)
เมื่อเวลา
14.30 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช
หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7 พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์
รองผบกน.7 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ
ผกก.สส.บก.น.7 ฝ่ายสืบสวนกก.สส.บก.น.2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันประชุมคลี่คลายคดีชายนิรนามถูกยิงเสียชีวิตและทิ้งศพไว้บริเวณ ถนนกำแพงเพชร
6 ท้องที่สน.ประชาชื่น และคดีศพชายนิรนามถูกทำร้ายยัดศพใส่กระสอบป่านโยนทิ้งในแม่น้ำเจ้าพระยา
ใกล้โรงเเรมริเวอร์ไซด์ ท้องที่สน.บวรมงคล ซึ่ง 2 คดี แต่งกายคล้ายกลุ่มผู้ชุมนุม
กปปส. รวมถึงคดีของนายยืม นิลหล้า
รปภ.ซึ่งถูกการ์ดกปปส.ทำร้ายร่างกายและนำศพไปโยนทิ้งที่แม่น้ำบางปะกง
แต่รอดชีวิตมาได้ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ฐิติราช
กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่เกิดขึ้น 3 คดี
ขณะนี้คืบหน้าไปพอสมควร ฝ่ายสืบสวนมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงคนร้ายได้
ทั้งภาพวงจรปิดและข้อมูลจากพลเมืองดีที่นำมามอบให้ตำรวจ
ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมดมีแผนประทุษกรรมที่คล้ายกัน
แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด
และเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองขณะนี้หรือไม่
ต้องขอเวลาให้ฝ่ายสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน
รวมถึงให้ภาพที่ฝ่ายสืบสวนได้ข้อมูลมาเป็นตัวเดินเรื่องและสาวไปถึงตัวกลุ่มคนร้าย
ด้านพ.ต.อ.เมธี
กล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของนครบาล คดีแรก
เป็นคดีพบศพชายนิรนามถูกยิงเสียชีวิตและนำศพมาทิ้งไว้ที่ริมถนนกำแพงเพชร6
สวมเสื้อสัญลักษณ์คล้ายผู้ชุมนุม กปปส.
ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้ข้อมูลว่าชายคนดังกล่าวคือ นายบุญเที่ยง คำอิ่ม อายุ 41 ปี
เป็นชาว จ.ชัยภูมิ คดีที่ 2
คดีชายนิรนามถูกฆ่ายัดกระสอบและนำศพมาโยนทิ้งในแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยศพลอยไปติดใกล้โรงเเรมริเวอร์ไซด์
พบว่าสวมเสื้อสัญลักษณ์คล้ายกับผู้ชุมนุมกปปส.เช่นกัน
แต่ขณะนี้ยังไม่พิสูจน์ทราบไม่ได้ว่าเป็นใคร มีเพียงบุคคลที่หน้าตาคล้าย
เมื่อตรวจสอบไปพบว่ายังมีชีวิตอยู่ และคดีที่ 3 เป็นคดี
รปภ.ถูกทำร้ายร่างกายและยัดใส่กระสอบไปโยนทิ้งแม่น้ำบางปะกง
โชคดีมีพลเมืองดีผ่านมาเห็น จึงรอดชีวิต
พ.ต.อ.เมธี
กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 คดีมีความคล้ายคลึงกันหลายประการ 1.ถูกทำร้ายร่างกายเหมือนกัน
2.ถูกมัดมือมัดเท้า 3.เสื้อที่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บใส่ ไม่ใช่เสื้อของผู้ตาย
แต่เป็นเสื้อที่คนร้ายนำมาใส่ให้ ซึ่งนายยืม รปภ.ที่รอดชีวิต
เป็นคนให้ปากคำกับตำรวจว่าหลังจากถูกทำร้ายก็ถูกถอดเสื้อออกไปและมีการนำเสื้ออีกตัวมาใส่ให้
4.มีสายข้อมือลายธงชาติสวมอยู่ที่ข้อมือ และสายนกหวีดคล้องที่คอ
5.จากการตรวจสอบประวัติของนายบุญเที่ยงและนายยืมพบว่าเคยเป็นการ์ดของนปช.6.อำพรางศพโดยการนำไปโยนทิ้งน้ำในช่วงกลางดึกและสุดท้ายเหยื่อทั้งสามรายเป็นเพศชายเหมือนกันซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อมโยงกันของ
3 คดี
“นอกจากนี้ยังมีภาพสำคัญที่จะนำมาเป็นเบาะแส
เป็นภาพชายกลุ่มหนึ่งขับรถต้องสงสัย นำศพไปโยนทิ้งบนสะพานพระราม 8
ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีการปิดสะพานพระราม 8 ทั้งหัวและท้าย ไม่ให้รถยนต์ขึ้นไป
เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครทำความสะอาด ก่อนจะเปิดให้ใช้สะพาน
เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นไปปิดถนนบนสะพานพระราม 8
สำหรับรถคันดังกล่าวเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
มีชายสวมไอ้โม่ง 4 คนนั่งอยู่ในรถ โดยนั่งด้านหน้า 2 คน และหลัง 2 คน
ขับมุ่งหน้ามาจากแยก จปร. จากนั้นได้เข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ กทม.
ก่อนจะขับรถยนต์ขึ้นไปบนสะพานมุ่งหน้าฝั่งธนบุรี
แต่เมื่อถึงกลางสะพานได้กลับรถคล้ายจะลงสะพาน
แต่ปรากฏว่าคนขับได้จอดรถพร้อมกับโยนวัตถุบางอย่างลงมาบนขอบสะพานซึ่งเป็นทางเดิน
จากนั้นมีชาย 2 คนลงมาช่วยกันยกวัตถุดังกล่าวโยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา
ก่อนจะขับรถลงสะพานและยิงปืนขึ้นฟ้า 3 นัด แล้วหลบหนีไปทางแยกจปร.
พล.ต.ต.ฐิติราช
กล่าวอีกว่า ทั้งหมดนี้เป็นการรวบรวมแผนประทุษกรรมของคนร้าย
เพื่อใช้ประกอบเป็นแนวทางการสืบสวน ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นจุดทิ้งอำพรางศพ
ไม่ใช่จุดที่ทำร้ายร่างกาย และมีการเคลื่อนย้ายศพ
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างพิสูจน์ทราบ
เพราะจุดเกิดเหตุจะเป็นตัวที่บอกรายละเอียดได้
ผู้เสียชีวิตถูกทำลายหลักฐานความเป็นตัวตนเดิมและนำเอาเสื้อผ้าอุปกรณ์ต่างๆ
มาสวมให้ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากลุ่มคนร้ายมีวัตถุประสงค์อะไรที่ทำแบบนี้
ต้องขอเวลาตำรวจทำงานสักระยะ ส่วนรถกระบะคันดังกล่าว ตำรวจพอมีเบาะแสบ้างแล้วแต่ยังเปิดเผยไม่ได้
เมื่อถามว่าผู้ตายและผู้บาดเจ็บทั้ง
3 คดีนี้มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชุมนุมและเกี่ยวกับกลุ่มของนายอิสสระ สมชัย
แกนนำกปปส.หรือไม่ พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้
ต้องรอให้มีหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้ ให้ภาพและหลักฐานเป็นตัวเดินเรื่องไปสู่การจับกุมดีกว่า
เมื่อถามว่าขณะนี้ได้เบาะแสหลักฐานดีเอ็นเอผู้ที่ทำร้ายทั้ง
3 รายแล้วหรือไม่ พล.ต.ต.ฐิติราชกล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล
ต่อข้อว่าถามว่าได้มีการตรวจสอบรถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ สีฟ้า
ว่าติดสัญลักษณ์ใดหรือไม่ พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ
โดยต้องการให้พี่น้องประชาชนที่มีข้อมูลเบาะแสช่วยส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนต่อไปด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น