
1. ตามแหล่งข่าวความเป็นจริง
ทราบว่าผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้ขอยืมหนังสือพิมพ์ 1
ฉบับจากผู้สื่อข่าวชาวกัมพูชาเพื่อนำไปศึกษาเกี่ยวกับชีวประวัติของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ
หลังจากนั้น
ผู้สื่อข่าวไทยคนดังกล่าวได้เริ่มต้นรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไปของพระราชพิธีฯ
ในขณะนั้น
ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับสมุดบันทึกและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนบนพื้นเพื่อทำการรายงานข่าว
หลังจากนั้น
ในช่วงกลางวันได้มีข่าวรูปพระบรมฉายาลักษณ์ปรากฏใต้เท้าของผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวเผยแพร่ทาง
เฟซบุ๊ก
หลังจากที่ได้รับข่าวที่เผยแพร่ทาง เฟซบุ๊กนี้
ที่อาจกระทบจิตใจประชาชนกัมพูชาและอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น
รวมทั้งโดยกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองประเทศ
ผู้สื่อข่าวไทยคนดังกล่าวมีความกังวลและหวาดกลัวอย่างมาก
และได้เดินทางไปกราบขอพระราชทานอภัยโทษต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ
ที่บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวังโดยทันที
2. เมื่อ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา เมื่อเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีชัย และนายมงคล เจริญ รองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทย
ได้เดินทางไปคุกเข่ากราบขอพระราชทานอภัยโทษและขอโทษต่อประชาชนกัมพูชาเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนโรดมสีหนุ
ที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า น.ส.ฐปณีย์ฯ
และผู้แทนสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของไทย
ได้แสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
และได้ทำการขออภัยโทษต่อรัฐบาลและประชาชนกัมพูชา
และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสอง
เกี่ยวกับปัญหาที่อ่อนไหวนี้ เมื่อ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย
ได้โทรศัพท์ถึงนาย ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
แสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุที่มิได้เกิดจากความตั้งใจนี้
และผู้นำของประเทศทั้งสองได้ทำความเข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วระหว่างวันที่ 16-17 ต.ค. ที่ผ่านมา
โฆษกกองการข่าวและโต้ตอบเร็วของสำนักนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
ประชาชนกัมพูชาที่อยู่ในช่วงเศร้าเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนโรดมสีหนุฯ
จะมีความเข้าใจต่อเหตุการณ์ความเป็นจริง
และหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่อาจเกิดจากการยุยงส่งเสริมของผู้ไม่ประสงค์ดี
(ผู้มีอคติ) ที่ประสงค์จะสร้างความไม่สงบในสังคม
และสร้างความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ตลอดจนการสร้างความเป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ
เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเมืองของคนบางกลุ่ม
เพื่อหลอกลวงความเห็นของสาธารณชนและทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนและรัฐบาลของกัมพูชาและไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น