วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์พิเศษ สำนักข่าว CNN กรณีการให้ความช่วยเหลือค้นหาเครื่องบินมาเลเซีย และสถานการณ์การเมืองในประเทศ


วันที่ 11 มีนาคม 2557 (go6TV) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ในรายการ "EXCLUSIVE: Thailand Prime Minster Yingluck Shinawatra on missing airplane, domestic protests" ถึงการชุมนุมประท้วงที่เกิดจากกรณีของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า นับจากที่ยังไม่ได้ยุบสภาฯ ทุกฝ่ายได้มีการแถลงเจตนารมณ์แล้วว่าจะไม่หยิบยกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาอีก แต่ผู้ชุมนุมก็ยังไม่เลิกประท้วง มีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงยุบสภา เพื่อคืนอำนาจ ให้ปชช.ตัดสิน แต่พบว่าเมื่อมีการยุบสภา ผู้ชุมนุมมีการเรียกร้องต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งข้อเรียกร้องนั้นเป็นข้อเรียกร้องที่นอกเหนือบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และบางข้อนั้นไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย จึงเป็นการยากที่รัฐบาลจะสามารถปฏิบัติตามได้ แต่เราหวังว่าทุกหน่วยจะช่วยกันทำให้กลไกของระบอบประชาธิปไตยกลับเข้าสู่ระบบโดยการเลือกตั้ง นั่นคือเสียงที่จะเป็นเสียงประชามติจากประชาชนว่าประชาชนมีความเห็นอย่างไร เพราะตามกลไกระบอบประชาธิปไตย การเลือกตั้งก็เป็นวิถีทางที่ถูกต้อง และเป็นวิถีทางที่ทุกคนยอมรับว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยอย่างไร
ต่อข้อถามว่าก่ อนมาดำรงตำแหน่ง นายกฯเป็นนักธุรกิจมาก่อน และไม่มีประสบการณ์ด้านการเมือง หลายคนจึงเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเป็นายกรัฐมนตรีที่สามารถบริหารประเทศอยู่สองปีกว่า ถ้าถามว่าตนไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง และทุกคนมามีอิทธิพลนั้น ตนเชื่อว่าตัวเองไม่สามารถผ่านพ้นวิกฤตต่างๆมาได้ใน 2 ปีแรก แม้ตนอาจไม่ใช่นักการเมือง แต่เชื่อว่าประชาชนที่เลือกตนมาต้องการให้ตนเล่นการเมือง และประชาชนต้องการให้ตนใช้ความรู้ความสามารถที่ได้สั่งสมจากการบริหารธุรกิจ แต่ความเข้าใจในความเป็นประชาชน เพราะตนเป็นคนที่เกิดจากต่างจังหวัด ใช้ความรู้ความสามารถนี้จนได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และจะสังเกตเห็นว่าจากวันแรกที่เข้ามาบริหารประเทศ จะพบว่ามีวิกฤตการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ถ้าตนต้องพึ่งพากับทุกคน หรือแม้กระทั่งกับพี่ชายตนก็ไม่เชื่อว่าจะสามารถผ่าน และฟันฝ่าวิกฤตต่างๆมาได้ถึง 2 ปีกว่า
