วันที่ 24 กรกฏาคม 2556 (go6TV) นายสมาน
ศรีงาม แกนนำสภาประชาชนแห่งชาติ ปลุกระดมคนในวันอาทิตย์นี้ ปกป้อง “ลูกน้องผู้ต้องหา”
ที่ทำร้ายเจ้าพนักงาน
นายสมาน ศรีงาม แกนนำสภาประชาชน
ซึ่งตกที่นั่งลำบากจากกรณีที่มีลูกน้องของกลุ่มสภาประชาชน
ได้ลงมือทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานตำรวจเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2556
ที่หน้าหอศิลป์ กรุงเทพมหานคร และตำรวจที่โดนทำร้ายร่างกาย
ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีพร้อมประกาศให้ผู้ต้องสงสัย 2 คน(ตามภาพ)
มามอบตัวแล้วนั้น
ล่าสุด ในเพจเฟสบุ้คนายสมาน ศรีงาม
ได้เขียนข้อความปลุกระดมว่าการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันอาทิต “เป็นแผนการเผ็ดการรัฐสภาที่ต้องการทำลายพลังบริสุทธิ์ของประชาชน”
โดยมีข้อความทั้งหมดดังนี้
“ระวัง...แผนทำลายพลังบริสุทธิ์ของประชาชนในรูปหน้ากากขาว...!!!
ตำรวจได้ออกหมายเรียกการ์ด 2
ท่านนี้ให้ไปพบรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน
ในข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจในวันชุมนุมหน้ากากขาวที่หอศิลป์ กทม. วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2556
ที่ผ่านมา...ซึ่งน่าจะเป็นแผนการของเผด็จการรัฐสภาที่ต้องการทำลายพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่ต่อสู้อย่างสันติอหิงสาโดยสงบปราศจากอาวุธเพื่อยกเลิกระบอบเผด็จการรัฐสภา
สร้างประชาธิปไตย ดังมีข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้...
1.
ตำรวจได้นำเอารถตู้มาปิดทางขึ้นลานหอศิลป์ กทม.ไว้ทุกๆด้าน
เพื่อขัดขวางไม่ให้ประชาชนนำรถเครื่องเสียงขึ้นไปบนลานหอศิลป์ ซึ่งไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
6 ครั้ง ที่ไม่เคยมีการกระทำเช่นนี้มาก่อนเลย
ตำรวจทำเพื่ออะไร ? เพื่อขัดขวางการทำกิจกรรมของประชาชน
หรือวางกับดักยั่วยุประชาชนให้เกิดการปะทะกัน ทำให้เห็นว่าเป็นความรุนแรง
และกล่าวหาประชาชนว่าทำร้ายตำรวจ
2.
ประชาชนไปขอร้องให้ตำรวจขับรถออกไปเพื่อเปิดทางให้ประชาชนนำรถเครื่องเสียงขึ้นไปบนลานหอศิลป์ฯ
แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือใดๆทั้งสิ้น
ประชาชนจึงช่วยกันยกรถด้วยมือเปล่าเพื่อย้ายออกจากทางขึ้นหอศิลป์
แต่ยกไม่ไหว...ประชาชนจึงนำเอากระสอบทรายมาวางที่ริมฟุตบาทเพื่อให้รถเครื่องเสียงขึ้นไปบนลานฯ...แต่ปรากฏว่าทางตำรวจก็เดินแถวเข้ามาขวางไม่ให้รถเครื่องเสียงขึ้นไปบนลานฯ...ตำรวจเข้ามาขวางทำไม่
? ต้องการไม่ให้รถเครื่องเสียงขึ้นบนลานฯ
หรือเป็นแผนการที่ต้องการให้มีการปะทะกัน
เมื่อมีการเจรจาและผลักดันกันไปมาเกิดการกระทบกระทั่งกันนิดหน่อยตามธรรมดา
แล้วตำรวจก็กล่าวหาว่าประชาชนกระทำความรุนแรงทำร้ายตำรวจ
ซึ่งต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาในอดีตที่กระทบกระทั่งกันแรงกว่านี้ก็ไม่เห็นว่าอะไรกัน
ไม่เห็นไปแจ้งความ ทั้งฝ่ายตำรวจและประชาชน นี่ทำไมจึงแจ้งความ...?
3.
ฝ่ายประชาชนก็ช่วยกันห้ามปรามการกระทบกระทั่งกันไม่ให้มีการปะทะกันรุนแรงใช้สันติวิธีอหิงสา
และก็ห้ามปรามสำเร็จ มีการพูดคุยกันทั้ง 2
ฝ่ายเรียบร้อยดี...โดยทางคณะธรรมยาตราฯ
ก็ช่วยกันห้ามปรามและเจรจาอย่างเต็มที่จนสถานการณ์เรียบร้อยดี
โดยได้เข้าไปเจรจากับทั้งตำรวจชั้นผู้น้อยและผู้บังคับบัญชาต่อหน้าประชาชนและสื่อมวลชน
แล้วก็จบกันลงด้วยดีด้วยความเข้าใจอันดีต่อกัน
แต่ทำไมจึงมีการแจ้งความกล่าวหาประชาชนว่าเป็นฝ่ายทำร้ายตำรวจอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย...นอกจากเหตุผลทางการเมืองที่..."ต้องการจะทำลายพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่ต่อสู้เอาชนะเผด็จการรัฐสภา
สร้างประชาธิปไตย"...???
หมายเหตุ...มีการยืนยันว่า..."ตำรวจใช้โล่ห์กระแทกเท้าของการ์ดอย่างรุนแรงหลายครั้งจึงเกิดปากเสียงและการกระทบกระทั่งกันขึ้น"
คณะธรรมยาตราฯ และสมาชิกของสภาประชาชนแห่งชาติ และประชาชนหน้ากากขาว
และกลุ่มต่างๆ ก็เห็นความจริงของสถานการณ์ และบันทึกคลิปวีดีโอไว้ รวมทั้งกล้องของทีวีช่องต่างๆ
เป็นหลักฐานประจักษพยานได้อย่างดีว่าประชาชนไม่ได้ไปหาเรื่องตำรวจแต่อย่างใดทั้งสิ้น
และประชาชนไม่ได้เป็นผู้กระทำความรุนแรง แต่ประชาชนถูกกระทำต่างหาก
ดังนั้น
ประชาชนจะต้องออกมาร่วมกันแสดงพลังอันบริสุทธิ์ของประชาชนที่ยิ่งใหญ่เพื่อรุกกลับต่อสู้เอาชนะต่อระบอบเผด็จการรัฐสภา
สร้างประชาธิปไตยอย่างสันติวิธีตามวิถีแห่งพุทธอหิสาธรรม...ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในวันอาทิตย์ที่
28 กรกฎาคมนี้ ณ
ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และหอศิลป์ อันเป็นการแสดงประชามติแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง
เพราะพลังประชาชนเป็นพลังที่บริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ที่สุดไม่มีใครทำลายได้อย่างสิ้นเชิง...!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น