วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เผย "ประชาธิปัตย์" ยุคนี้ตกต่ำสุด ชอบตีรวนทำสภาฯล่าช้า วอนแสดงความจริงใจเข้าร่วมสภาปฏิรูป
31 สิงหาคม 2556 go6TV - นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศปรับปรุงโครงสร้างพรรคใหม่ว่า นับเป็นเรื่องที่พอจะเป็นที่พึ่งที่หวังให้ประชาชนได้บ้างที่คิดจะปรับปรุงพรรคให้ดีขึ้น แม้จะเป็นความพยายามหลังจากสื่อระดับโลกวิเคราะห์พรรคเสียหาย ซึ่งคงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดระเบียบใหม่ เพราะวันนี้ค่อนข้างเลอะเทอะ หัวหน้าพรรคไปทาง ลูกพรรคไปทาง สิ่งแรกที่ต้องทบทวนอย่างเร่งด่วนคือจุดยืนของพรรค ระบบรัฐสภาที่เคยบอกว่าเชื่อมั่นแต่การกระทำสวนทาง ทำตัวเป็นเผด็จการเสียงข้างน้อยป่วนสภาฯ นายกรัฐมนตรีชวนคนมาแก้ปัญหาประเทศ แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์กลับชวนคนมาสร้างปัญหาเพิ่มให้ประเทศ เดินหน้ารวบรวมม็อบเล่นการเมืองข้างถนน ประสานทั้งกองทัพประชาชน กองทัพธรรม กลุ่มพันธมิตรฯ เด็กอาชีวะ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า "พรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ตกต่ำที่สุดแล้ว พรรคเพื่อไทยอยากจะเห็นแนวทางใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนด้วยวิธีที่สร้างสรรค์มากกว่ามุ่งเล่นการเมือง 2 ระบบคือ ระบบรัฐสภากับระบบฟุตบาท เห็นได้จากการอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. ซึ่งใช้เวลาเป็นสัปดาห์แล้ว แต่ยังไปไม่ถึงไหน เพราะวางงานตีรวนร่วมกับกลุ่ม 40 ส.ว.บางคน พยายามยื้อไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 3 มาตราใช้เวลา 17 ชั่วโมง พรรคเพื่อไทยขณะนั้นเป็นเสียงข้างน้อยไม่เห็นด้วยแต่ก็สู้กันตามกระบวนการ อภิปรายควรแก่เหตุ แต่พรรคประชาธิปัตย์วันนี้ ยื้อและเตะถ่วงให้ล่าช้า ใช้แท็คติกประท้วงตัวเอง ประท้วงซ้อนประท้วง ทำให้ระบบรัฐสภาเสียหาย"
ป้ายกำกับ:
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
หยุ่นหนาว! สนธิ ประกาศตั้ง ม.เอเอสทีวี แข่ง ม.เนชั่น อ้างจะอุทิศชีวิตที่เหลือให้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้นอกจากเอเอสทีวีผู้จัดการแล้วยังมีสื่อใน "เครือเนชั่น" ที่จัดการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาเช่นกันภายใต้ชื่อ "มหาวิทยาลัยเนชั่น" ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ "มหาวิทยาลัยเอเอสทีวี" และเป็นที่น่าสังเกตว่าภาพคลิปวีดิโอทั้งหมดของข่าวดังกล่าวในเว็บไซท์ผู้จัดการออนไลน์ถูกแสดงเป็นสีดำซึ่งเป็นลางว่าใกล้ถึงเวลาเอเอสทีวีจอดับ
ป้ายกำกับ:
นายสนธิ ลิ้มทองกุล
DNN เผยรายงานพิเศษ : เปิดขุนพลเบื้องหลังม๊อบยางปิดถนน
31 สิงหาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยูทูป DNN Thailand ของ "สำนักข่าวดีเอ็นเอ็น" ได้เผยแพร่ "รายงานพิเศษ : เปิดขุนพลเบื้องหลังม๊อบยางปิดถนน" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชียอัพเดท ความยาว 5.06นาที โดยมีเนื้อหาดังนี้
ล่วงเข้าสู่วันที่ 7 แล้ว สำหรับยุทธการปิดถนนเพชรเกษม 41 แยกควนหนองหงส์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช จับเกษตรกรชาวสวนยางพารา สวนปาล์ม และพี่น้องชาวปักษ์ใต้ตอนล่างเป็นตัวประกัน แลกกับการกดดันรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เข้ามาช่วยดูแลแก้ปัญหาราคายางและปาล์มน้ำมันตกต่ำ
สามวันแรกของการชุมนุมปิดถนนเพชรเกษม 41 ช่วงแยกควนหนองหงส์ อาจพออนุมานได้ว่า เป็นความเดือดร้อนจริงๆ ของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง ที่ต้องรับผลกระทบจากราคาผลผลิตตกต่ำ
มีการตั้งเวทีปราศรัย มีการรวมตัวชุมนุม ก่อนจะเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายหลายสิบคน อันเนื่องมาจากมวลชนจัดตั้งกลุ่มหนึ่งที่เชื่อมโยงกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่แทรกซึมเข้ามาสร้างสถานการณ์กดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จนกระทั่งมีตัวแทนจากรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่รับมอบหมายจากรัฐบาล เป็นตัวแทนเจรจาหาทางออกร่วมกับแกนนำกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพารา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะรับประกันราคายางขั้นต่ำกิโลกรัมละ 80 บาท และจะนำไปสู่กระบวนการแก้ไขปัญหา ตามขั้นตอนบริหารทั่วไป
เรื่องราวเสมือนหนึ่งดูว่าจะคลี่คลาย...หลังคณะก่อการชุมนุมชุดแรกเก็บฉากลาโรง …..
แต่การณ์กลับกลายเป็นหนังคนละม้วน เพราะจากวันถัดมา...จนถึงวันนี้ มีการยกระดับการชุมนุม ซ้ำเติมชะตากรรมพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง สวนปาล์มน้ำมัน ให้ต้องกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาสาธารณะชน
เมื่อผู้ชุมนุมส่วนหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นเกษตรกรสวนยางในอำเภอชะอวดและจังหวัดใกล้เคียง ได้เคลื่อนขบวนไปปิดถนนเส้นทางสายรอง ที่ใช้เป็นทางเลี่ยงถนนเพชรเกษม 41 ช่วงแยกควนหนองหงส์ พร้อมกับปิดเส้นทางรถไฟสายใต้ ณ บ้านควนเงิน ตำบลบ้านตูล อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
เป็นหนังอีกม้วนที่เกิดขึ้นมา พร้อมๆ กับการปรากฏเงาร่างของ... “สหายช่วง” หรือนายธงชัย สุวรรณวิหค แห่งสันนิบาติประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย คนสนิทของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้บริหารสำนักข่าว T-News
ประสานกับการปรากฏตัวของอดีตขุนโจรผู้เลื่องนาม “เจิม เส้งเอียด” แห่งเทือกเขาบรรทัด และความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักของอดีตนักรบประชาชนยุคสงครามความคิด เขตงาน 3 จังหวัด คือ พัทลุง นครศรีธรรมราช และตรัง
ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็คือกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยตัวปลอม ที่เคยชุมนุมร่วมกับม๊อบนายไชยวัฒน์ สินธุ์สุวงศ์ ที่ท้องสนามหลวงในนาม “คอมมิวนิสต์ปกป้องสถาบัน”
สอดประสานอย่างลงตัวกับปรากฏการณ์สื่อเลือกข้าง “สนธิญาณ ทีนิวส์” และ “สายล่อฟ้า ประชาธิปัตย์” ที่กลายเป็นสื่อเจ้าภาพ รับสัมปทานถ่ายทอดสดการชุมนุมเกือบ 24 ชั่วโมง พร้อมทำตัวเป็นสื่อเจ้าเข้าเจ้าของการชุมนุมในขยักที่สองนี้ โดยไม่เกรงใจสื่อท้องถิ่น หรือค่ายสื่ออื่นๆ ...คล้าย ๆ กับม๊อบสวนลุมพินี สาขาควนหนองหงส์ อย่างไร อย่างนั้น
เมื่อภาพมันชัดเจนขนาดนี้ จะให้เชื่อได้อย่างไรว่า การชุมนุมของชาวสวนยางนอกพื้นที่ครั้งนี้ ไม่มีการเมืองเรื่องล้มรัฐบาลอยู่เบื้องหลัง
นี่ยังไม่นับรวมจิ๊กซอว์ ลิ่วล้อ คนข้างกาย นักการเมืองใหญ่เจ้าของพื้นที่ ซึ่งเข้านอก-ออกใน เวทีชุมนุมเป็นว่าเล่น พร้อมเสียงกระซิบแผ่วๆ ว่า เติมเท่าไหร่ก็ต้องเติม/ ขนเท่าไหร่ก็ต้องขน ต้องลากยาวให้ได้ถึงวันที่ 3 กันยายน
ซึ่งเป็น “วันดีเดย์” ชุมนุมใหญ่ทั่วประเทศ ตามยุทธการปิดประเทศ ที่ ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนร่วมเป็นกุนซือวางแผน โดยไม่สนใจชะตากรรมของพี่น้องชาวใต้ ที่ต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากการปิดถนนขึ้น-ลงภาคใต้ ทั้ง ๆ ที่เป็นฐานเสียงของตัวเอง
..ยุทธการล้มรัฐบาล “สมรภูมิควนหนองหงส์” อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ของมวลชนจัดตั้งเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ผลแพ้ชนะอาจยังต้องให้เวลาและความจริงแท้ เป็นเครื่องพิสูจน์
แต่ที่เกิดขึ้นแล้วเป็นแน่แท้คือ...ผลปาล์มตก ขี้ยางไหล ขุนพลจัญไร หลอกต้มคนใต้อีกแล้วครับท่าน...
ป้ายกำกับ:
ม็อบสวนยาง
"อดิศร" โพสต์ FB กลางดึก ตะเพิด "ประชาธิปัตย์" ลาออกไปนำม็อบ
31 สิงหาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.40น. ที่ผ่านมา รองศาสตราจารย์พิเศษ ดร.อดิศร เพียงเกษ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว https://www.facebook.com/adisorn.piengkes โดยมีข้อความดังนี้
"ในสมัยประชุม สส. มีเอกสิทธิ์ มิต้องถูกดำเนินคดี จึงไม่มีปัญหาใดๆ ว่าใครจะออกหมายจับสส. ตำรวจ อัยการ ศาล เข้าใจข้อกฎหมายข้อนี้ดี เพราะฉะน้ัน สส. ปชป. อย่าตีข่าว ท้าทาย ในสิ่งที่มีเอกสิทธิ์ ลาออกสส. สิ เขาจะดำเนินคดีใดๆแก่คนทำผิดกฎหมาย ได้ทั้งหมด หยุดก่อกวน ท้าทาย อย่ามีนิสัยแบบอันธพาล"
"ในสมัยประชุม สส. มีเอกสิทธิ์ มิต้องถูกดำเนินคดี จึงไม่มีปัญหาใดๆ ว่าใครจะออกหมายจับสส. ตำรวจ อัยการ ศาล เข้าใจข้อกฎหมายข้อนี้ดี เพราะฉะน้ัน สส. ปชป. อย่าตีข่าว ท้าทาย ในสิ่งที่มีเอกสิทธิ์ ลาออกสส. สิ เขาจะดำเนินคดีใดๆแก่คนทำผิดกฎหมาย ได้ทั้งหมด หยุดก่อกวน ท้าทาย อย่ามีนิสัยแบบอันธพาล"
ป้ายกำกับ:
อดิศร เพียงเกษ
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ชาวเชียงใหม่แห่วางพวงหรีด สวดส่ง "ประชาธิปัตย์" เป็นอีแอบใน "ม็อบสวนยาง"
30 สิงหาคม 2556 go6TV - ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 200 คน นำโดยนายกฤษณพงษ์ พรมบึงรำ ได้วางพวงหรีดให้ ส.ส.พรรคประชาธิปปัตย์ พร้อมทั้งปราศรัยโจมตีกรณีพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนเกี่ยวข้องกับม็อบชาวสวนยางพาราที่ทำการปิดถนนและปิดเส้นทางรถไฟสายใต้ประท้วง สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเดินทางสัญจรได้ โดยได้ยื่นหนังสือขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งความร้องทุกข์เรียกร้องค่าเสียหายต่อกลุ่มบุคคลที่สร้างความเดือดร้อน พร้อมกันนั้นยังยื่นหนังสือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมายต่อผู้ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้นายสมคิด ลีลอย นายสถานีรถไฟเชียงใหม่ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ และระบุว่าจะส่งหนังสือดังกล่าวให้ผู้บริหาร รฟท. ต่อไป
นายกฤษณพงษ์ พรมบึงรำ กล่าวว่าตามที่ได้มีบุคคลอ้างตัวเป็นเกษตรกรชาวสวนยางพารา ได้ทำการปิดถนนและเส้นทางรถไฟสายใต้ บริเวณแยกบ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จนทำให้รถไฟทั้งขาขึ้นและขาล่องไม่สามารถวิ่งให้บริการประชาชนได้ สร้างความเสียหายทางด้านรายได้ของกิจการรถไฟ จึงอยากให้ รฟท. แจ้งความร้องทุกข์เรียกร้องค่าเสียหายและรายได้ที่สูญไปจากการกระทำของบุคคลเหล่านี้ และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้เพราะการปิดถนน ปิดการรถไฟ เป็นการทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การประมง การขนส่งสินค้า การขนส่งน้ำมัน และอื่น ๆ อีกมากมาย และขอสนับสนุนให้รัฐประกาศใช้กฏหมายพิเศษ ดำเนินการกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เพื่อปกป้องการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่อย่างเต็มกำลัง
อ้างอิง
แดงเชียงใหม่ยื่นรฟท. แจ้งจับม็อบสวนยาง
http://www.dailynews.co.th/thailand/229671
ป้ายกำกับ:
ม็อบสวนยาง
"ยิ่งลักษณ์" นำ "โทนี แบลร์" ปาฐกถาในไทย - ผนึกกำลังสู่อนาคต : เรียนรู้ร่วมกันจากประสบการณ์
30 สิงหาคม 2556 go6TV - นายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะเดินทางถึงประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 2 กันยายน เพื่อร่วมแสดงปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "ผนึกกำลังสู่อนาคต : เรียนรู้ร่วมกันจากประสบการณ์" โดยนายโทนี แบลร์ มีกำหนดพบหารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในช่วงเช้า ก่อนเริ่มการแสดงปาฐกถา
ทั้งนี้เวลา 19.00 น. ของวันที่ 1 กันยายน นายกฯจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำวิทยากรทั้งหมด ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล ส่วนการแสดงปาฐกถาในวันที่ 2 กันยายน ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี จะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือเอ็นบีที เวลา 08.30-12.30 น. และทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ช่อง AM 819, FM 92.5 และ FM 88 เวลา 08.30-17.30 น.
ป้ายกำกับ:
โทนี แบลร์
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ม็อบยางป่วนหนัก หวิดกระทืบกันเองโชว์สื่อ
29 สิงหาคม 2556 go6TV - เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ได้มีผู้ประสานจากฝ่ายม็อบชาวสวนยางว่าจะขอนัดสื่อแถลงข้อเรียกร้องโดยนัดหมายที่วัดควนเงิน ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จึงได้เดินทางไปยังวัดควนเงินเมื่อไปถึงพบนายศักดิ์สฤษฎ์ ศรีประสาท และ นายวัตร ขวัญใจ ผู้ประสานงานชาวสวนยางรายย่อยเป็นผู้แถลงถึงข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม
นายศักดิ์สฤษฎ์ กล่าวว่า "ผมไม่อยากจะให้ใครมาพูดว่าม๊อบชาวสวนยางมีการเมืองอยู่เบื้องหลัง และที่มีนักการเมืองมาให้กำลังใจถือเป็นเรื่องปกติ"
ทั้งนี้หากรัฐบาลมีความจริงใจก็แก้ได้ไม่ยาก และต้องขออภัยผู้ที่เดือดร้อนจากการกระทำของกลุ่มเกษตรกรที่ปิดถนนครั้งนี้ พอมาปิดถนนรัฐบาลก็หันมาสนใจจึงต้องทำอย่างนี้ นายศักดิ์สฤษฎ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามในขณะที่กำลังแถลงข่าวอยู่นั้นได้มีกลุ่มชาวบ้านขับรถจักรยานยนต์และรถยนต์เข้ามาในวัด พร้อมกับตรงดิ่งเข้าไปถามนายศักดิ์สฤษฏ์ ว่าเป็นใครถึงได้มาแถลงข่าว พวกเขาเป็นชาวสวนยางไม่รู้จัก และไม่ได้มอบหมายให้มาแถลงข่าว นายศักดิ์สฤษฏ์ ได้บอกว่าเป็นชาวสวนยางแถวนี้ และพูดในทางที่ดีแก่ชาวสวนยางทั้งนั้น แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้มีการโวยวายกันพักใหญ่หวิดปะทะกัน พร้อมกับเรียกร้องว่าหากจะแถลงต้องไปแถลงที่หน้าเวทีเท่านั้น แต่เมื่อไปยังเวทีของม็อบปรากฏว่ายังไม่สามารถพูดกันรู้เรื่องทำให้ต่างคนต่างหายหน้าไปหมด
ป้ายกำกับ:
ม็อบสวนยาง
"สมาคมสื่อฯ" ต้องตอบ! "แกนนำหน้ากากขาว" ใส่ปลอกแขนสื่อมวลชน ร่วมชุมนุมม็อบสวนยาง กร่างใส่ตำรวจได้อย่างไร?
วันที่ 29 สิงหาคม 2556 (go6TV) ตะลึงแกนนำหน้ากากขาวคนดังและเพื่อน
ใส่ปลอกแขนผู้สื่อข่าวของ “สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์ แห่งประเทศไทย”
กร่างไปทั่วม็อบสวนยาง จนเอาไปเบ่งบนสถานีตำรวจภูธร อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
จากกรณีไปช่วยเหลือผู้ต้องหาหมายเรียกม็อบสวนยาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ไอดีในเฟสบุ๊คว่า “ฟ้า พรทิพา”
ได้เผยแพร่ภาพส่วนตัวหลายภาพ
สำหรับแฟนคลับของเธอนั้นทราบดีว่า เธอเป็นนักเคลื่อนไหวมวลชนในนามกลุ่ม “ประชาชนทนไม่ไหว”
ที่ไปประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐปีกลาย
ตลอดจนพัฒนามาเป็นแกนนำหน้ากากขาวที่จัดชุมนุมที่ CTW
มีสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองใหญ่
และเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบสวนลุมในขณะนี้
ปรากฏว่าล่าสุด เธอเดินทางไปร่วมชุมนุมกับชาวสวนยางที่แยกควนหนองหงส์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และปรากฏภาพเธออยู่ในที่ชุมนุมร่วมกับทีมถ่ายทอดสด
13 สยามไท FMTV และใช้ปลอกแขนสื่อมวลชน
ใส่อยู่ในที่ชุมนุม ล่าสุดเธอและเพื่อนๆ ได้ใส่ปลอกแขนสื่อมวลชนดังกล่าวไปใน
สถานีตำรวจภูธร อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
เพื่อไปช่วยเหลือผู้ต้องหาคดีก่อม็อบปิดถนน
ทั้งหมดนี้มีคำถามว่า “เธอเป็นสื่อมวลชน หรือไม่” หากใช่ เป็นสื่อมวลชนสำนักไหน”
เธอไปยืนถ่ายภาพกับทีมงาน 13 สยามไท ต้องถามว่าทีม 13 สยามไท
เป็นสื่อมวลชนหรือไม่?
และการที่เธอและเพื่อน ใส่ปลอกแขนไปยังที่ต่างๆ ทั้งขับรถเที่ยว
อยู่ในม็อบ ไม่ได้ทำหน้าที่สื่อมวลชน แต่ไปร่วมชุมนุม เธอใส่ปลอกแขนสื่อฯ เหมาะสมหรือไม่
และสมาคมนักข่าวฯ ได้ให้ปลอกแขนเธอไปได้อย่างไร ให้เพราะเหตุผลใด
และสมาคมจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายนี้หรือไม่อย่างไร?
"ณัฐวุฒิ" FB เผย ไทยต้นคิดถนนยางพารา ติงประชาธิปัตย์ลอกงานรัฐบาล
29 สิงหาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซท์ InsideThaiGOV ได้เผยแพร่ ข้อความของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้รัฐบาลกระตุ้นการใช้ยางพาราภายในประเทศ โดยเฉพาะการนำยางพารามาทำถนนลาดยางว่า “ปชป.เรียกร้องขึงขังให้รัฐบาลเอายางพารามาทำถนน...ก็ผมนี่แหละเป็นคนผลักดันเรื่องนี้คนแรก ปชป.เป็นรัฐบาลมากี่รอบกี่ปีไม่เคยเห็นทำ ผมอนุมัติงบไว้ 85 ล้านบาท ไปดูพื้นที่แล้วที่ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีฯ หลังปรับครม.มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เลยยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง งบประมาณเดิมยังอยู่ล่าสุดนายกฯสั่งการให้เร่งเดินหน้าแล้ว ฮั่นแน่ะ! ลอกความคิดเขาแล้วยังมาขู่เขาอีก น่ากลัวเชียว"
จากนั้นนายณัฐวุฒิ ยังโพสต์ข้อความโดยอ้างอิงสกู๊ปข่าวจากเว็บไซด์มติชนออนไลน์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2555 เรื่อง “ถนนนี้-ไม่ธรรมดา ถนน"ยางพารา"แข็งแรงทนทานมากกว่าถนนลาดยางมะตอย” ดังนี้
"ถนนยางพารา" สายแรกของประเทศไทย ที่กำลังพูดถึงกันในขณะนี้ เป็นไอเดีย ของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการยกระดับและกระตุ้นราคายางพาราในประเทศ
วิธีการหนึ่ง คือการใช้ยางพาราแทนยางมะตอย หรือเป็นส่วนผสมหลักในการปูผิวถนน
ณัฐวุฒิเผยว่า จะใช้ถนนหมู่ที่ 2 ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง ตัดผ่านพื้นที่ขององค์การสวนยาง ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ ไปบรรจบถนนสายบ้านคอกช้าง ต.บางขัน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 19 กิโลเมตร นำร่อง
ใช้งบประมาณจากกรมวิชาการเกษตร 85.5 ล้านบาท และขอให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท มาร่วมในขั้นตอนการก่อสร้าง คาดว่าน่าจะก่อสร้างเสร็จภายใน 3-4 เดือน
หลังสร้างถนนเสร็จณัฐวุฒิบอกว่าจะจัดงาน World Rubber Expo บนถนนสายนี้ เพื่อแสดงผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติที่มาจากงานวิจัย และจากผู้ประกอบการ พร้อมเชิญชวนผู้ประกอบการ และนักลงทุนจากทั่วโลกมาร่วมงาน
ตั้งเป้าให้เป็นเวทีเจรจาธุรกิจยางพาราที่มีกลุ่มผู้ประกอบการจากทั่วโลกในประเทศที่เกี่ยวข้องมาพบกัน คาดว่าจะเริ่มจัดงานได้ในปีหน้า
พลันที่ไอเดียถนนยางพาราแพร่ออกไป ก็มีเสียงขานรับจากชาวนครศรีธรรมราช อาทิ สมเกียรติ ชนะศรี ชาว ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง อาชีพรับจ้างกรีดยางพารา เล่าว่า ใช้ถนนสายนี้มานานกว่า 30 ปี รับจ้าง กรีดยางให้กับองค์การสวนยาง
จากวันนั้นถึงวันนี้ถนนสายนี้ยังเหมือนเดิม ลำบากมากเวลาหน้าฝน ลูกๆ ไปโรงเรียนก็ลำบาก ได้ข่าวว่าจะสร้างถนนรู้สึกดีใจ เพราะเท่าที่ทราบ ทางองค์การสวนยางก็ขอรัฐบาลมาหลายสมัยแล้วแต่ไม่เคยได้
ขณะที่ วิรัตน์ เพชรเกลี้ยง พนักงานองค์การสวนยางกรุงหยัน กล่าวว่า อยู่ในพื้นที่นี้มาหลายปี ตั้งแต่เกิด หลับตาเดินรู้เลยว่าเป็นแบบไหน รู้สึกดีใจหากมีการสร้างถนนสายนี้จริงๆ จะทำให้เส้นทางการคมนาคมสะดวกมากยิ่งขึ้น การขนส่งสินค้าทางการเกษตรจะดีขึ้น
คนที่ใช้เส้นทางนี้มีหลากหลายอาชีพ พอฝนตกน้ำท่วมถนนก็จะพังต้องตั้งงบประมาณขึ้นมาซ่อมแซม เมื่อปีที่แล้วน้ำท่วมถนนตั้งงบซ่อมยังไม่แล้วเสร็จน้ำท่วมถนนพังหมดอีก
คือเสียงสะท้อนอยากได้ถนนดีๆ ไว้สัญจรและไม่ต้องซ่อมบ่อยๆ
ถนนยางพาราน่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้
เพราะ "ยุทธ" ผู้รับเหมาทำถนนในภาคใต้มีคำตอบให้ว่า ถนนสายนี้ อาจจะดำเนินการก่อสร้างโดยใช้ยางข้นอัตรา 5% กับยางมะตอยแบบผสมร้อนแล้วนำไปราด
ถนนที่ราดด้วยยางมะตอยผสมยางพารา จะมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าถนนราดยางมะตอยธรรมดาและยังทนต่อการเกิดร่องล้อได้ดีกว่าถนนที่ได้จากการใช้ยางมะตอยปกติ 2.9 เท่า ภาคใต้ดูเหมือนว่าจะมีการทดลองก่อสร้างแล้ว ในถนนสาย อ.หาดใหญ่-อ.เมืองสงขลา
"การราดถนนแบบผสมร้อน ผมได้เข้ารับการอบรมและศึกษาข้อมูลจากสถาบันวิจัยยาง พบว่า ถนนตามมาตรฐานซึ่งมีความหนา 5 หรือ 8 เซนติเมตร ใช้ยางพารา อัตรา 5% ของยางมะตอย จะใช้ปริมาณเนื้อยางแห้ง (ยางพารา) 0.305 กิโลกรัม/ตารางเมตร หรือประมาณ 2,745 กิโลกรัมต่อถนนขนาดสองช่องทางในระยะทาง 1 กิโลเมตร"
"แม้ค่าใช้จ่ายรวมจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 10-17% ตามราคาของยางพารา แต่ความแข็งแรงทนทานของถนนที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น ถือว่าคุ้มค่าการลงทุน คาดว่าจะสามารถช่วยประหยัดงบประมาณภาครัฐในการซ่อมแซมถนนได้ปีละหลายพันล้านบาท"
ยุทธอธิบายถึงความคงทนเชิงวิชาการของยางพาราผสมยางมะตอย
ขณะที่ สุวิทย์ รัตนพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราช ยืนยันจากประสบการณ์จริงว่า ใช้ยางพาราราดถนนหน้าสำนักงาน เพราะแต่ละวันจะมีรถเข้าออกนำยางพาราแผ่นมาขาย พ่อค้ายางก็มารับซื้อ ทั้งยางแผ่น ยางสด
จึงต้องมีถนนที่ทำเป็นพิเศษ เพื่อรองรับน้ำหนักรถทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ได้ การลงทุนทำถนนแบบนี้คุ้มมากๆ เพราะมีความเหนียวแน่น และรองรับน้ำหนักเป็นอย่างดี
"เพราะในน้ำยางสดจะมีน้ำผสมอยู่ด้วย 65% ยางธรรมชาติ มีคุณสมบัติที่ดี คือมีความคงตัวสูง ความยืดหยุ่นดี และทนความล้าดี ดังนั้น การใช้ยางพาราผสมกับยางมะตอยเพื่อใช้ราดถนน สามารถช่วยปรับปรุงคุณสมบัติยางมะตอยให้ดีขึ้นได้ สามารถยืดอายุการใช้งานของถนนได้นานขึ้น" สุวิทย์กล่าว
และยังระบุว่า ในต่างประเทศก็ใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย มาเลเซีย และออสเตรเลีย
ในอนาคตหากมีการใช้ยางพาราผสมยางมะตอยราดถนนเพิ่มมากขึ้น นอกจากทำให้ถนนมีความทนทานมากขึ้นและอายุการใช้งานยาวนานขึ้นแล้ว
ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาถนนได้ค่อนข้างมาก และเป็นแนวทางเพิ่มปริมาณการใช้ยางธรรมชาติภายในประเทศมากขึ้น
นั่นคือความเห็นจากสุวิทย์ เป็นอีกเสียงที่สะท้อนถึงผลดีของการใช้ยางพาราทำถนน
เทคนิคที่จะใช้กับถนนยางพาราสายแรก จะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
นอกจากจะส่งผลต่อราคาและความต้องการใช้ยางแล้ว
เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ใครๆ คงอยากนำรถไปซิ่งสัมผัสด้วยตนเองว่า จะนิ่มนวลแข็งแรงขนาดไหน
จากนั้นนายณัฐวุฒิ ยังโพสต์ข้อความโดยอ้างอิงสกู๊ปข่าวจากเว็บไซด์มติชนออนไลน์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2555 เรื่อง “ถนนนี้-ไม่ธรรมดา ถนน"ยางพารา"แข็งแรงทนทานมากกว่าถนนลาดยางมะตอย” ดังนี้
"ถนนยางพารา" สายแรกของประเทศไทย ที่กำลังพูดถึงกันในขณะนี้ เป็นไอเดีย ของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการยกระดับและกระตุ้นราคายางพาราในประเทศ
วิธีการหนึ่ง คือการใช้ยางพาราแทนยางมะตอย หรือเป็นส่วนผสมหลักในการปูผิวถนน
ณัฐวุฒิเผยว่า จะใช้ถนนหมู่ที่ 2 ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง ตัดผ่านพื้นที่ขององค์การสวนยาง ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ ไปบรรจบถนนสายบ้านคอกช้าง ต.บางขัน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ระยะทาง 19 กิโลเมตร นำร่อง
ใช้งบประมาณจากกรมวิชาการเกษตร 85.5 ล้านบาท และขอให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท มาร่วมในขั้นตอนการก่อสร้าง คาดว่าน่าจะก่อสร้างเสร็จภายใน 3-4 เดือน
หลังสร้างถนนเสร็จณัฐวุฒิบอกว่าจะจัดงาน World Rubber Expo บนถนนสายนี้ เพื่อแสดงผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติที่มาจากงานวิจัย และจากผู้ประกอบการ พร้อมเชิญชวนผู้ประกอบการ และนักลงทุนจากทั่วโลกมาร่วมงาน
ตั้งเป้าให้เป็นเวทีเจรจาธุรกิจยางพาราที่มีกลุ่มผู้ประกอบการจากทั่วโลกในประเทศที่เกี่ยวข้องมาพบกัน คาดว่าจะเริ่มจัดงานได้ในปีหน้า
พลันที่ไอเดียถนนยางพาราแพร่ออกไป ก็มีเสียงขานรับจากชาวนครศรีธรรมราช อาทิ สมเกียรติ ชนะศรี ชาว ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง อาชีพรับจ้างกรีดยางพารา เล่าว่า ใช้ถนนสายนี้มานานกว่า 30 ปี รับจ้าง กรีดยางให้กับองค์การสวนยาง
จากวันนั้นถึงวันนี้ถนนสายนี้ยังเหมือนเดิม ลำบากมากเวลาหน้าฝน ลูกๆ ไปโรงเรียนก็ลำบาก ได้ข่าวว่าจะสร้างถนนรู้สึกดีใจ เพราะเท่าที่ทราบ ทางองค์การสวนยางก็ขอรัฐบาลมาหลายสมัยแล้วแต่ไม่เคยได้
ขณะที่ วิรัตน์ เพชรเกลี้ยง พนักงานองค์การสวนยางกรุงหยัน กล่าวว่า อยู่ในพื้นที่นี้มาหลายปี ตั้งแต่เกิด หลับตาเดินรู้เลยว่าเป็นแบบไหน รู้สึกดีใจหากมีการสร้างถนนสายนี้จริงๆ จะทำให้เส้นทางการคมนาคมสะดวกมากยิ่งขึ้น การขนส่งสินค้าทางการเกษตรจะดีขึ้น
คนที่ใช้เส้นทางนี้มีหลากหลายอาชีพ พอฝนตกน้ำท่วมถนนก็จะพังต้องตั้งงบประมาณขึ้นมาซ่อมแซม เมื่อปีที่แล้วน้ำท่วมถนนตั้งงบซ่อมยังไม่แล้วเสร็จน้ำท่วมถนนพังหมดอีก
คือเสียงสะท้อนอยากได้ถนนดีๆ ไว้สัญจรและไม่ต้องซ่อมบ่อยๆ
ถนนยางพาราน่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้
เพราะ "ยุทธ" ผู้รับเหมาทำถนนในภาคใต้มีคำตอบให้ว่า ถนนสายนี้ อาจจะดำเนินการก่อสร้างโดยใช้ยางข้นอัตรา 5% กับยางมะตอยแบบผสมร้อนแล้วนำไปราด
ถนนที่ราดด้วยยางมะตอยผสมยางพารา จะมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าถนนราดยางมะตอยธรรมดาและยังทนต่อการเกิดร่องล้อได้ดีกว่าถนนที่ได้จากการใช้ยางมะตอยปกติ 2.9 เท่า ภาคใต้ดูเหมือนว่าจะมีการทดลองก่อสร้างแล้ว ในถนนสาย อ.หาดใหญ่-อ.เมืองสงขลา
"การราดถนนแบบผสมร้อน ผมได้เข้ารับการอบรมและศึกษาข้อมูลจากสถาบันวิจัยยาง พบว่า ถนนตามมาตรฐานซึ่งมีความหนา 5 หรือ 8 เซนติเมตร ใช้ยางพารา อัตรา 5% ของยางมะตอย จะใช้ปริมาณเนื้อยางแห้ง (ยางพารา) 0.305 กิโลกรัม/ตารางเมตร หรือประมาณ 2,745 กิโลกรัมต่อถนนขนาดสองช่องทางในระยะทาง 1 กิโลเมตร"
"แม้ค่าใช้จ่ายรวมจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 10-17% ตามราคาของยางพารา แต่ความแข็งแรงทนทานของถนนที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น ถือว่าคุ้มค่าการลงทุน คาดว่าจะสามารถช่วยประหยัดงบประมาณภาครัฐในการซ่อมแซมถนนได้ปีละหลายพันล้านบาท"
ยุทธอธิบายถึงความคงทนเชิงวิชาการของยางพาราผสมยางมะตอย
ขณะที่ สุวิทย์ รัตนพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราช ยืนยันจากประสบการณ์จริงว่า ใช้ยางพาราราดถนนหน้าสำนักงาน เพราะแต่ละวันจะมีรถเข้าออกนำยางพาราแผ่นมาขาย พ่อค้ายางก็มารับซื้อ ทั้งยางแผ่น ยางสด
จึงต้องมีถนนที่ทำเป็นพิเศษ เพื่อรองรับน้ำหนักรถทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ได้ การลงทุนทำถนนแบบนี้คุ้มมากๆ เพราะมีความเหนียวแน่น และรองรับน้ำหนักเป็นอย่างดี
"เพราะในน้ำยางสดจะมีน้ำผสมอยู่ด้วย 65% ยางธรรมชาติ มีคุณสมบัติที่ดี คือมีความคงตัวสูง ความยืดหยุ่นดี และทนความล้าดี ดังนั้น การใช้ยางพาราผสมกับยางมะตอยเพื่อใช้ราดถนน สามารถช่วยปรับปรุงคุณสมบัติยางมะตอยให้ดีขึ้นได้ สามารถยืดอายุการใช้งานของถนนได้นานขึ้น" สุวิทย์กล่าว
และยังระบุว่า ในต่างประเทศก็ใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย มาเลเซีย และออสเตรเลีย
ในอนาคตหากมีการใช้ยางพาราผสมยางมะตอยราดถนนเพิ่มมากขึ้น นอกจากทำให้ถนนมีความทนทานมากขึ้นและอายุการใช้งานยาวนานขึ้นแล้ว
ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาถนนได้ค่อนข้างมาก และเป็นแนวทางเพิ่มปริมาณการใช้ยางธรรมชาติภายในประเทศมากขึ้น
นั่นคือความเห็นจากสุวิทย์ เป็นอีกเสียงที่สะท้อนถึงผลดีของการใช้ยางพาราทำถนน
เทคนิคที่จะใช้กับถนนยางพาราสายแรก จะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
นอกจากจะส่งผลต่อราคาและความต้องการใช้ยางแล้ว
เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ใครๆ คงอยากนำรถไปซิ่งสัมผัสด้วยตนเองว่า จะนิ่มนวลแข็งแรงขนาดไหน
ป้ายกำกับ:
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ,
ม็อบสวนยาง
ด่วน! มือดีแฮกเว็บไซท์โรงพยาบาลศรีธัญญา
29 สิงหาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เว็บไซท์โรงพยาบาลศรีธัญญา http://www.srithanya.go.th ถูกคนร้ายแฮก ขณะนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้ โดยมีข้อความระบุที่หน้าจอว่า ผู้ที่กระทำการดังกล่าว ชื่อ Nightmare เบื้องต้นอยู่ระหว่างสอบสวนว่าผู้กระทำเป็นกลุ่มเดียวกับที่แฮกเว็บไซท์อื่นก่อนหน้านี้หรือไม่
ป้ายกำกับ:
ศรีธัญญา
ชาวสวนยางอิสานไอเดียร์เจ๋ง! หันเพาะผีเสื้อขายรายได้ดี มีเงินใช้
ชาวสวนยาง จ.ศรีสะเกษ หันมาเพาะพันธุ์ผีเสื้อขาย หลังยางพาราราคาตกต่ำ สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวไม่ต่ำกว่าเดือนละ 20,000 บาท
นายคำสิงห์ ทองละมุน เกษตรกรผู้ปลูกสวนยางใน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งหันมาเพาะพันธุ์ผีเสื้อจำหน่าย เล่าว่า เมื่อปี 2555 ประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างหนัก ทำให้ต้องหารายได้เสริมมาเลี้ยงครอบครัว จึงเกิดแนวคิดเพาะเลี้ยงพันธุ์ผีเสื้อ และเริ่มต้นเพาะพันธุ์ เมื่อประมาณต้นปี 2556 โดยเลี้ยงผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ ประกอบด้วย สายพันธุ์ท้องถิ่น สายพันธุ์มะนาว สายพันธุ์เกล็ดมะม่วง สายพันธุ์หางติ่งนาเวง และอื่นๆ รวมประมาณ 20 สายพันธุ์
สำหรับตลาดส่งออก คือ กรุงเทพมหานคร และภูเก็ต โดยขณะนี้ เตรียมจะขยายตลาดส่งออกไปยังเกาะเสม็ด จ.ระยอง รวมทั้งต่างประเทศ ทั้งนี้ ลูกค้าที่สั่งซื้อผีเสื้อส่วนใหญ่ จะนำไปปล่อยบริเวณสวนสาธารณะ หรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ เพื่อเสริมความสวยงาม สามารถสร้างรายได้ ให้กับครอบครัว เดือนละ 20,000-30,000 บาท นับเป็นอาชีพเสริมที่ช่วยให้มีรายได้ในช่วงที่ราคายางพาราตกต่ำเป็นอย่างดี
นายคำสิงห์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่จะหันมาเพาะเลี้ยงพันธุ์ผีเสื้อขาย ควรศึกษาหาความรู้เรื่องให้มากๆ เนื่องจากเป็นอาชีพที่ใช้ต้นทุนสูง และต้องมีใจรัก ชอบศึกษา เรียนรู้เรื่องของสายพันธุ์ผีเสื้อ ทั้งนี้ ในอนาคต จะทำเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ ได้ศึกษาหาความรู้ เพราะผีเสื้อเป็นแมลงที่หาดูได้ยากในปัจจุบันนี้
นายคำสิงห์ ทองละมุน เกษตรกรผู้ปลูกสวนยางใน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งหันมาเพาะพันธุ์ผีเสื้อจำหน่าย เล่าว่า เมื่อปี 2555 ประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างหนัก ทำให้ต้องหารายได้เสริมมาเลี้ยงครอบครัว จึงเกิดแนวคิดเพาะเลี้ยงพันธุ์ผีเสื้อ และเริ่มต้นเพาะพันธุ์ เมื่อประมาณต้นปี 2556 โดยเลี้ยงผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ ประกอบด้วย สายพันธุ์ท้องถิ่น สายพันธุ์มะนาว สายพันธุ์เกล็ดมะม่วง สายพันธุ์หางติ่งนาเวง และอื่นๆ รวมประมาณ 20 สายพันธุ์
สำหรับตลาดส่งออก คือ กรุงเทพมหานคร และภูเก็ต โดยขณะนี้ เตรียมจะขยายตลาดส่งออกไปยังเกาะเสม็ด จ.ระยอง รวมทั้งต่างประเทศ ทั้งนี้ ลูกค้าที่สั่งซื้อผีเสื้อส่วนใหญ่ จะนำไปปล่อยบริเวณสวนสาธารณะ หรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ เพื่อเสริมความสวยงาม สามารถสร้างรายได้ ให้กับครอบครัว เดือนละ 20,000-30,000 บาท นับเป็นอาชีพเสริมที่ช่วยให้มีรายได้ในช่วงที่ราคายางพาราตกต่ำเป็นอย่างดี
นายคำสิงห์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่จะหันมาเพาะเลี้ยงพันธุ์ผีเสื้อขาย ควรศึกษาหาความรู้เรื่องให้มากๆ เนื่องจากเป็นอาชีพที่ใช้ต้นทุนสูง และต้องมีใจรัก ชอบศึกษา เรียนรู้เรื่องของสายพันธุ์ผีเสื้อ ทั้งนี้ ในอนาคต จะทำเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ ได้ศึกษาหาความรู้ เพราะผีเสื้อเป็นแมลงที่หาดูได้ยากในปัจจุบันนี้
ป้ายกำกับ:
ม็อบสวนยาง
เครือข่ายยางพอใจเจรจารัฐ ยืนยันไม่เคลื่อนไหวปิดประเทศ 3 ก.ย.
เครือข่ายชาวสวนยาง ยอมรับผลการเจรจากับรัฐบาลยันไม่เคลื่อนไหวในวันที่ 3 ก.ย. ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมสวนยางภาคใต้เตรียมปิดถนนเพิ่มที่จ.ชุมพร
วันนี้ ( 29 ส.ค. ) นายอดุลย์ โคตรพันธ์ รองประธานเครือข่ายชาวสวนยาง เปิดเผยว่า ตนได้เข้าร่วมในการเจรจาราคายางตกต่ำที่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างตัวแทนชาวสวนยาง 4 ภาค กับตัวแทนรัฐบาล และยินดีรับเงื่อนไขของรัฐบาลคือชดเชยปัจจัยการผลิตตามที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.)เสนอมาซึ่งเป็นการช่วยระยะสั้นใน 7 เดือน โดยใช้งบกลางจำนวน 8 พันล้านบาท ซึ่งรายละเอียดการพูดคุยถือเป็นที่น่าพอใจ
ส่วนกรณีเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศ เตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวชุมนุม ในวันที่ 3 กันยายนนี้ โดยรวมตัวกันปิดถนนสายหลักของทุกภาค โดยนายอดุลย์ยืนยันว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคอีสาน จะไม่ร่วมเคลื่อนไหวปิดถนนเส้นทางหลักในวันที่ 3 กันยายนนี้ อย่างแน่นอน “ วันที่ 3 คาดว่าพวกเราทั้งหมด คงไม่เคลื่อนตัวหรอกครับ เพราะหลักการตอนนี้ถือว่าใช้ได้แล้ว ” นายอดุลย์กล่าวทิ้งท้าย
วันนี้ ( 29 ส.ค. ) นายอดุลย์ โคตรพันธ์ รองประธานเครือข่ายชาวสวนยาง เปิดเผยว่า ตนได้เข้าร่วมในการเจรจาราคายางตกต่ำที่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างตัวแทนชาวสวนยาง 4 ภาค กับตัวแทนรัฐบาล และยินดีรับเงื่อนไขของรัฐบาลคือชดเชยปัจจัยการผลิตตามที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.)เสนอมาซึ่งเป็นการช่วยระยะสั้นใน 7 เดือน โดยใช้งบกลางจำนวน 8 พันล้านบาท ซึ่งรายละเอียดการพูดคุยถือเป็นที่น่าพอใจ
ส่วนกรณีเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศ เตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวชุมนุม ในวันที่ 3 กันยายนนี้ โดยรวมตัวกันปิดถนนสายหลักของทุกภาค โดยนายอดุลย์ยืนยันว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคอีสาน จะไม่ร่วมเคลื่อนไหวปิดถนนเส้นทางหลักในวันที่ 3 กันยายนนี้ อย่างแน่นอน “ วันที่ 3 คาดว่าพวกเราทั้งหมด คงไม่เคลื่อนตัวหรอกครับ เพราะหลักการตอนนี้ถือว่าใช้ได้แล้ว ” นายอดุลย์กล่าวทิ้งท้าย
ป้ายกำกับ:
ม็อบสวนยาง
วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556
"ผอ.โรงเรียนบ้านควนเงิน" ห่วงความรุนแรงม็อบสวนยาง วอนขอรัฐบาลเจรจาอีกครั้ง ยอมรับ "ม็อบนี้คุยยากเหลือเกิน"
วันที่ 28 สิงหาคม 2556 (go6TV) นายประสงค์
นิ่มเรือง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนเงิน ได้เปิดเผยกับโกซิคทีวีถึงสถานการณ์การชุมนุมปิดถนนสัญจรในอำเภอชะอวด จนส่งผลกระทบต่อนักเรียน เพราะไม่สามารถไปโรงเรียนและต้องปิดเรียนมาสองวันแล้ว วอนรัฐบาลเจรจากลุ่มม็อบอีกครั้ง ยอมรับ “ม็อบนี้คุยยากเหลือเกิน”
ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านควนเงิน ได้เปิดเผยกับโกซิค
ถึงเหตุผลที่ต้องปิดการเรียนการสอนในสองวันที่ผ่านมาว่า “โรงเรียนได้ปิดการเรียนการสอนไป 2 วันแล้ว
เนื่องจากการชุมนุมของม็อบสวนยางที่ปิดเส้นทางสัญจร ในวันพรุ่งนี้ จะทดลองเปิดเรียนเนื่องจากใกล้สอบปลายภาค
แต่นักเรียนคงจะต้องเดินทางมาด้วยจักรยานยนต์ วันนี้อีกโรงเรียนหนึ่งใกล้ๆ ได้ทดลองเปิดเรียนในวันนี้
ก็ปรากฏว่ามีนักเรียนมาโรงเรียนไม่ถึงครึ่งหนึ่ง
พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ แต่หากสถานการณ์รุนแรงก็จะปิดต่อ อยากขอให้รัฐบาลลงมาคุยเจรจาอีกครั้ง
เพราะม็อบนี้คุยยากเหลือเกิน”
ม็อบสวนยางเหี้ยมโหด! ไม่เปิดทางให้หมอพาผู้ป่วยหนักไปโรงพยาบาลพัทลุง
ภาพประกอบ |
วันที่ 28 สิงหาคม 2556 (go6TV) โรงพยาบาลอำเภอชะอวด ได้รับความเดือดร้อน
ส่งต่อผู้ป่วยหนักไปโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชไม่ได้
นายแพทย์ลือชา
เพ็ชรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอชะอวด พร้อมคณะ เภสัชกร เข้าพบ นายวิโรจน์
จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่บ้านพักนายอำเภอชะอวด ร้องขอความช่วยเหลือให้ช่วยประสานงานกับกลุ่มผู้ชุมนุม
เพื่อให้ผู้ป่วยในพื้นที่อำเภอชะอวดและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเดินทางมาโรงพยาบาลได้สะดวก
และส่งต่อผู้ป่วยที่มีการอาการหนัก
หรือผู้ป่วยที่แพทย์นัดไปโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
และเปิดให้บริษัทเข้ามาส่งเครื่องมือ อุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ที่โรงพยาบาลชะอวดได้
เนื่องจากหลังจากมีการปิดถนน กลุ่มผู้ชุมนุมฯ ปิดถนนสายบ้านตูล-ชะอวด
ไม่ยินยอมให้เดินทางผ่าน แม้ว่าจะขอร้องแล้วก็ตาม
ทางด้านเภสัชกรหญิง
วาสนา ศรีรุ่ง กล่าวว่า การจัดส่งยาเร่งด่วน เช่น ยาเรื้อรัง บริษัทเข้ามาส่งยาไม่ได้
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางคนไม่คุ้นเส้นทาง ทำให้ไม่สามารถมาทำงานได้
ขณะเดียวกันนายประพันธ์โชติ
เสนาชู หัวหน้าฝายประกันสุขภาพ รพ.ชะอวด กล่าวว่า ผู้ป่วยฉุกเฉินหนัก เช่น
โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เกิดอันตราย ต้องนำส่งต่อไปที่ รพ.พัทลุง
ไม่สามารถเดินทางไป โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชที่มีแพทย์เชี่ยวชาญมากกว่าได้
ทั้งนี้ขอผู้ชุมนุมช่วยเปิดส้นทางให้ผู้ป่วยสามารถผ่านไปได้
"พานทองแท้" FB ระบุคนใต้เอือม "ม๊อบปลอมปิดถนน"
28 สิงหาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00น. ที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว https://www.facebook.com/oakpanthongtae โดยมีข้อความดังนี้
ภาคใต้อัมพาต สินค้าติดแหง็ก-เสียหายยับ
คนชะอวดโวย "ม๊อบยุติแล้ว" ที่เหลือคนนอกพื้นที่
คือพาดหัวไม้1 ไทยรัฐเช้านี้ครับ
แปลว่าคนที่ทำให้เศรษฐกิจภาคใต้ "เสียหายยับ" ไม่ใช่พี่น้องชาวชะอวด ที่เดือดร้อนจากราคายางตกต่ำนะครับ เพราะได้มีการเจรจาขอความช่วยเหลือจากภาครัฐจนได้ข้อยุติ และชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆได้สลายตัวไปแล้ว
ถ้างั้นผู้ที่นำ "คนนอกพื้นที่" มาสร้างภาพความขัดแย้งกับรัฐบาล สร้างความเดือดร้อนให้กับคนใต้ ขนาดที่ไทยรัฐถึงกับพาดหัวใหญ่ว่า "ภาคใต้ เสียหายยับ" มันเป็นใครครับ
พี่น้องชาวใต้ที่เดือดร้อนจาก "ม๊อบปลอมปิดถนน" ใครที่เดือดร้อนจนจะทนไม่ไหวแล้ว เขาว่ากันว่าให้ไปขอท่าน ถ.ถุงครับ ไปบอกท่านว่าจะใช้"วิชามารทางการเมือง"กันอย่างไรก็ว่ากันไป แต่อย่าให้ชาวบ้านเขาต้องเดือดร้อน..!!
ท่าน ถ.ถุงคงจะไม่กล้าปฏิเสธชาวบ้านหรอก เพราะที่กำลังนับหัวจ่ายตังค์กันอยู่นั่น ลูกน้องท่านทั้งนั้นครับ ..!!
ภาคใต้อัมพาต สินค้าติดแหง็ก-เสียหายยับ
คนชะอวดโวย "ม๊อบยุติแล้ว" ที่เหลือคนนอกพื้นที่
คือพาดหัวไม้1 ไทยรัฐเช้านี้ครับ
แปลว่าคนที่ทำให้เศรษฐกิจภาคใต้ "เสียหายยับ" ไม่ใช่พี่น้องชาวชะอวด ที่เดือดร้อนจากราคายางตกต่ำนะครับ เพราะได้มีการเจรจาขอความช่วยเหลือจากภาครัฐจนได้ข้อยุติ และชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆได้สลายตัวไปแล้ว
ถ้างั้นผู้ที่นำ "คนนอกพื้นที่" มาสร้างภาพความขัดแย้งกับรัฐบาล สร้างความเดือดร้อนให้กับคนใต้ ขนาดที่ไทยรัฐถึงกับพาดหัวใหญ่ว่า "ภาคใต้ เสียหายยับ" มันเป็นใครครับ
พี่น้องชาวใต้ที่เดือดร้อนจาก "ม๊อบปลอมปิดถนน" ใครที่เดือดร้อนจนจะทนไม่ไหวแล้ว เขาว่ากันว่าให้ไปขอท่าน ถ.ถุงครับ ไปบอกท่านว่าจะใช้"วิชามารทางการเมือง"กันอย่างไรก็ว่ากันไป แต่อย่าให้ชาวบ้านเขาต้องเดือดร้อน..!!
ท่าน ถ.ถุงคงจะไม่กล้าปฏิเสธชาวบ้านหรอก เพราะที่กำลังนับหัวจ่ายตังค์กันอยู่นั่น ลูกน้องท่านทั้งนั้นครับ ..!!
ป้ายกำกับ:
พานทองแท้ ชินวัตร
แกนนำม็อบยางโกงเงิน! ชาวบ้านโวยบริจาคหายหลายแสน แกนนำอ้าง "อย่าคิดมาก ให้มันแล้วกันไป ชุมนุมต่อกันเถอะ"
วันที่ 28 สิงหาคม 2556 (go6TV) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มม็อบสวนยางที่ชุมนุมแยกควนหนองหงส์
อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดปัญหาโจมตีกันไปมาเรื่องเงินบริจาคหายไปหลายแสนบาท โดยกลุ่มผู้ปราศัยพยายามปราศรัยเคลียร์ปัญหาเงินบริจาคหายไป
โดยไม่มีผู้รับผิดชอบ และประชาชนที่แห่มาบริจาคเงิน ต่างโวยวายและมองว่าบรรดาแกนนำประท้วงพยายามหากินจากความเดือดร้อนของเกษตรกร
โดยแกนนำที่ปราศรัยระบุว่าเงินที่หายไปนั้นแกนนำในชุดก่อนที่ยะติการชุมนุมไปแล้วเป็นคนเอาไป
ซึ่งไม่เกี่ยวกับแกนนำในชุดปัจจุบัน
และอย่าให้ผู้ร่วมชุมนุมประท้วงคิดมากในเรื่องนี้ ให้แล้วกันไป
มาว่ากันใหม่โดยแกนนำชัดนี้จะดูแลเรื่องเงินบริจาคไม่ให้สูญหายอีก
วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ชี้ตัวแล้ว! "อาชีวะถ่อย" ตีเสื้อแดงบาดเจ็บที่สวนลุมฯ วันก่อน ตำรวจส่งศาลออกหมายจับต่อไป
วันที่ 27 สิงหาคม 2556 (go6TV) วันนี้ กลุ่มเสื้อแดง ผู้เสียหายจากกรณีที่กลุ่มม็อบสวนลุมฯ และเด็กอาชีวะ ได้รุมทำร้ายเมื่อเย็นวันที่ 25 สิงหาคม 2556 ได้เข้าพบ พ.ต.อ. กิตติพงษ์ สุวรรณ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อชี้ตัวภาพถ่ายของนักเรียนอาชีวะ ที่ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้น จากการตรวจสอบภาพนิ่ง และกล้องวงจรปิด ผู้เสียหายสามารถจำใบหน้าของนักศึกษาอาชีวะได้ และชี้ตัวไว้ได้แล้ว เป็นบางส่วน แต่ไม่สามารถเปิดเผยภาพทั้งหมดได้ ซึ่งตำรวจจะได้นำภาพทั้งหมดนี้ ไปขออนุญาตต่อศาลเพื่อออกหมายจับต่อไป
ศาลจังหวัดนครฯ อนุมัติหมายจับ "6 แกนนำ" ม็อบสวนยางที่ก่อเหตุรุนแรงแล้ว
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ
อุทาโย โฆษก ตร. แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราใน
จ.นครศรีธรรมราช ว่า
กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการปิดการจราจรโดยได้นำรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่มาปิดกั้นเส้นทาง 2
จุด ได้แก่ แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ชุมนุมจำนวน 300 คน
และบริเวณแยกบ้านตูล ซึ่งเป็นทางกั้นรถไฟ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
มีผู้ชุมนุมจำนวน 150 คน
ซึ่งจากการปิดเส้นทางทั้งทางรถยนต์และรถไฟดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทาง
จำนวน 15,000 คน รถไฟกว่า 10 ขบวนไม่สามารถเดินทางได้ทำให้มีผู้โดยสารตกค้าง
ส่วนผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์ต้องอ้อมเส้นทางกว่า 100 กม. หรือต้องใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า
1 ชั่วโมง 30 นาที รวมถึงการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อไปว่า ล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
ได้สั่งเปิด ศปก.ตร.เพื่อติดตามสถานการณ์เต็มรูปแบบตลอด 24 ชม. โดย ผบ.ตร.ยกเลิกภารกิจวันนี้ทั้งหมดเพื่อติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ สั่งการให้สันติบาล
และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนในพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด
โดยสรุปว่าขณะนี้มี 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มเกษตรกรสวนยางในพื้นที่ที่เดือดร้อนจริงๆ และกลุ่มคนนอกพื้นที่และกลุ่มที่หวังผลทางการเมือง
มีพรรคการเมืองหนุนหลัง รวมทั้งมีกลุ่มวัยรุ่นที่พร้อมก่อเหตุรุนแรง
ซึ่งเรียกว่ากลุ่มหัวขวาน
ทั้งนี้การชุมนุมที่มีการแยกส่วนเช่นนี้ทำให้การเจรจาไม่สามารถทำได้
เพราะไม่มีแกนนำที่ชัดเจน
ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะยกระดับการชุมนุมในวันที่ 3
กันยายนนั้น พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า
ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
กำชับให้มีการตั้งด่านตรวจค้นตามจุดต่างๆ เพื่อคัดกรองอาวุธและบุคคลต้องสงสัย, พร้อมให้จัดทำแผนเผชิญเหตุ
เตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ให้พร้อมรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย ได้สั่งการให้
บช.ภ.1-9, บช.น. และ ศชต.เปิด
ศปก.ตร.เต็มรูปแบบเพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่ของตนเอง
เตรียมการทั้งกำลังพลและอุปกรณ์พร้อมไว้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความอดทน
ละมุนละม่อม และใช้มาตรการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้สามารถเปิดเส้นทางจราจรเพื่อให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีนโยบายใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมตามที่มีกระแสข่าวอย่างแน่นอน
แต่จะเน้นการเจรจาอย่างสันติวิธี และใช้ความอดทนละมุนละม่อม
ยึดหลักกฎหมายในการดูแลการชุมนุม
ขณะเดียวกันยืนยันว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษในการดูแลการชุมนุม ซึ่ง
ผบ.ตร.ได้ให้นโยบายว่าหากสถานการณ์รุนแรงเกินกว่าที่จะใช้กฎหมายปกติ
ก็ให้เสนอขึ้นมา ซึ่ง บช.ภ.8 ในฐานะหน่วยปฏิบัติจะเป็นผู้วิเคราะห์สถานการณ์ว่าเหตุการณ์ในระดับใดจึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ
นั่นคือ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรดังกล่าว
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า
ล่าสุดศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้อนุมัติออกหมายจับแกนนำก่อเหตุรุนแรง 6 คน ได้แก่
นายชญานิน คงลัง, นายก้องเกียรติ ชูทอง, นายสมภาษณ์
ขวัญทอง, นายสัมมิตร จุ้ยปลอด, นายประภาส
ภักดีรัตน์ และนางวนิดา แก้วมณี ในข้อหากระทำการใดๆ
ให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่จราจร ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
229 ขณะที่เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติออกหมายจับจำนวน 9 คน ได้แก่
นายพีรพงศ์ วิชัยดิษฐ์, นายภิญโญ หมื่นจร, นายบัญชา ณ พัทลุง, นายกิตติวดี ขุนทอง, นายสมโภชน์ กำเนิดรักษา, นายสำราญ คงสวัสดิ์,
นายสากล อินทระ, นายสมสุข กำเนิดรักษา
และนายสมเกียรติ ทองเสน ในข้อหาร่วมกันปิดกั้นทางหลวง
หรือนำสิ่งใดมาขวางหรือวางไว้บนทางหลวงในลักษณะที่อาจเกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคล
ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 มาตรา 39
โดยผู้ที่ออกหมายจับถือเป็นกลุ่มที่ก่อความรุนแรงไม่จำแนกว่ากลุ่มไหน
กลุ่มเกษตรกรหรือคนนอก
ขอขอบคุณ มติชนออนไลน์
"กลุ่มชะอวดรักสงบ" เรียกร้องให้ผู้ชุมนุมต่างพื้นที่ เปิดถนนจุดบ้านตูลและควนหนองหงส์ทันที!