เมื่อถามว่าเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการชุมนุมอย่างมาก ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า จากที่มีการชุมนุมมา อาจจะสร้างความกังวลใจให้กับนักลงทุน และนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงการชุมนุมได้ผ่านไปประมาณสามเดือนแล้ว และรัฐบาลก็สามารถรักษาความสงบ และไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรง นี่เป็นสิ่งสำคัญ และเราใช้ความอดทน อดกลั้น ให้เจ้าหน้าที่ดูแลเพื่อไม่ให้เกิดเความรุนแรง รักษาความสงบ ทั้งนี้ผลกระทบในส่วนของนักท่องเที่ยวก็จะมีผลกระทบบ้างโดยเฉพาะในพื้นที่ของ กทม. แต่ถ้าดูสถิติจะพบว่านักท่องเที่ยวหลายชาติยังเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่ยังเป็นจุดสนใจของนักลงทุน และนักท่องเที่ยว และเราก็เชื่อว่า การที่เราพยายามรักษาความสงบ นักท่องเที่ยวก็จะมีความสบายใจในระยะยาว ในส่วนของการลงทุน อาจทำให้มีความกังวลใจ แต่เชื่อมั่นว่า ถ้าทุกคนให้ความเชื่อมั่นในประเทศไทย เราจะฝ่าฟันวิกฤตการณ์ต่างๆได้ และขอให้เชื่อมั่นว่า เราจะพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆด้วยสันติวิธี ประเทศไทยเองยังคงเป็นจุดศูนย์กลางสู่อาเซียน ด้วยจุดยุทธศาสตร์ที่เราอยู่ศูนย์กลาง ถ้าเราช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น เราก็จะสามารถกลับมาได้ และในหลายๆส่วนของนักลงทุนนั้นก็ให้ความร่วมมือ และเราขอเรียกร้องว่าเราไม่อยากเห็นการชุมนุมที่ยืดเยื้อต่อไป ในส่วนของรัฐบาลก็จะพยายามที่จะเปิดช่องทางต่างๆเพื่อให้กลับเข้าสู่ระบบ และเป็นไปอย่างสันติต่อไป
เมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีการปฎิวัติรัฐประหารของทหาร นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนการปฎิวัติรัฐประหารในอดีตที่ผ่านมานั้น เป็นบทเรียนที่เพียงพอให้กับทุกคนว่าการปฎิวัติรัฐประหารไม่ได้ทำให้ปัญหาในประเทศไทยคลี่คลายลงได้ กลับเป็นผลที่จะซ้ำเติมประเทศไทยได้ ดิฉันเชื่อว่าถ้าเรารักษาความสงบ ไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรง การปฎิวัติรัฐประหารก็จะไม่เกิดขึ้นในไทย ในวันนี้ โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว หลายๆประเทศจะเห็นว่า รัฐประหารไม่ใช่คำตอบ นานาประเทศก็จะไม่ปล่อยให้ประเทศไทยเข้าสู่การปฎิวัติรัฐประหาร

เมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีมีการกล่าวว่ามีความต้องการแบ่งแยกประเทศ นายกรัฐมนตรีสนับสนุนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนต้องขอเรียนว่าตนไม่ยอมให้ใครมาแยกดินแดนประเทศไทย ประเทศไทยต้องเป็นหนึ่ง เราต้องร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อให้ประเทศไทยเป็นหนึ่ง แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้มองในหลายมิติ ความรู้สึกที่น้อยเนื้อต่ำใจ ความเสมอภาค ความยุติธรรมนั้นต้องเป็นพื้นฐานที่จะต้องดูแลให้ทุกคนในสังคมไทย ได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน ถ้าเรามีการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน ความรู้สึกต่างๆก็จะไม่เกิดขึ้น

A: Prime Minister Yingluck Shinawatra, thank you very much for joining me.
PM: It’s a pleasure.
A: Let me start by asking you about the investigation into the crash of the Malaysia Airlines flight. The passports were stolen in Thailand. Do you know whether the people using those passports were Thai nationals?
PM: Initially, we do not know about the nationality yet, but we gave order for the police to investigate the passport users because this is very important to Thailand to give full cooperation to Interpol in the investigation of the passport users. We are now following this. At the same time, the Royal Thai Air Force has been assigned together with the Navy to search for the disappearing airplane in conjunction with the Malaysian Government.
A: Have you, on your side, been able to detect anything in your search for the debris?
PM: At the moment, we have not yet discovered anything. Our army has just got there last night as a result of the request from the Prime Minister of Malaysia. So, we have sent the air force and the navy for this. They have just got there last night. So we have to wait for the response. The Malaysian side has divided the area of the water for us to help searching. If there are further news, then, they will report back to me.
A: Does Thailand cooperate with Interpol? Could people have got on a plane in Thailand under false passports?
PM: As for the cooperation, we gave our full support to this about the passports or Interpol. As for this, we need time to investigate how this happened. We need to take care of the safety of the passengers, and especially the cooperation with the Interpol. Now I have given the Commander-In-Chief of the Police to investigate the fact of this case.
A: Prime Minister, let me turn to the political upheavals going on in your country right now. Now you, yourself, face the judicial inquiry and judicial appearance because of the scandal over the failed rice subsidies. Do you think you are going to survive that because your government obviously mishandled that and you cannot pay now the farmers for the rice that you bought up? Can you survive that, Prime Minister?
PM: May I divide it into 2 parts. First, about the rice subsidy which is the project done according to the policy of the Government which has been explained to the public in the Parliament in order to help the farmers. We found that the low income people mostly are the rice farmers. As for the National Anti-Corruption Commission, when they want to investigate me for the rice subsidy program, may I say that this was the allegation against me, and there has been no investigation of me yet. There is not appropriate procedure to give evidences to the Commission so that they can decide the fact. The Ministry of Finance will have duty to pay money for this program. So, this is a separate part.
A: The latest protest in Thailand started after you tried to bring the Amnesty Bill into law. Your opponents believe it was wrong and many believe this was the way to rehabilitate your own brother, the former Prime Minister Thaksin Shinawatra. Just so that I am cleared, is the Amnesty Bill dead?
PM: We have declared the purpose of this. We will not return the Amnesty legislation again, but the demonstrators still not stopped their protest. They carried on protesting continuously. So, the Government decided to dissolve the Parliament to return the power to the people so that the people can decide and select a government to run the country. But after the dissolution of the Parliament, it was found that the demonstrators still carried on demanding. Their demands are unconstitutional and undemocratic which my Government cannot accept.
A: You, yourself, Prime Minister, have never held an elected position before becoming a Prime Minister. You are in business. Many people believe that your brother, Mr. Thaksin Shinawatra, is still calling the shots, pulling the strings from his self-imposed exile in Dubai. Is that true?
PM: May I say that I am a Prime Minister who are able to run the country for over 2 years. I believe that people who have selected me would not want me just to be in politics and doing business. But I understand their feelings as I was born upcountry, so I have used my ability to win the people’s trusts. You can see from the first day I came into power, we had faced serious flood crisis which had never happened before in our history. If I had to rely on other people or my brother, I believe I would not have solved the problem.
A: Obviously, Prime Minister, the economy is the massive issue, and the protests have clearly disrupted tourism. And also USD15 billion worth of foreign and Thai investment is on hold because of the upheavals and the political instability.
PM: I must admit that at the beginning of the demonstration, this may cause a concern for tourists and investors who came to Thailand. As the Government, we are able to keep peace and avoid serious incidents. This is very important. I believe that we can solve the problem in Thailand with peace. Today, I would like you to see that Thailand is a hub of ASEAN countries with our strategy to be a center player. We are open to all opportunities in order that everyone can come back to normality.
A: Obviously, the military had its share of coups. Are you worried that the military could intervene?
PM: As for the military coups in the past, I believe it is a sufficient lesson for us to realize that the coup is not the way to solve the problem of Thailand, but it has made it worse. I believe if we keep peace and avoid serious incidents, the military coups cannot take place in Thailand. Today, our world has changed. Many countries can see that rebellious actions are not the solution. And other countries would not let Thailand enter into the coups mode.
A: You mentioned that you have come from the North, which is the rural heartland of Thailand and it is where your family’s political base is. There has been talking on the part of wanting to secede (separate) the North into another country, into another independent state. Do you support that?
PM: First thing, may I say that I would not let anyone divide Thailand. Thailand must be the whole nation. We must gain cooperation from all parties in order for Thailand to be one nation. But we have to look at it in a different angle that people may feel neglected and unequal. The basis of equal society is that everyone should be looked after equally. If we look after all the people equally, an ill feeling would not occur in Thai society.
A: Prime Minsiter Yingluck Shinawatra, thank you very much indeed for joining me today.

PM: Thank you.

ไม่มีความคิดเห็น: