่านลองหลับตาจินตนาการ
หรือลองลากปากกาเชื่อมโยงผู้คนที่ออกมาต่อต้านดูเถิด
แต่ละท่านเชื่อมโยงกับทุนอุตสาหกรรมที่ผนวกบวกกับทุนธนาคาร
ซึ่งสองทุนนี่รวมกันเป็นทุนขุนคลังขนาดใหญ่ทั้งนั้น
ถ้าจะให้ราชอาณาจักรไทยไปรอด
ผู้ที่กุมอำนาจรัฐต้องใส่ใจในความเป็นอยู่ของปัญญาชน นักเรียน นักศึกษาวัยหนุ่มสาว
ต้องให้โอกาสพ่อค้าย่อยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน (พ่อค้าย่อยที่ตั้งร้านเล็กๆ
ไม่จ้างลูกจ้าง หรือถ้าจ้างก็จ้างเพียงจำนวนน้อย)
รัฐต้องทุ่มเทพัฒนาศักยภาพของหัตถกร (พวกที่มีปัจจัยการผลิตของตนเอง ไม่มีลูกจ้าง
หรือถ้ามี ก็มีเพียงลูกศิษย์ฝึกงาน ท่านเหล่านี้มีสถานะเท่ากับชาวนากลาง
ซึ่งมีที่ดิน มีเครื่องมือการผลิตและทุนหมุนเวียน แต่ใช้แรงงานตนเอง และมีฐานะอยู่ในระดับพอกินพอใช้)
อีกพวกหนึ่งที่รัฐพึงต้องให้การสนับสนุนอย่างมาก ก็คือ พนักงานผู้น้อย
ทั้งพนักงานผู้น้อยในองค์การของรัฐบาล สมาคมอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม
ที่ดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการขายแรงงานทางสมองหรือเทคนิค
ไทยเป็นราชอาณาจักรที่มีสถานะทางการเมืองที่แปลก
รัฐบาลมาจากการสนับสนุนของผู้คนชนชั้นที่ถูกกดขี่ขูดรีด
แต่รัฐบาลดันยอมให้ในประเทศยังมีอำนาจของนายทุนนายหน้า และนายทุนขุนนาง
ยังต้องต่อสู้กันอีกหลายยกครับ
เรื่องจำนำข้าวนี่เป็นการต่อสู้ระดับเบเบี้เท่านั้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น