กลุ่มชะอวดรักสงบ ออกแถลงการณ์ ยืนยันพอใจความช่วยเหลือจากรัฐบาลพร้อมเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมจากต่างพื้นที่ที่เข้ามาปิดถนนจุดบ้านตูลและควนหนองหงส์เปิดเส้นทางจราจรตั้งแต่วันนี้
27 สิงหาคม 2556 go6TV - กลุ่มชะอวดรักสงบ ออกแถลงการณ์ ถึงกรณีที่มีม็อบชาวสวนยางและสวนปาล์ม รวมตัวปิดเส้นทางรถไฟสายใต้ บริเวณสี่แยกบ้านตูน ม.2 ต.บ้านตูน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ดังนี้
"แถลงการณ์ชาวอำเภอชะอวด ตามที่ได้เกิดความชุมนุมในพื้นที่อำเภอชะอวด เนื่องจากความเดือดร้อนของพวกเรา ชาวสวนยางและปาร์ม ตั้งแต่ 23สิงหาคม 2556 และแต่ว่าเราได้รับการยืนยันความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นที่พอใจแล้ว และวันนี้ยังมีคนจากต่างพื้นที่เข้ามาชุมนุม ปิดถนนจุดบ้านตูลและควนหนองหงส์ทำให้เราเดือดร้อน จึงขอให้หยุดการปิดเส้นทางจราจรตั้งแต่วันนี้ ไม่งั้นเราจะระดมพี่น้องชาวชะอวดขับไล่ออกจากชะอวด กลุ่มชะอวดรักสงบ"
ขอขอบคุณ ฐาปนีย์ เอียดศรีชัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! ม็อบสวนยางปิดเส้นทางรถไฟบริเวณแยกบ้านตูล-ชะอวด ตัดเส้นทางใต้อัมพาต - (มีคลิป)
http://www.go6tv.com/2013/08/blog-post_3332.html
ม็อบยางเหิม! ยกระดับปิดถนน-ทางรถไฟเพิ่ม ทำสายใต้ชะงักเช้านี้ ยังเจรจาไม่ได้
27 สิงหาคม 2556 go6TV - กลุ่มชะอวดรักสงบ ออกแถลงการณ์ ถึงกรณีที่มีม็อบชาวสวนยางและสวนปาล์ม รวมตัวปิดเส้นทางรถไฟสายใต้ บริเวณสี่แยกบ้านตูน ม.2 ต.บ้านตูน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ดังนี้
"แถลงการณ์ชาวอำเภอชะอวด ตามที่ได้เกิดความชุมนุมในพื้นที่อำเภอชะอวด เนื่องจากความเดือดร้อนของพวกเรา ชาวสวนยางและปาร์ม ตั้งแต่ 23สิงหาคม 2556 และแต่ว่าเราได้รับการยืนยันความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นที่พอใจแล้ว และวันนี้ยังมีคนจากต่างพื้นที่เข้ามาชุมนุม ปิดถนนจุดบ้านตูลและควนหนองหงส์ทำให้เราเดือดร้อน จึงขอให้หยุดการปิดเส้นทางจราจรตั้งแต่วันนี้ ไม่งั้นเราจะระดมพี่น้องชาวชะอวดขับไล่ออกจากชะอวด กลุ่มชะอวดรักสงบ"
ขอขอบคุณ ฐาปนีย์ เอียดศรีชัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! ม็อบสวนยางปิดเส้นทางรถไฟบริเวณแยกบ้านตูล-ชะอวด ตัดเส้นทางใต้อัมพาต - (มีคลิป)
http://www.go6tv.com/2013/08/blog-post_3332.html
ม็อบยางเหิม! ยกระดับปิดถนน-ทางรถไฟเพิ่ม ทำสายใต้ชะงักเช้านี้ ยังเจรจาไม่ได้
http://www.go6tv.com/2013/08/blog-post_27.html
ผู้โดยสารเคว้ง! รถไฟ 4 ขบวนตกค้างสถานีหาดใหญ่หลัง "ม็อบสวนยาง" ปิดรางรถไฟสี่แยกบ้านตูน
ผู้โดยสารเคว้ง! รถไฟ 4 ขบวนตกค้างสถานีหาดใหญ่หลัง "ม็อบสวนยาง" ปิดรางรถไฟสี่แยกบ้านตูน
ป้ายกำกับ:
ม็อบสวนยาง
เศรษฐกิจพังพินาศ! การคมนาคมสายใต้อัมพาต! ม็อบใต้เหิมหนัก! นำรถบรรทุกขวางรางรถไฟ
27 สิงหาคม 2556 go6Tv - นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การชุมนุมของม็อบสวนยางในขณะนี้ ส่งผลให้เส้นทางรถไฟสายใต้ ตั้งแต่ จ.พัทลุงลงไป ไม่สามารถเปิดการเดินรถได้ โดยจะต้องรอผลการเจรจาของจังหวัดกับกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยาง เพื่อขอเปิดเส้นทางเดินรถในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค) ส่วนผู้โดยสารที่ตกค้างซึ่งเป็นคนท้องถิ่น ทางการรถไฟฯ จะทำการคืนค่าโดยสารให้ทั้งหมด ส่วนนักท่องเที่ยว ที่ยังตกค้างกว่า 500 คน เป็นชาวต่างชาติถึง 1 ใน 4 นั้น ขณะนี้ยังคงตกค้างและติดอยู่ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าได้มีการปิดถนนบริเวณดังกล่าวห้ามรถผ่านสัญจรด้วย ทำให้มีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของม็อบสวนยาง เพราะเส้นทางดังกล่าวถูกใช้ในการลำเลียงผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง รวมทั้งยังมีความเดือนร้อนของผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องเดินทางไปเรียนหนังสือและรับส่งบุตรหลานเช่นกัน
ป้ายกำกับ:
ม็อบสวนยาง
ม็อบยางเหิม! ยกระดับปิดถนน-ทางรถไฟเพิ่ม ทำสายใต้ชะงักเช้านี้ ยังเจรจาไม่ได้
ม็อบสวนยางเผายางรถยนต์เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงปืนเป็นระยะ |
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! ม็อบสวนยางปิดเส้นทางรถไฟบริเวณแยกบ้านตูล-ชะอวด ตัดเส้นทางใต้อัมพาต - (มีคลิป) http://www.go6tv.com/2013/08/blog-post_3332.html
3ก.ย.ม็อบสวนยางขู่ปิดประเทศ
http://www.dailynews.co.th/politics/228296
ป้ายกำกับ:
ม็อบสวนยาง
ผู้โดยสารเคว้ง! รถไฟ 4 ขบวนตกค้างสถานีหาดใหญ่หลัง "ม็อบสวนยาง" ปิดรางรถไฟสี่แยกบ้านตูน
รถไฟเส้นทางสายใต้ 4
ขบวนต้องจอดค้างสถานีรถไฟหาดใหญ่หลังชาวสวนยางและสวนปาล์มรวมตัวปิดเส้นทางรถไฟสายใต้บริเวณสี่แยกบ้านตูน
ม.2 ต.บ้านตูน อ.ชะอวด นครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดว่าขบวนรถไฟสายใต้ขาขึ้นกรุงเทพฯ รวม 4 ขบวน
ไม่สามารถเดินทางผ่านได้ต้องตีรถกลับเข้าสู่สถานีชุมทางหาดใหญ่3 ขบวน
คือขบวนรถด่วน38 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ ขบวนรถเร็ว 172 สุไหลโก-ลก-กรุงเทพฯ
และขบวน42 สปรินเตอร์ยะลา-กรุงเทพฯ รวมทั้งขบวนรถบัตเตอร์เวิร์ธ
ซึ่งเป็นขบวนรถระหว่างประเทศต้องจอดอยู่ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ มีเพียงขบวนรถเร็ว170
ยะลา-กรุงเทพฯเพียงขบวนเดียวที่สามารถขอผ่านทางได้
นายพีระพล ทับเวช ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย
กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้โดยสารรถไฟทั้ง4
ขบวนในคืนนี้หากไม่มีที่พักก็จำเป็นต้องให้นอนบนขบวนรถไฟ
และจะประเมินสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้อีกครั้งหนึ่งว่ากลุ่มผู้ประท้วงจะยอมเปิดเส้นทางหรือไม่
หากยังยืดเยื้อก็จะจัดขบวนรถไปส่งผู้โดยสารยังสถานีต้นทางและจะคืนเงินเต็มจำนวนตั๋วโดยสาร
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ด่วน! ม็อบสวนยางปิดเส้นทางรถไฟบริเวณแยกบ้านตูล-ชะอวด ตัดเส้นทางใต้อัมพาต - อัพเดทล่าสุด (มีคลิป)
26 สิงหาคม 2556 go6TV - ผูัสื่อข่าวรายงานว่า ม็อบสวนยางบริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งไม่พอใจข้อเสนอของรัฐบาล และยังคงปักหลักปิดถนนเอเชีย41 โดยอีกส่วนหนึ่งได้ยกระดับการชุมนุม โดยนำรถไปปิดเส้นตัดทางรถไฟ บริเวณแยกบ้านตูล -ชะอวด
ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นทางรถไฟที่รถไฟขบวนสายใต้ผ่าน โดยม็อบมีจำนวน 300 คน กระจายกำลังกันปิดทางรถไฟ
ผู้ชุมนุมได้ใช้รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ 1 คัน รถกระบะ 4 คัน รถจักรยานยนต์ประมาณ 50 คัน จอดขวางทางรถไฟ และขวางถนนเอาไว้ ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้ท่อนไม้ กิ่งไม้ กองหญ้า มากองบนถนนพาดรถไฟ แล้วจุดไฟเผาบนถนน เปลวเพลิงลุกโชน ทำให้ขณะนี้ถนนสายดังกล่าวรถยนต์ไม่สามารถผ่านได้อีกทางหนึ่ง และรถไฟสายใต้ ไม่สามารถผ่านได้ ขณะที่ผู้บริหารของการรถไฟฯ เร่งเจรจากับผู้ชุมนุม เนื่องจากมีรถไฟที่เข้ากรุงเทพฯตกค้างอยู่อีก 4 ขบวน
"พานทองแท้" FB ถาม "ระบอบทักษิณ" กับ "ระบอบอภิสิทธิ์" คนเราชอบระบอบไหน มากกว่ากัน... ??
26 สิงหาคม 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30น. ที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว https://www.facebook.com/oakpanthongtae โดยมีข้อความดังนี้
"ระบอบทักษิณ" กับ "ระบอบอภิสิทธิ์" คนเราชอบระบอบไหน มากกว่ากัน... ??
ถ้าถามคนต่างชาติ เขาตอบสบายเลยครับ เพราะเรทติ้งของพ.ต.ท.ทักษิณฯ ในต่างประเทศยังกระฉูดอยู่ นี่ขนาดโดนคณะปฏิวัติตั้ง "แก๊งค์คู่อริ-ขาประจำ" มาเป็น คณะกรรมการ.ตรวจสอบ จนโดนคดีโทษจำคุก 2ปี ต้องจากบ้านจากเมืองไป พ้นจากตำแหน่งนายกฯมาร่วม7ปีเข้าไปแล้ว แต่เดินทางไปประเทศไหน เขาก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น หลายประเทศเชิญไปเป็นที่ปรึกษาฯให้มาช่วยพัฒนาประเทศ และเชิญให้เป็นแขกรับเชิญไปบรรยายบนเวทีสากลเสมอๆ
ส่วนอีกคนหนึ่งหลังจากที่เคยไปออกตัว สัมภาษณ์ BBC ให้เห็นเป็นภาพจำครั้งสุดท้ายว่า การสลายการชุมนุมกลางเมืองหลวงของไทย ที่มีคนไทยและต่างชาติตายเฉียด100คนนั้น เป็นเรื่องของความ"โชคไม่ดี ที่มีคนตาย" และ "เหตุการณ์แบบนี้ ไม่มีนายกฯคนไหนในโลก (โดยเฉพาะนายกฯไทยที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) จะต้องรับผิดชอบ" แล้ว ผมยังไม่เห็นมีข่าวใดๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบนเวทีสากลเลย
ระบอบทั้ง2นี้ถ้าถามคนไทย ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนตอบครับ ถ้าถามคนส่วนใหญ่ของประเทศ เราดูง่ายๆจากผลการเลือกตั้งก็จะเห็นชัดเจนว่า คนไทยส่วนใหญ่ชอบระบอบทักษิณ ไม่เอาระบอบอภิสิทธิ์ฯ เรียกได้ว่าตั้งแต่นายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคปชป. จะมีเลือกตั้งกี่ครั้งก็แพ้ทุกครั้งร่ำไป จริงๆแล้วจะไปโทษนายอภิสิทธิ์ฯคนเดียวไม่ได้ครับ ผมว่าระบอบทั้งหลายที่ประกอบกายกันขึ้นมา เป็นตัวตนพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ค่อยจะชนะใจคนไทยในช่วงสิบกว่าปีหลังนี้
แต่ถ้าถามคนกลุ่มที่มีความเป็น "อภิสิทธิ์ชน" เหนือกว่าคนไทยทั่วไปในสังคม คำตอบที่ได้จะเป็นตรงกันข้ามเลยครับ ความคิดของคนกลุ่มนี้ สวนทางกับกระแสโลก และคนไทยส่วนใหญ่โดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการความเสมอภาคใดๆ ที่จะทำให้ความได้เปรียบสังคมของพวกตนลดลงไป ที่น่าเป็นห่วงก็คือ คนกลุ่มนี้มักจะคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่คิดเองไม่เป็น, ถูกทักษิณหลอกใช้, ซื้อได้ และมักจะคิดว่า พวกตนเท่านั้นที่ฉลาดที่สุด ใครจะมาเป็นผู้นำประเทศ ต้องให้พวกตนเป็นผู้กำหนด ดังนั้นผลการเลือกตั้ง2-3ครั้งที่ผ่านมา จึงไม่ใช่คำตอบที่คนกลุ่มนี้พอใจ
ถ้าถามพันธมิตรในวันนี้ พันธมิตรไม่เอาทั้ง 2ระบอบครับ ขอบายไม่สนับสนุนใครเลย คนกลุ่มนี้เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ แบบสุดลิ่มทิ่มประตูมาแล้ว ต่อสู้ปักหลังพักค้างนับเป็นร้อยๆวัน ทั้งที่ในทำเนียบรัฐบาล สนามบินสุวรรณภูมิ และข้างถนน ต่อสู้ยอมลำบากลำบนยอมบาดเจ็บล้มตาย เพียงเพื่อเอาตำแหน่งประมุขของฝ่ายบริหารใส่พาน ให้แก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อให้มาเป็นนายกฯ ให้จงได้
พอได้เป็นนายกฯ (ณ ราบ11)ขึ้นมาจริงๆ หลงชื่นชมกันได้ไม่ทันไร กลับต้องมาซึ้งใจเป็นทวีคูณกับ "ระบอบอภิสิทธิ์ฯ" ที่นอกจากจะไม่สำนึกบุญคุณกลุ่มพันธมิตรแล้ว ยังดำเนินการส่งฟ้องดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรจำนวน 96คน จนกระทั่งไม่สามารถขับเคลื่อนใดๆ ทางการเมืองได้อีก ปัจจุบันความรู้สึกเข็ดขยาดพรรคฯปชป.ของกลุ่มพันธมิตร หยั่งรากลึกถึงขั้น "รักมาก ก็ แค้นมาก" คนไม่ชอบกันทำแบบนี้ยังพอทน แต่คนรักกันช่วยกันมาขนาดนี้ ยังทำกันได้ น่าเห็นใจจริงๆ นี่ถ้าไม่ได้อ่านข่าวแถลงการณ์ของพันธมิตรวันก่อน ไม่รู้จริงๆนะเนี่ย ว่าทำกันขนาดนี้ได้ลงคอ
คนไทยเราจะเลือกจะชอบระบอบไหน ก็สุดแต่ใจของตนครับ ถ้าทุกฝ่ายทำตาม กฏ กติกา ของระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องเคารพผลการเลือกตั้ง ระบอบไหนประเทศก็เดินหน้าไปได้ จะช้าเร็วผิดกันบ้าง ยังไงประเทศชาติก็สงบสุข แต่ระบอบที่พอตัวเองไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ตีรวนป่วนสภา เดินสายปลุกระดมชาวบ้้าน แบบนี้ประเทศไทยอันเป็นที่รักของทุกคน ไม่พ้นเป็นที่โหล่ของอาเซี่ยนครับ
ประเทศไทยของเรา ซอยเท้าอยู่กับที่มานาน พึ่งเริ่มจะเดินหน้าได้ 2ปี ระบอบไหนถูกใจคนไทย อดใจรอเลือกตั้งอีก2ปีดีไหมครับ
"ระบอบทักษิณ" กับ "ระบอบอภิสิทธิ์" คนเราชอบระบอบไหน มากกว่ากัน... ??
ถ้าถามคนต่างชาติ เขาตอบสบายเลยครับ เพราะเรทติ้งของพ.ต.ท.ทักษิณฯ ในต่างประเทศยังกระฉูดอยู่ นี่ขนาดโดนคณะปฏิวัติตั้ง "แก๊งค์คู่อริ-ขาประจำ" มาเป็น คณะกรรมการ.ตรวจสอบ จนโดนคดีโทษจำคุก 2ปี ต้องจากบ้านจากเมืองไป พ้นจากตำแหน่งนายกฯมาร่วม7ปีเข้าไปแล้ว แต่เดินทางไปประเทศไหน เขาก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น หลายประเทศเชิญไปเป็นที่ปรึกษาฯให้มาช่วยพัฒนาประเทศ และเชิญให้เป็นแขกรับเชิญไปบรรยายบนเวทีสากลเสมอๆ
ส่วนอีกคนหนึ่งหลังจากที่เคยไปออกตัว สัมภาษณ์ BBC ให้เห็นเป็นภาพจำครั้งสุดท้ายว่า การสลายการชุมนุมกลางเมืองหลวงของไทย ที่มีคนไทยและต่างชาติตายเฉียด100คนนั้น เป็นเรื่องของความ"โชคไม่ดี ที่มีคนตาย" และ "เหตุการณ์แบบนี้ ไม่มีนายกฯคนไหนในโลก (โดยเฉพาะนายกฯไทยที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) จะต้องรับผิดชอบ" แล้ว ผมยังไม่เห็นมีข่าวใดๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบนเวทีสากลเลย
ระบอบทั้ง2นี้ถ้าถามคนไทย ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนตอบครับ ถ้าถามคนส่วนใหญ่ของประเทศ เราดูง่ายๆจากผลการเลือกตั้งก็จะเห็นชัดเจนว่า คนไทยส่วนใหญ่ชอบระบอบทักษิณ ไม่เอาระบอบอภิสิทธิ์ฯ เรียกได้ว่าตั้งแต่นายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคปชป. จะมีเลือกตั้งกี่ครั้งก็แพ้ทุกครั้งร่ำไป จริงๆแล้วจะไปโทษนายอภิสิทธิ์ฯคนเดียวไม่ได้ครับ ผมว่าระบอบทั้งหลายที่ประกอบกายกันขึ้นมา เป็นตัวตนพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ค่อยจะชนะใจคนไทยในช่วงสิบกว่าปีหลังนี้
แต่ถ้าถามคนกลุ่มที่มีความเป็น "อภิสิทธิ์ชน" เหนือกว่าคนไทยทั่วไปในสังคม คำตอบที่ได้จะเป็นตรงกันข้ามเลยครับ ความคิดของคนกลุ่มนี้ สวนทางกับกระแสโลก และคนไทยส่วนใหญ่โดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการความเสมอภาคใดๆ ที่จะทำให้ความได้เปรียบสังคมของพวกตนลดลงไป ที่น่าเป็นห่วงก็คือ คนกลุ่มนี้มักจะคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่คิดเองไม่เป็น, ถูกทักษิณหลอกใช้, ซื้อได้ และมักจะคิดว่า พวกตนเท่านั้นที่ฉลาดที่สุด ใครจะมาเป็นผู้นำประเทศ ต้องให้พวกตนเป็นผู้กำหนด ดังนั้นผลการเลือกตั้ง2-3ครั้งที่ผ่านมา จึงไม่ใช่คำตอบที่คนกลุ่มนี้พอใจ
ถ้าถามพันธมิตรในวันนี้ พันธมิตรไม่เอาทั้ง 2ระบอบครับ ขอบายไม่สนับสนุนใครเลย คนกลุ่มนี้เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ แบบสุดลิ่มทิ่มประตูมาแล้ว ต่อสู้ปักหลังพักค้างนับเป็นร้อยๆวัน ทั้งที่ในทำเนียบรัฐบาล สนามบินสุวรรณภูมิ และข้างถนน ต่อสู้ยอมลำบากลำบนยอมบาดเจ็บล้มตาย เพียงเพื่อเอาตำแหน่งประมุขของฝ่ายบริหารใส่พาน ให้แก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อให้มาเป็นนายกฯ ให้จงได้
พอได้เป็นนายกฯ (ณ ราบ11)ขึ้นมาจริงๆ หลงชื่นชมกันได้ไม่ทันไร กลับต้องมาซึ้งใจเป็นทวีคูณกับ "ระบอบอภิสิทธิ์ฯ" ที่นอกจากจะไม่สำนึกบุญคุณกลุ่มพันธมิตรแล้ว ยังดำเนินการส่งฟ้องดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรจำนวน 96คน จนกระทั่งไม่สามารถขับเคลื่อนใดๆ ทางการเมืองได้อีก ปัจจุบันความรู้สึกเข็ดขยาดพรรคฯปชป.ของกลุ่มพันธมิตร หยั่งรากลึกถึงขั้น "รักมาก ก็ แค้นมาก" คนไม่ชอบกันทำแบบนี้ยังพอทน แต่คนรักกันช่วยกันมาขนาดนี้ ยังทำกันได้ น่าเห็นใจจริงๆ นี่ถ้าไม่ได้อ่านข่าวแถลงการณ์ของพันธมิตรวันก่อน ไม่รู้จริงๆนะเนี่ย ว่าทำกันขนาดนี้ได้ลงคอ
คนไทยเราจะเลือกจะชอบระบอบไหน ก็สุดแต่ใจของตนครับ ถ้าทุกฝ่ายทำตาม กฏ กติกา ของระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องเคารพผลการเลือกตั้ง ระบอบไหนประเทศก็เดินหน้าไปได้ จะช้าเร็วผิดกันบ้าง ยังไงประเทศชาติก็สงบสุข แต่ระบอบที่พอตัวเองไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ตีรวนป่วนสภา เดินสายปลุกระดมชาวบ้้าน แบบนี้ประเทศไทยอันเป็นที่รักของทุกคน ไม่พ้นเป็นที่โหล่ของอาเซี่ยนครับ
ประเทศไทยของเรา ซอยเท้าอยู่กับที่มานาน พึ่งเริ่มจะเดินหน้าได้ 2ปี ระบอบไหนถูกใจคนไทย อดใจรอเลือกตั้งอีก2ปีดีไหมครับ
ป้ายกำกับ:
พานทองแท้ ชินวัตร
ตำรวจระบุชัด "ม็อบสวนลุมฯ ปาก้อนหิน ขวดแก้วเข้าใส่เสื้อแดงบนรถโดยสาร"
จากรณีกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) พร้อมมวลชน 50 ราย เข้าแจ้งความ
ร.ต.ท.เลิศชาย สำนัก ร้อยเวร สน.ทุ่งมหาเมฆ
ดำเนินคดีกับกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ชุมนุมบริเวณสวนลุมพินี
ร่วมกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ในข้อหาทำร้ายร่างกายและสูญเสียทรัพย์สิน
หลังถูกกลุ่มนักเรียนดังกล่าวบุกทำร้ายขณะเดินทางโดยสารด้วยรถยนต์ผ่านถนนพระราม 4 พร้อมโชว์ให้เห็นถึงสภาพความเสียหายของรถยนต์
รวมทั้งบาดแผลตามร่างกายเป็นหลักฐานนั้น
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.
พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า
เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่กลุ่ม
กวป.เดินทางกลับจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินทางกันมาด้วยรถแท็กซี่
และรถกระบะ พร้อมกับใส่เสื้อแสดงสัญลักษณ์เสื้อแดง ใช้เส้นทางขาออกผ่านถนนพระราม 4 มุ่งหน้าคลองเตย ผ่านบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าว ซึ่งผู้ชุมนุม
กปท.อยู่บริเวณลุมพินีทางฝั่งประตู 4 เห็น
จึงเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทางฝั่งกลุ่มกปท.ได้ขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำใส่กลุ่มกวป.
ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย กระจกแตก
ผู้ชุมนุมกลุ่มกวป.ได้รับบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย
พล.ต.ต.สืบศักดิ์ กล่าวอีกว่า
จากนั้นกลุ่มผู้เสียหายได้ไปแจ้งความที่ สน.ลุมพินี ระหว่างนั้นฝั่งนักเรียนอาชีวะ
4 คน
ที่มาร่วมชุมนุมที่สวนลุมพินี ได้เข้าแจ้งความรถจยย.หายด้วย
แต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์กระทบกระทั่งเกิดขึ้น ส่วนที่เกิดเหตุบริเวณถนนพระราม 4
เป็นท้องที่รับผิดชอบของสน.ทุ่งมหาเมฆ ตำรวจสน.ลุมพินี
จึงนำกลุ่มกวป.ไปส่งที่สน.ทุ่งมหาเมฆ คาดว่าน่าจะมีคนปล่อยข่าวไปถึงผู้ชุมนุม กปท.
ที่เป็นนักเรียนอาชีวะ
ทำให้เข้าใจผิดว่ากลุ่มเสื้อแดงไปปิดล้อมกลุ่มอาชีวะที่สน.ลุมพินี
เลยพากันเดินทางมาเพื่อปิดล้อมโรงพัก
ตำรวจสน.ลุมพินีจึงให้นักเรียนอาชีวะที่มาแจ้งความไปบอกกลุ่มที่มาชุมนุมว่าไม่ได้มีการปิดล้อมเพื่อจะรุมทำร้าย
จากนั้นเด็กนักเรียนอาชีวะจึงเดินทางแยกย้ายกันกลับ ทั้งนี้
การดำเนินคดีเรื่องดังกล่าวให้ สน.ทุ่งมหาเมฆ เป็นผู้รับผิดชอบต่อไป
ขอขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ภาพม็อบสวนลุมสุดถ่อย! ระดมอาชีวะนับร้อยถล่มรถเสื้อแดงหน้าสวนลุมฯ "จามขวาน-ขวดแก้ว-ก้อนอิฐ" ถล่มใส่ไม่ยั้ง บาดเจ็บ 5 ราย
กลุ่มคนเสื้อแดงที่เสร็จสิ้นกิจกรรมรณรงค์สนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถูก "ม็อบตังค์ทอน" ประกอบด้วยกลุ่มนักเรียนอาชีวะดักปิดขบวนรถหน้าสวนลุมพินี รุมทำร้ายฟาดด้วยขวาน ก่อนระดมขว้างขวดแก้วพร้อมอิฐหนอนเข้าไปในรถ ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 5 คน ขณะที่ม็อบตังค์ทอน อาละวาดไม่เลิกรุมปิดล้อมสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ล่าสุด กลุ่มผู้บาดเจ็บ ได้แจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เรียบร้อยแล้ว
วันที่ 25 สิงหาคม 2556 (go6TV) เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนทั้งสิ้น 200 คนที่เสร็จกิจกรรมและเดินทางกลับไปจังหวัดสมุทรปราการ ด้วยรถโดยสารจำนวน 10 คัน โดยใช้เส้นทางผ่านถนนพระราม 4 มุ่งหน้าพระโขนงเพื่อไปยังปลายทาง ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ
ระหว่างที่่ขบวนรถดังกล่าว กำลังแล่นผ่านแยกสีลม-จุฬา หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ปรากฏว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมอาชีวะ ได้เห็นและวิ่งแห่กรูออกมาประมาณ 100 คน วิ่งพุ่งมายังรถโดยสารจำนวน 10 คัน ซึ่งบนรถดังกล่าวส่วนมากจะเป็นเสื้อแดงผู้หญิงสูงอายุ กลุ่มอาชีวะได้ระดมใช้ฆ้อนฟาดไปยังขอบรถโดยสาร หมายเลขทะเบียน ยร-2350 บริเวณ ประตูด้านขวาจนยุบฉีกลงไปเป็นรอยลึก และมีก้อนอิฐ หิน ขวดแก้วลอยเข้าไปยังกลุ่มผู้โดยสารเสื้อแดง ที่ต่างตกใจตะโกนร้องหวีดว้ายตกใจ กลางถนน และขบวนรถไม่สามารถเคลื่อนได้ โดยสรุป มีรถยนต์ที่เสียหาย ถูกทุบกระจกแตกรวมทั้งสิ้น 5 คัน เหตุที่ขบวนรถไม่สามารถขับหนีไปได้เพราะกลุ่มม็อบปิดด้านหน้าไว้
ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวได้วิ่งเข้ามาเป่านกหวีดไล่ม็อบอาชีวะวิ่งหลบหนีเข้าไปยังสวนลุมฯ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 3 นาที
จากนั้น กลุ่มเสื้อแดงทั้งหมด ได้เดินทางไปยัง สน.ลุมพินีในเวลาประมาณ 17.00 น. เพื่อลงบันทึกประจำวัน แต่ทาง สน.แจ้งว่า ท้องที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่ของ สน.ทุ่งมหาเมฆ ทั้งหมดจึงเตรียมตัวเคลื่อนขบวนไปยัง สน.ทุ่งมหาเมฆ ปรากฏว่าระหว่างที่กำลังเตรียมเคลื่อนย้าย ม็อบอาชีวะทราบข่าว ได้วิ่งกรูออกมาด้านประตูฝั่งโรงเรียน กทม.ข้ามถนน และปิดหน้า สน.ลุมพินี ทางตำรวจได้รีบระดมพลพาเสื้อแดงทั้งหมดขึ้นรถ ใช้รถตำรวจนำไปยัง สน.ลุมพินี และตำรวจได้เจรจาม็อบอาชีวะให้สลายตัวไป หลังจากปิดหน้า สน.ลุมพินีประมาณ 30-45 นาที
จากนั้นในเวลาประมาณ 18.00 น. เสื้อแดงทั้งหมด และผู้บาดเจ็บ ได้เดินทางมาถึงยัง สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อลงบันทึกประจำวัน โดยมีผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 5 ราย และมีภาพหลักฐานรถยนต์โดนทุบ รถยนต์โดนทุบกระจกแตก และเศษขวดแก้วที่เก็บได้บนรถโดยสาร เก็บมามอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน
ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้อำนวยความสะดวก ใช้รถนำขบวนพาขบวนรถเสื้อแดงทั้งหมด 10 คัน กลับจังหวัดสมุทรปราการในเวลาประมาณ 19.30 น.
วินาทีม็อบอาชีวะสวนลุมแห่ออกมาดักรถเสื้อแดง 1 |
วินาทีม็อบอาชีวะสวนลุมแห่ออกมาดักรถเสื้อแดง 2 |
วินาทีม็อบอาชีวะสวนลุมแห่ออกมาดักรถเสื้อแดง 3 |
วินาทีม็อบอาชีวะสวนลุมแห่ออกมาดักรถเสื้อแดง 4 |
วินาทีม็อบอาชีวะสวนลุมแห่ออกมาดักรถเสื้อแดง 5 |
ภาพถ่ายขอบประตูรถยนต์เลขที่ ยร 2350 ถูกขวานทุบที่ขอบประตูด้านคนขับ |
เศษแก้วที่เก็บได้จากบนรถโดยสาร ที่ฟาดโดนหน้าคุณป้าเสื้อแดงจนเลือดไหล ต้องไปเย็บแผลคลินิค |
ภาพม็อบอาชีวะ ออกมาจากประตูฝั่งโรงเรียน ข้ามมาปิดหน้า สน.ลุมพินี โดยตำรวจต้องรีบพาขบวนรถเสื้อแดงออกด้านข้างโรงพัก |
ภาพม็อบอาชีวะ ออกมาจากประตูฝั่งโรงเรียน ข้ามมาปิดหน้า สน.ลุมพินี โดยตำรวจต้องรีบพาขบวนรถเสื้อแดงออกด้านข้างโรงพัก |
ผู้บาดเจ็บท่านที่ 1 คุณป้า(ขอสงวนชื่อ) ถูกขวดแก้วฟาดเข้าใบหน้า (บันทึกภาพหลังจากทำแผลและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว) |
ผู้บาดเจ็บท่านที่ 2 (บันทึกภาพนี้หลังจากที่ไปทำแผล อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเรียบร้อยแล้ว) |
ผู้บาดเจ็บท่านที่3 |
ผู้บาดเจ็บท่านที่สี่ กำลังเซ็นต์ชื่อในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)